น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น ทั้งการใช้ไฟฟ้า และการใช้น้ำมันในช่วงการเดินทางวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้น จึงเร่งทำแผนรณรงค์ลดการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทำโครงการล้างแอร์ช่วยชาติ รณรงค์การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เบอร์ 5 มอบหมายให้ ปตท.และบางจากฯ ทำโครงการบริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ (TUNE UP) ฟรี แก่ประชาชนทั่วไป ตามปั๊มน้ำมันที่ร่วมรายการทั่วประเทศ เพราะการตรวจเช็กสภาพรถเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน จะทำให้ประหยัดน้ำมันได้ถึง 7 เปอร์เซ็นต์ แล้ว ยังช่วยลดเขม่าและควันดำจากท่อไอเสียเครื่องยนต์ และป้องกันเหตุขัดข้องของเครื่องยนต์อันจะทำให้เกิดจราจรติดขัดได้อีกทางหนึ่ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า นอกจากรณรงค์ประหยัดพลังงานแล้ว กระทรวงฯ ยังดำเนินการจัดทำมาตรการอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น มาตรการด้านกฏหมาย มาตรการบริหาร เป็นต้น เพื่อให้เป็นไปตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 15 ปี ที่ตั้งเป้าหมายจะให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 20 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 6 จะช่วยลดการนำเข้าพลังงานเพิ่มจาก 9 หมื่นล้านบาท เป็น 4.6 แสนล้านบาทต่อปี จากที่ปี 2551 มีการนำเข้าสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท และมีการใช้พลังงานภาพรวม คิดเป็นเงิน 1.7 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ หากทำได้ตามแผนแล้ว ภายใน 15 ปี ยังจะสร้างรายได้แก่ประชาชน มีการลงทุนด้านพลังงานทดแทนรวมเป็นเงิน 3.8 แสนล้านบาท ลดปัญหาภาวะโลกร้อน เพราะจะลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.2 ล้านตันต่อปี และสามารถขายคาร์บอนคาร์ดิตได้ในตลาดโลกอีก 1.4 หมื่นล้านบาทต่อปี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า นอกจากรณรงค์ประหยัดพลังงานแล้ว กระทรวงฯ ยังดำเนินการจัดทำมาตรการอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น มาตรการด้านกฏหมาย มาตรการบริหาร เป็นต้น เพื่อให้เป็นไปตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 15 ปี ที่ตั้งเป้าหมายจะให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 20 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 6 จะช่วยลดการนำเข้าพลังงานเพิ่มจาก 9 หมื่นล้านบาท เป็น 4.6 แสนล้านบาทต่อปี จากที่ปี 2551 มีการนำเข้าสูงถึง 1.2 ล้านล้านบาท และมีการใช้พลังงานภาพรวม คิดเป็นเงิน 1.7 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ หากทำได้ตามแผนแล้ว ภายใน 15 ปี ยังจะสร้างรายได้แก่ประชาชน มีการลงทุนด้านพลังงานทดแทนรวมเป็นเงิน 3.8 แสนล้านบาท ลดปัญหาภาวะโลกร้อน เพราะจะลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.2 ล้านตันต่อปี และสามารถขายคาร์บอนคาร์ดิตได้ในตลาดโลกอีก 1.4 หมื่นล้านบาทต่อปี