ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยาแจงผลงาน 9 เดือน มุ่งพัฒนา 3 นโยบายหลักการศึกษา อนามัย และโครงสร้างพื้นฐาน
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาเมืองพัทยาในช่วงระยะเวลา 9 เดือน หลังเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารเมืองพัทยา ในที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษากลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กลุ่มที่ 1 ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาทีมงานคณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเมืองพัทยาได้มุ่งมั่นทำงานและพัฒนาเมืองพัทยาอย่างจริงจังและครอบคลุมตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้จำนวน 14 ข้ออย่างเต็มความสามารถ
โดยช่วงที่ผ่านมาได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงไปแล้วใน 3 นโยบายหลัก คือ 1.ในด้านของการสาธารณสุข ซึ่งมีแผนในการพัฒนาและสร้างโรงพยาบาลขนาด 20,000 เตียง เพื่อรองรับการให้บริการและช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในเขตเมืองพัทยา โดยได้มีแผนในการก่อสร้างโรงพยาบาลเมืองพัทยาขึ้นบริเวณกลางซอยบัวขาว พัทยากลาง ซึ่งขณะนี้ได้มีการว่าจ้างผู้รับเหมาและกำลังอยู่ในขั้นตอนของการก่อสร้างแล้ว
2.คือเรื่องของการศึกษา โดยปัจจุบันมีแผนงานในการก่อสร้างโรงเรียนเมืองพัทยาที่มีมาตรฐานเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือ โรงเรียนเมืองพัทยา 11 บริเวณซอยหนองใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งมีความพร้อมทั้งทางด้านอาคารเรียน สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากรครูที่มีความสามารถ โดยขณะนี้ได้มีการก่อสร้างจนใกล้แล้วเสร็จ และมีการประกาศรับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 แล้ว
โดยจะมีการเปิดทำการเรียนการสอนในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน 3.คือ ด้านการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ว่า “2 ปีถนนดินต้องหมดสิ้นไป” นั้น ที่ผ่านมาได้มีการขออนุญาตงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และงบอุดหนุนรวมจำ นวนกว่า 150 ล้านบาท ในการผลักดันโครงการปรับปรุงผิวการจราจรบนถนนดินจำนวน 19 เส้น ทาง จากที่ยังคงมีปัญหาจำนวน 25 เส้นทาง และคาดว่าในปี 2553 นี้โครงการดังกล่าวคงจะสำเร็จลุล่วงตามแผนการที่วางไว้ทั้งหมด
นายอิทธิพลกล่าวต่อไปว่า ขณะที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาพรวมของเมืองพัทยานั้น ในช่วงที่ผ่านมาถือว่ามีการผลักดันที่ก่อให้เกิดการส่งเสริมการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติได้อย่างตรงตามเป้าหมาย เนื่องจากมีกิจกรรมที่สำคัญให้ความสนใจเข้ามาจัดงานในพื้นที่เมืองพัทยาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกิจกรรมพัทยาเคาท์ดาวน์ ในช่วงปลายปี 51 กิจกรรมเทศกาลงานตรุษจีน กิจ กรรมการแข่งขันเทนนิสในรายการ WTA และกิจกรรมการแข่งขันกอล์ฟ Honda LPGA ที่เมืองพัทยา ซึ่งขนเอานักกอล์ฟระดับโลกกว่า 50 คนเข้าร่วมการแข่งขัน ยังไม่รวมเอากิจกรรมในเดือนมีนา คมที่ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมงาน “พัทยาอินเตอร์เนชั่นแนล มิวสิค เฟสติวัล 2009” ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าร่วมงานจำนวนนับแสนคน จึงถือว่ากิจ กรรมที่เป็น World Event นั้นประสพความสำเร็จเป็นอย่างดี
นายอิทธิพลกล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการในการส่งเสริมด้านอื่นๆนั้น ขณะนี้ได้มีแผน งานในการพลิกวิกฤติเป็นโอกาสโดยจะมีการร่วมมือกับกองทัพเรือในการพัฒนาสนามบินนานา ชาติอู่ตะเภาอย่างเป็นทางการ หลังพบว่ามีปัญหาในช่วงของการใช้งานในขณะเกิดปัญหาวิกฤติ การณ์ทางการเมืองในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยมีการปรับเปลี่ยนชื่อสนามบินอู่ตะเภาเป็น สนาม บินนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา พร้อมเข้าไปเป็นส่วนร่วมในบอร์ดบริหารของท่าอากาศยาน ซึ่งมีแผนงานในการปรับภูมิทัศน์ของสนามบิน การของบสนับสนุนจากภาครัฐในการขยายอาคารรอง รับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 300% หรือ 600 คนต่อชั่วโมง เป็น 3,000 คนต่อชั่วโมง และรองรับสายการบินเพิ่มขึ้นจาก 2 เที่ยวต่อชั่วโมงเป็น 6 เที่ยวการบินต่อชั่วโมง โดยจะมีการหารือและประชุมร่วมอีกครั้งในเร็ววันนี้
ขณะที่ ดร.วิษณุ พะลายานนท์ ประธานกลุ่มยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กลุ่มที่ 1 กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยว หรือ “โมโนเรล” ของเมืองพัทยา เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรอย่างมีประสิทธิภาพในที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาว่าจากการสำรวจระบบ ซึ่งเห็นว่ามีความเป็นไปได้ในการจัด ทำ เนื่องจากเป็นระบบที่มีศักยภาพในการให้ บริการ และมีโครงสร้างขนาดเล็ก โดยรถไฟฟ้าดังกล่าวจะมีการจัดตั้งเสาเหล็กขนาดความสูง 6 เมตร กว้าง 3 เมตร พาดรางรถไฟฟ้าไปตามเส้นทางและนำรถไฟฟ้ามาจัด ตั้งซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณคันละ 30-40 ที่นั่งและสามารถใช้งานได้ทันที โดยจะใช้เวลาก่อสร้างประ มาณ 2-3 ปีเท่านั้น
ดร.วิษณุ กล่าวต่อไปว่า เบื้องต้นได้มีการกำหนดพื้นที่ของการเดินรถจำนวน 1 เส้นทาง คือเส้นสายจากวงเวียนปลาโลมา ไปตามถนนสายชายหาด ไปถึงแหลมบาลีฮาย ในระยะทาง 6 กม. จากจำนวนสถานีจอด 5 จุดและศูนย์พักรถ 1 จุด โดยการบริหารจัดการนั้นจะมีการจัดตั้ง บจ.พัท ยาพัฒนาเมือง เข้ามาดูแล ซึ่งบริษัทนี้จะมีเมืองพัทยาถือหุ้น 99.99 % เหมือนโครงการถไฟฟ้า BTS ของ กทม. และหากมีการดำเนินการจริง เมืองพัทยาต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 3,600 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นงบที่เมืองพัทยาจัดสรร 1,000 ล้านบาท และการออกพันธบัตรอีก 3,000 ล้านบาท ขณะที่เมืองพัทยาจะมีจุดคุ้มทุนในเวลา 6 ปี ซึ่งคาดว่าหากมีการนำเรื่องเสนอสภาเมืองพัท ยาเพื่ออนุมัติในเร็ววันนี้และคงจะสามารถจัดทำโครงการแล้วเสร็จได้ในปี 2555 นี้
ทางด้านนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ระบบดังกล่าวถือว่ามีความจำ เป็น เนื่องจากเมืองพัทยาไม่สามารถขยายตัวได้อีก นอกจากนี้โครงการนี้ยังจะถือเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ การท่องเที่ยว และแก้ไขปัญหาการจราจรได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามในเรื่องของงบ ประมาณนั้นพบว่าจำเป็นต้องใช้ค่อนข้างเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการวางแผนอย่างรัดกุมและให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากยังมีหลายขั้นตอนที่ต้องจัดทำ ทั้งเรื่องของงานวิศวกรรม เงินทุน สิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมของประชาชน และทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้คงจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าร่วมหารือกับผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งสภาเมืองพัทยาอีกครั้งเพื่อกำหนดทิศทางที่ชัดเจน ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
