รมช.พาณิชย์ เชือดโชว์รายแรก หจก.พืชผลสุวรรณภูมิ จ.ตาก ตั้งขบวนการลักลอบนำเข้าข้าวโพดพม่า 3 หมื่นตัน มูลค่ากว่า 250 ล้านบาท เพื่อสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำ ฟันส่วนต่างราคา ส่งผลให้โครงการเต็มเร็ว ชาวไร่ตัวจริงได้รับความเดือดร้อน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนำทีมภาครัฐและเอกชนตรวจสอบการสวมสิทธิ์รับจำนำข้าวโพดในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ ตาก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ และเลย หลังตรวจพบการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวโพด และการลักลอบนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยตรวจพบ 1 ราย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พืชผลสุวรรณภูมิ จ.ตาก
ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบ พบว่า หจก.พืชผลสุวรรณภูมิ ได้สวมสิทธินำเข้าข้าวโพดจากพม่าราคาต่ำ เพื่อมาจำนำในโครงการของรัฐบาลถึง 3 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท โดยได้ร่วมกับเกษตรกร ผู้ประกอบการไทย และพม่า ทุจริตเป็นขบวนการ ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้โครงการรับจำนำเต็มเร็ว จนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องมีมติให้เพิ่มปริมาณรับจำนำอีก 2.5 แสนตัน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ซึ่งทางการกำลังดำเนินคดีกับห้างหุ้นส่วนนี้ เพื่อให้เป็นตัวอย่าง
การตรวจสอบดังกล่าว ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในและตำรวจดำเนินการตรวจสอบการรับจำนำข้าวโพดในพื้นที่ จ.ตาก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ และ เลย ซึ่งได้รับการร้องเรียนว่ามีการรับจำนำมากผิดปกติ เพราะมติคณะรัฐมนตรีให้รับจำนำ 5 แสนตัน สิ้นสุด 16 ธันวาคม 2551 แต่มีปริมาณข้าวโพดที่เข้าโครงการถึงกว่า 6 แสนตัน ทำให้การรับจำนำเต็มเร็วกว่ากำหนด และชาวไร่ข้าวโพดตัวจริงได้รับความเดือดร้อน โดยขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินคดีแล้ว
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การตรวจสอบจะยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ แต่ทางการจะลงทุกพื้นที่และลงลึกไปถึงข้อมูลการเพาะปลูกข้าวโพดในจังหวัดนั้นๆ ว่า มีปริมาณผลผลิตสอดคล้องกับปริมาณที่ได้รับจำนำหรือไม่ ถ้าหากไม่สอดคล้องก็แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งจะต้องถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด
“รัฐบาลได้พยายามให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากปริมาณที่เปิดรับจำนำไม่เพียงพอก็พร้อมที่จะแก้ไขมติ ครม.ให้ตามความเป็นจริง แต่ก็ขอให้อย่าโกง”
อย่างไรก็ดี การตรวจสอบอย่างเข้มงวดนี้จะไม่กระทบต่อข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่ไทยได้ทำกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น โครงการคอนแทรกฟาร์มมิง หรือการลดภาษีเป็นพิเศษที่ไทยให้กับประเทศเพื่อนบ้านที่ผู้ประกอบการไทยจะนำข้าวโพดเข้ามา เพราะหากทำตามกฎระเบียบอย่างถูกต้องรับประกันได้ว่าจะไม่มีปัญหา
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวโพดที่ ครม.ได้ขยายปริมาณรับจำนำจาก 5 แสนตัน เพิ่มเป็น 7.5 แสนตัน ระยะโครงการจากเดือนธันวาคม 2551-กุมภาพันธ์ 2552 ในราคา 8.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับจำนำเร่งเปิดจุดรับจำนำให้ได้ภายในวันนี้ เนื่องจาก ครม.อนุมัติในหลักการมา 10 กว่าวันแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดโครงการได้ อย่างไรก็ดี ได้กำหนดกรอบการรับจำนำข้าวโพดจากเกษตรไว้รายละไม่เกิน 1 แสนบาท