กทม.ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณขอเปลี่ยนแปลงรายการงบอุดหนุนรัฐบาล 3,800 ล้านบาทมากระตุ้นเศรษฐกิจ ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินชาวมืองกรุง
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร( กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวงเงินงบประมาณใหม่ เพื่อนำไปใช้ในภารกิจเร่งด่วนจำนวน 8,000 ล้านบาท โดยจะพิจารณาจากงบกันเหลื่อมปี ตั้งแต่ปี 2546-2551 ที่มีการจัดสรรแล้วแต่เบิกจ่ายมาใช้ไม่ทัน วงเงินรวม 23,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในวงเงิน 8,000 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นงบ กทม.4,200 ล้านบาท และงบอุดหนุนจากรัฐบาล 3,800 ล้านบาท โดย กทม.จะนำมาเปลี่ยนแปลงการใช้รายการใหม่โดยส่วนงบกทม.จะนำไปใช้ในภาระกิจที่มีงบผูกพันอยู่แล้ว แต่ไม่มีเม็ดเงิน
ทั้งนี้ เพื่อไม่กระทบกับเงินสะสม ส่วนงบอุดหนุนจากรัฐกทม.จะขอเปลี่ยนแปลงรายการเพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงการผูกพันเร่งด่วน เช่น โครงการก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินชาวกทม.เป็นต้น โดยในส่วนนี้คณะผู้บริหารมีอำนาจในการพิจารณาได้เองโดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากสภา กทม. อย่างไรก็ตาม ตนจะตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดโครงการที่จะต้องใช้จ่ายอย่างเร่งด่วนต่อไป
นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภา กทม.สมัยวิสามัญ คณะผู้บริหารจะเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2552 หรืองบกลางปี วงเงิน 3,000 ล้านบาท ให้ที่ประชุมสภา กทม.พิจารณาอนุมัติ เพื่อนำงบดังกล่าวมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณประจำปีงบประมาณปี 2552 ที่ผ่านสภา กทม.เมื่อปีที่ผ่านมา จำนวน 46,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ กทม.ได้ปรับลดวงเงินเหลือ 43,000 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลได้ปรับลดวงเงินรายได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าการปรับลดวงเงินลงจะไม่มีปัญหากับ กทม.แต่อย่างใด
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร( กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงวงเงินงบประมาณใหม่ เพื่อนำไปใช้ในภารกิจเร่งด่วนจำนวน 8,000 ล้านบาท โดยจะพิจารณาจากงบกันเหลื่อมปี ตั้งแต่ปี 2546-2551 ที่มีการจัดสรรแล้วแต่เบิกจ่ายมาใช้ไม่ทัน วงเงินรวม 23,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในวงเงิน 8,000 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นงบ กทม.4,200 ล้านบาท และงบอุดหนุนจากรัฐบาล 3,800 ล้านบาท โดย กทม.จะนำมาเปลี่ยนแปลงการใช้รายการใหม่โดยส่วนงบกทม.จะนำไปใช้ในภาระกิจที่มีงบผูกพันอยู่แล้ว แต่ไม่มีเม็ดเงิน
ทั้งนี้ เพื่อไม่กระทบกับเงินสะสม ส่วนงบอุดหนุนจากรัฐกทม.จะขอเปลี่ยนแปลงรายการเพื่อนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการต่างๆ ที่เป็นโครงการผูกพันเร่งด่วน เช่น โครงการก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินชาวกทม.เป็นต้น โดยในส่วนนี้คณะผู้บริหารมีอำนาจในการพิจารณาได้เองโดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากสภา กทม. อย่างไรก็ตาม ตนจะตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษารายละเอียดโครงการที่จะต้องใช้จ่ายอย่างเร่งด่วนต่อไป
นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดประชุมสภา กทม.สมัยวิสามัญ คณะผู้บริหารจะเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ปี 2552 หรืองบกลางปี วงเงิน 3,000 ล้านบาท ให้ที่ประชุมสภา กทม.พิจารณาอนุมัติ เพื่อนำงบดังกล่าวมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณประจำปีงบประมาณปี 2552 ที่ผ่านสภา กทม.เมื่อปีที่ผ่านมา จำนวน 46,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ กทม.ได้ปรับลดวงเงินเหลือ 43,000 ล้านบาท เนื่องจากรัฐบาลได้ปรับลดวงเงินรายได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าการปรับลดวงเงินลงจะไม่มีปัญหากับ กทม.แต่อย่างใด