xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรจี้ ปชป.สางทุจริตจำนำพืชผลเกษตร ชี้ที่ผ่านมาเงินถึงมือชาวบ้านแค่ 50%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – ชาวสวนข้าวโพดครวญรัฐบาล ปชป.ขยายโครงการจำนำข้าวโพดช้า หลังเทขายเกือบหมด วอนเปิดช่องนำผลผลิตตกค้างจากครั้งก่อนร่วมพันตัน ที่ใกล้หมดเวลารับฝากเข้าโครงการก่อน แนะรัฐบาลใหม่สางปัญหาทุจริต ในการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิด ชี้ที่ผ่านมามีเงินถึงมือเกษตรกรไม่ถึง 50%

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย (13 ม.ค.) แจ้งว่า จากกรณีกลุ่มผู้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดใน จ.เชียงราย ได้รวมตัวเรียกร้องให้รัฐบาลรับจำนำข้าวโพดต่อจากโควต้า 50,000 ตัน กระทั่งล่าสุดรัฐบาลโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ขยายโครงการโดยเพิ่มอีก 75,000 ตัน ดำเนินการไปถึงเดือน ก.พ.นี้ ล่าสุดปรากฎว่ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดใน จ.เชียงราย ยังคงเดือดร้อน เนื่องจากหลังจากรวมตัวกันปิดถนนเรียกร้องเมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค.2551

จนจังหวัดออกมาแก้ไขปัญหาด้วยการขอให้บริษัท เชียงรายกิจศิริไซโล 1995จำกัด ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย รับฝากผลผลิตข้าวโพดไม่สามารถนำเข้าโครงการรับจำนำครั้งก่อนได้ทันจำนวน 724 ตัน จะหมดระยะเวลาการรับฝากในวันที่ 16 ม.ค.นี้แล้ว

นายสมบัติ นิลประภา แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จ.เชียงราย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่รัฐบาลได้ขยายโครงการรับจำนำออกไปเพราะยังเหลือผลผลิตเป็นจำนวนมากที่รอการช่วยเหลือมาจากโครงการครั้งก่อน โดยในส่วนของเชียงราย อยากจะให้ช่วยเหลือผลผลิตที่ล้นมาจากครั้งก่อนจำนวน 724 ตันก่อน โดยกลุ่มได้มีการประชุมกันแล้วและอยู่ระหว่างรวบรวมรายชื่อของเกษตรกรเจ้าของข้าวโพดเพื่อจะนำเข้าสู่โครงการ

จากนั้นค่อยนำผลผลิตไม่ได้เข้าร่วมโครงการครั้งก่อนมาเข้าโครงการต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าคงไม่สามารถนำผลผลิตทั้งหมดเข้าสู่โครงการรับจำนำได้เพราะมีปริมาณมากและจำนวนข้าวโพดที่รัฐบาลรับจำนำก็เพิ่มขึ้นมาจากตัวเลขที่รัฐบาลชุดเก่ารับจำนำเพียง 25,000 ตันเท่านั้น เฉพาะเชียงรายก็คาดว่ามีผลผลิตอีกไม่น้อยกว่า 1-2 หมื่นตันแล้ว

นายสมบัติ กล่าวอีกว่า แม้จะยินดีกับการขยายโครงการ แต่พวกเราก็กำลังประสบปัญหาหนักเนื่องจากระยะเวลาในการทำข้อตกลงระหว่างกลุ่มเกษตรกร และจังหวัดกับไซโลจะหมดลงในวันที่ 16 ม.ค.นี้แล้ว ซึ่งก็เชื่อว่าเวลาอีกเพียงไม่กี่วันโครงการรับจำนำคงจะยังไม่ถึงพื้นที่แน่นอน และงบประมาณจากรัฐบาลก็ไม่รู้จะดำเนินการได้เมื่อไหร่

ดังนั้น ในวันที่ 15 ม.ค.นี้ กลุ่มเกษตรกรจะไปยื่นหนังสือต่อทางไซโล เพื่อขอร้องให้ช่วยขยายระยะเวลาฝากออกไปก่อน หากจะคิดค่าใช้จ่ายอย่างไรก็ให้ทางไซโลได้แจ้งให้ชาวบ้านได้รับทราบ เพราะตามข้อตกลงเดิมไม่ได้คิดค่าฝากเพียง แต่คิดค่าอบในไซโลตันละ 350 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกัน ก็ขอให้รัฐบาลเร่งรีบดำเนินโครงการดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อให้ทันต่อความเดือดร้อนของประชาชน

“ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างรัฐบาลและไม่มีโครงการรับจำนำ ชาวบ้านไม่สามารถทนต่อปัญหาหนี้สินได้ จึงพากันเทขายผลผลิตตามท้องตลาดได้ราคากิโลกรัมละ 5-6 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นราคาคุ้มทุนหรือพออยู่ได้แต่หากต่ำกว่านี้คงจะแย่หนัก” นายสมบัติ กล่าว

แกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จ.เชียงราย กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ได้เดินหน้าการเมืองใหม่ ด้วยการป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำด้วย เพราะที่ผ่านมาเชื่อว่าการทุจริตกระทำกันเป็นขบวนการในพืชทุกชนิดทั้งข้าวโพด ข้าว ลำไย ฯลฯ คิดว่าแท้ที่จริงเงินคงถึงเกษตรกรแค่ 50% ดังนั้นจึงหวังกับการเมืองใหม่

ในส่วนของกลุ่มเกษตรกรที่ จ.เชียงราย ก็ได้มีการประชุมรับมือการทุจริตแล้วแต่เราคงเข้าไปมีส่วนร่วมได้ยากเพราะเราอยู่ในตอนปลายของระบบจำนำ และกว่าการตรวจสอบปกติจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลานานด้วย ดังนั้นจึงแจ้งให้สมาชิกทุกคนได้พึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด โดยหลังโครงการรับจำนำครั้งนี้ต้องมีการรวมตัวเพื่อต่อรองราคา และเสาะหาตลาดที่จะสามารถขายผลผลิตตามท้องตลาดโดยที่สามารถอยู่ได้ต่อไป ทั้งในโครงการรับจำนำนั้น ข้าวโพดความชื้น 14.5% รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 8.50 บาท ความชื้น 30% กิโลกรัมละ 5.95 บาท ความชื้น 20.1% กิโลกรัมละ 7.21 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น