ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชเร่งออกตรวจโรงแป้งและลานมันฯ ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำในพื้นที่ อ.ขามทะเลสอ หวั่นซ้ำรอยม็อบเกษตรกรข้าวโพด เผย ยังไม่พบปัญหาการสวมสิทธิ์ และการปฏิเสธรับจำนำ เตรียมทำความเข้าใจเกษตรกร หากเกิดปัญหาเต็มโควตา 5 ล้านตันทั่วประเทศ ด้านโรงแป้ง ระบุ คาดปลายเดือน ม.ค.นี้ เต็มโควตารับจำนำแน่ แนะรัฐบาลขยายเพิ่มเหตุผลผลิตปีนี้พุ่ง ชี้ ปีหน้าตลาดแข่งขันสูงราคามันตกต่ำกว่าเดิม
วันนี้ (22 ธ.ค.) ว่าที่ ร.ต.สมบัติ จันทร์เจษฏรกร นายอำเภอขามทะเลสอ พร้อม นายภาคภูมิ จงปัตนา เกษตรอำเภอขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ลงพื้นที่ตรวจโรงแป้งมันและลานมันฯ ที่เข้าร่วมโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ฤดูการผลิต 2551/2552 ที่ บริษัท โชคยืนยงอุตสาหกรรม จำกัด เลขที่ 100 หมู่ 5 ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ ซึ่งเป็นโรงแป้งมันรายใหญ่ของ อ.ขามสะแกแสง ที่เข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ เพื่อติดตามการดำเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังของอำเภอขามทะเลสอ รวมทั้งรับทราบปัญหา ทั้งในส่วนของเกษตรกรที่นำมันสำปะหลังมาจำนำ และผู้ประกอบการโรงแป้งมันที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อป้องกันปัญหาการสวมสิทธิ์และผู้ประกอบการฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร ซึ่งอาจจะนำไปสู่การประท้วงชุมนุมปิดถนนเรียกร้อง สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด
สำหรับพื้นที่ อ.ขามทะเลสอ มีเกษตรกร ผู้ปลูกมันสำปะหลังขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 1,052 ราย มีพื้นที่ปลูกมันฯ ทั้งหมด 38,085 ไร่ ผลผลิตทั้งหมด 155,786 ตัน และมีผู้ประกอบการโรงแป้งมันฯเข้าร่วมโครงการแทรกแซง 3 แห่ง ประกอบด้วย ลานมันพรประเสริฐ ต.หนองสรวง รับหัวมันฯสด ได้วันละ 200 ตัน เปิดรับจำนำตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.2551, บริษัทเอี่ยมธัญธร จำกัด ต.บึงอ้อ อ.ขามทะเลสอ รับหัวมันฯ สดได้วันละ 1,000 ตัน เปิดรับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา และ บจก.โชคยืนยงอุตสาหกรรม (โรงแป้ง) ต.โป่งแดง อ.ขามทะเลสอ รับหัวมันฯ สดได้วันละ 1,000 ตัน เปิดรับจำนำตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.2551 ที่ผ่านมา
ว่าที่ ร.ต.สมบัติ จันทรเจษฏากร นายอำเภอขามทะเลสอ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบยังไม่พบปัญหาแต่อย่างใด เกษตรกรนำหัวมันฯ มาจำนำอย่างต่อเนื่อง ราคารับจำนำเชื้อแป้ง 30% กก.ละ 1.95 บาท ส่วนราคารับซื้อในตลาดอยู่ที่ 1.30-1.52 บาท/กก. เกษตรกรส่วนใหญ่พอใจกับราคาที่รับจำนำและปีนี้เกษตรกรหันมาปลูกมันฯ เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่เกิดปัญหาเต็มโควตาที่รัฐบาลรับจำนำ 5 ล้านตันทั่วประเทศ หรือถูกปฏิเสธรับจำนำ ขณะนี้เกษตรกรสามารถนำผลผลิตมันฯ ออกมาขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการจะสิ้นสุดในเดือน เม.ย.2552 ซึ่งราคาจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนๆ 50 ส.ต./กก.ซึ่งเดือน เม.ย.ราคารับจำนำจะอยู่ที่ 2.05 บาท/กก.
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปีนี้เกษตรกรปลูกมันฯเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโคราชถือเป็นแหล่งปลูกมันฯมากที่สุดของประเทศไทย และปีนี้จะมีผลผลิตหัวมันฯสดสู่ตลาดกว่า 10 ล้านตัน ดังนั้น คาดว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอาจมีปัญหาเรื่องโควตารับจำนำเต็ม 5 ล้านตันทั่วประเทศ และจะทำให้ต้องปิดโครงการรับจำนำฯ ก่อนถึงระยะเวลาที่กำหนดไว้เดิม เรื่องนี้ทางอำเภอที่เตรียมทำความเข้าใจและชี้แจงให้เกษตรกรได้เข้าใจแล้ว เพื่อป้องกันการชุมนุมปิดถนนเหมือนเช่นกลุ่มเกษตรผู้ปลูกข้าวโพด
ส่วนการสวมสิทธิ์นั้น ทางผู้ใหญ่บ้านของแต่ละหมู่บ้านใน อ.ขามสะแกแสง จะสับเปลี่ยนกันเข้ามาร่วมตรวจสอบว่าเป็นเกษตรกรจริงหรือไม่ ที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาเรื่องการสวมสิทธิ์เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ด้าน นางปรินทร ยืนยง กรรมการผู้จัดการ บจก.โชคยืนยงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรได้ทยอยนำผลผลิตมันฯออกมาจำนำเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ อ.ขามทะสอเท่านั้น แต่เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ด่านขุนทด, พิมาย, สีคิ้ว, เมือง,โนนไทย และขามสะแกแสง ก็นำผลผลิตมาจำนำกับทางโรงแป้งเช่นกัน
โดยปัจจุบันรับจำนำหัวมันสดได้วันละ 1,000 ตัน ซึ่งปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือ เกษตรกรมักจะนำหัวมันฯ เน่า, หัวมันฝ่อ มาผสมกับหัวมันฯดี ซึ่งทางโรงแป้งต้องหักค่าใช้จ่ายในส่วนหัวมันฯ เน่าออก และทำความเข้าใจกับเกษตรกรด้วย อย่างไรก็ตาม ราคาที่รับจำนำเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจเพราะมีส่วนต่างกับราคาที่ตลาดรับซื้อถึง 50 ส.ต./กก.
สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือจากข้อมูล พบว่า มีผู้ประกอบการทั้งโรงแป้งและลานมันเข้าร่วมโครงการฯทั่วประเทศกว่า 400 แห่ง ประกอบกับปีนี้ผลผลิตมันฯ ดีมีพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น คาดว่าปลายเดือน ม.ค.ถึงต้นเดือน ก.พ.2552 โควตาที่รัฐบาลเปิดรับจำนำ 5 ล้านตันทั่วประเทศ จะเต็มก่อนสิ้นสุดโครงการในเดือน เม.ย.2552 ขณะที่หัวมันฯยังอยู่ในมือของเกษตรกรเป็นจำนวนมาก หากรัฐบาลไม่เตรียมแผนที่จะรองรับหรือขยายโควต้าเพิ่มขึ้นจะทำให้เกิดปัญหาการชุมนุมประท้วงของเกษตรกรผู้ปลูกมันฯ เหมือนเช่นเกษตรกรปลูกข้าวโพดที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้อย่างแน่นอน
นางปรินทร กล่าวอีกว่า แนวโน้มตลาดมันสำปะหลังในปีหน้า จะมีการแข่งขันกันสูงโดยเฉพาะตลาดภายในประเทศ เนื่องจากตลาดต่างประเทศลดออเดอร์ลงอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นผู้ประกอบการที่ทำการส่งออกก็จะเข้ามาแย่งตลาดภายในประเทศ ประกอบกับผลผลิตทั้งแป้งมันและมันเส้นของรัฐบาลที่รับจำนำไว้ในฤดูการผลิตปีนี้ ก็จะต้องนำออกขายสู่ตลาด
“ฉะนั้น จึงคาดว่า ปีหน้านี้ ราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะมันสำปะหลังจะตกต่ำมากกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตลาดต่างประเทศและสภาพภูมิอากาศของโลกด้วย หากมีคำสั่งซื้อเข้ามามากอาจจะช่วยให้ราคามันสำปะหลังดีขึ้นได้” นางปรินทร กล่าว