ตราด - ตชด.117 จับผู้ลักลอบตัดไม้ป่าชายเลนรายใหญ่ได้ไม้ 1,000 ท่อน โว ไม่กลัวให้ ตชด.117 ขน เดี๋ยวก็รู้, เจ้าของที่ดินโวยไม่รู้เรื่อง ระบุถูกขโมยตัดไม้
วันนี้ (21 พ.ย.51) ที่บ้านหมู่ 2 บ้านนาเกลือ ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด ว่าที่ ร.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีเดช ผู้บังคับกองร้อย ตชด.ที่ 117 บ้านท่าแพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตะเวนชายแดน 117 จำนวน 10 นาย พร้อมนายมานพ รอดแจ่ม หัวหน้าหน่วยคุ้มครองป่าชายเลนที่ 1 ตราด บ้านน้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด และเจ้าหน้าพิทักษ์ป่า 8 นาย เข้าทำการตรวจยึดไม้ท่อนจำนวนกว่า 1,000 ท่อน ที่ถูกเสี้ยมเป็นปลายแหลม เพื่อเตรียมขายให้กับผู้ซื้อที่จะนำไปทำเสาแผงตากปลาแห้ง มีนายศิริวัฒน์ หาญเหี้ยม อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 83/3 หมู่ 2 ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด แสดงตัวเป็นเจ้าของ
ร.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีเดช เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชาวบ้านที่ร่วมมือกับนายทุนทำการตัดไม้ หวงห้ามในป่าชายเลนบ้านนาเกลือมานาน และเป็นรายเดียวกันที่ถูกจับกุมเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา จึงได้ส่งตำรวจ ตะเวนชายแดนที่ 117 ติดตามและสามารถตรวจยึดได้เมื่อเช้าวันนี้ (06.00 น.) จึงได้แจ้งให้หน่วยคุ้มครองป้องกัน ป่าชายเลนที่ 1 ตราด ได้เข้ามาตรวจยึดร่วมโดยพบว่า นายศิริวัฒน์ หรือจ๊อก หาญเหี้ยม ประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของ ได้ท่อนเหล่านี้
จากการที่เจ้าหน้าที่หน่วยคุ้มครองป้องกันป่าชายเลนที่ 1 ตราด ได้แยกชนิดของไม้แล้วพบว่า เป็นไม้ฝาด ดอกขาว ไม้รังกะแท้ และไม้โปง จึงได้ทำการตรวจยึดไม้ท่อนทั้งหมดไว้ดำเนินคดี
นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า ไม้เหล่านี้ตัดในพื้นที่ นส.3 ก. ของนายชูเกียรติ เรืองรัตนตรัย ซึ่งไม่ผิดกฎหมาย ซึ่งตนเองสามารถนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงได้หากจะจับไปก็ได้ เพราะเดี๋ยวก็ไปเอากลับคืนมา ทั้งหมดตนเองจะนำ ไปขายให้กับผู้ประกอบธุรกิจตากปลาแห้งท่อนละ 5- 6 บาท และจะมีการสั่งซื้อมาจำนวนนับพันท่อน/ครั้ง โดยมีชาว บ้าน 3-4 คนตัดไม้มาขายให้อีกทอดหนึ่ง ทั้งหมดใช้การลงทุนแค่น้ำมันจำนวน 5-6 ลิตรเท่านั้น
ทางด้านนายชูเกียรติ เรืองรัตนตรัย เจ้าของบริษัท ตราดตั้งง่วนเซ้ง จำกัด ผู้ค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ใน จ.ตราด กล่าวว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของตนเองจริง แต่ไม่ได้ให้นายศิริวัฒน์ หาญเหี้ยม เข้าไปตัดไม้ ส่วนที่นายศิริวัฒน์ หาญเหี้ยม มาแอบอ้างนั้น เพราะครั้งที่แล้ว นายศิริวัฒน์ หาญเหี้ยม และนายอารักษ์ ไชยริปู ที่เป็นทนายความและอดีต สส.บัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทยมาขอร้องให้ช่วยเหลือลูกความ เพราะอ้างว่าต้อง ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว จึงตัดสินใจช่วยเหลือไปโดยนำเอสาร นส.3 ก มายืนยันทำให้อัยการจังหวัดไม่สั่งฟ้อง ในคดีดังกล่าว แต่ครั้งนี้มาอ้างชื่อตนเอง จะทำให้ตนเองเสียชื่อและตำรวจจะเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นนายทุนที่อยู่ เบื้องหลัง ดังนั้น จะมอบหมายให้ทนายความไปแจ้งความว่าไม้ชายเลนในที่ดินของตนเองกว่า 100 ไร่ถูกขโมยตัด ไปจะได้ไม่ต้องมีปัญหาถึงตนเองอีก
ที่ผ่านมานายศิริวัฒน์ หาญเหี้ยม เป็นที่รับรู้ของตำรวจทั้งใน อ.เมืองตราด และ อ.บ่อไร่ ว่าเป็นผู้อยู่เบื้อง หลังการตัดไม้ทำลายป่าบกและป่าชายเลนหลายครั้ง และหลุดคดีมาได้ทุกครั้ง