ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ก.พลังงาน เปิดโครงการ “PTT ENGINE TUNE UP 2009” นำร่องแห่งแรกที่โคราช ให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เพื่อประหยัดพลังงานฟรีแก่ปชช.ตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.-19 เม.ย.นี้ โดยทีมช่าง นศ.อาชีวะ เตรียมขยายจุดบริการเพิ่มอีก 50 แห่งทั่วประเทศรองรับ ปชช.เดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์
วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.อาทิตย์ไฮเวย์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดโครงการ “ตรวจเช็กเครื่องยนต์ เพื่อประหยัดพลังงาน PTT ENGINE TUNE UP 2009” นำร่องแห่งแรกของประเทศ โดยมี นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ
โดย ปตท.ได้นำร่องเปิดสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ที่ จ.นครราชสีมา จำนวน 10 แห่ง ให้บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เพื่อประหยัดพลังงานฟรีแก่ประชาชนทั่วไป โดยทีมนักศึกษาแผนกเครื่องยนต์ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดยจะทำการตรวจเช็กระบบเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าสัญญาณ ระบบห้ามล้อ ระบบส่งกำลัง รวมทั้งสิ้น 27 รายการ รวมถึงให้คำแนะนำอื่น ๆในการซ่อมบำรุงรถยนต์ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค.-19 เม.ย.นี้
นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 9-19 เม.ย.นี้ ปตท.จะขยายจุดบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 50 แห่งทั่วประเทศ โดยเน้นสถานีบริการน้ำมันตั้งอยู่ตามถนนสายหลักทั่วทุกภาคของประเทศ เพื่อรองรับประชาชนนักท่องเที่ยวที่เดินทางในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้
นพ.วรรณรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า โครงการ PTT ENGINE TUNE UP 2009 เป็นหนึ่งในมาตรการประหยัดพลังงาน ตามโครงการ “จังหวัดนำร่องประหยัดพลังงาน” ที่กระทรวงพลังงาน มุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์และประหยัดพลังงานทั้งในภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม บริการ และขนส่ง เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเกิดวินัยและสร้างจิตสำนึกในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ สอศ.จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้น
สำหรับโครงการดังกล่าวนอกจากจะช่วยประชาชนประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น เพราะการตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน จะทำให้ประหยัดน้ำมันได้ถึง 7% แล้ว ยังช่วยลดเขม่าและควันดำจากท่อไอเสียเครื่องยนต์ และป้องกันเหตุขัดข้องของเครื่องยนต์อันจะทำให้เกิดการจราจรติดขัดได้อีกทางหนึ่ง
“ที่สำคัญ ยังช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ให้แก่นักศึกษานอกเหนือจากการศึกษาในตำราเรียน และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีรายได้เสริมช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวของนักศึกษาในช่วงปิดภาคเรียนด้วย” นพ.วรรณรัตน์ กล่าว