ตราด - ชายแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดตราดไม่คึกคัก ร้านค้ากัมพูชาปิดร้านหนี-ชาวกัมพูชาเดินทางกลับ นภอ.คลองใหญ่ มั่นใจหากไม่มีสู้รบ 2-3 วันกลับคืนปกติ พ่อค้ากัมพูชาหวั่นกลัวไม่ปลอดภัย
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นเวลาเปิดด่านฯหาดเล็ก ปรากฏว่าบรรยากาศในช่วงชั่วโมงแรก พ่อค้า-แม่ค้ากัมพูชา เดินทางมาซื้อสินค้าจากตลาดหาดเล็กบางตา เช่นเดียวกัน ร้านค้าขายในตลาดหาดเล็กมีจำนวนร้านลดลงเกือบ 50% ส่งผลให้การค้าขายไม่คึกคักมากนัก ขณะเดียวกัน ร้านค้าขายของแม่ค้ากัมพูชาในตลาดหาดเล็กก็ปิดร้านค้า กลับไป จ.เกาะกง กัมพูชา
เนื่องจากหวั่นกลัวว่าจุดผ่านแดนถาวรบ้านจามเยี่ยม จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา จะปิด และไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ นอกจากนี้ ยังมีชาวกัมพูชาจำนวนกว่า 50 คน รอเดินทางออกจาก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ส่วนในฝั่งพื้นที่บ้านจามเยี่ยมพ่อค้า-แม่ค้ากัมพูชาก็มีเพียงไม่กี่คน อย่างไรก็ตาม ในเวลา 8.00 น. เริ่มมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามามากขึ้น หลังเกิดความเชื่อมั่นในสถานการณ์ว่าจะไม่มีอะไรรุนแรง
เวลา 8.00 น. นายภวัต เลิศมุกดา นายอำเภอคลองใหญ่ น.อ.ปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม หน.หน่วย ประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด เดินทางมาตรวจสถานการณ์ชายแดนที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวร บ้านหาดเล็ก ได้กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อจำนวนพ่อค้า-แม่ค้า และนักท่องเที่ยวชายแดนระดับหนึ่ง เนื่องจากชาวกัมพูชาหวั่นจะเกิดปัญหาขึ้น แต่สถานการณ์เช่นนี้จะเป็นอยู่ 2-3 วันก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ เพราะพื้นที่ชายแดนด้าน จ.ตราด ไม่เคยมีผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งมากนัก เนื่องจากทั้งผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง และฝ่ายไทยได้มีการพูดคุยและแก้ปัญหาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายอำพล อุ่นชู ปลัดเทศบาล ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด กล่าวว่า ผลกระทบในพื้นที่ชาย แดนคงไม่มีมากนัก ขณะที่แรงงานประมงและแรงงานขนสินค้าในท่าเรือส่งออกบ้านคลองสน ที่มีจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางกลับไปยัง จ.เกาะกง ทั้งในเรื่องกลัวความไม่ปลอดภัยและการเดินทางไปทำบุญใหญ่หลังวันออกพรรษา ที่อาจจะต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะเดินทางกลับ แต่ผลที่กระทบก็คือการขาดแคลนแรงงานขนส่งสินค้าและแรงงาน ประมง ซึ่งโชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงเดือนหงาย เรือประมงไม่ทำประมงจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ในส่วนของนายอุทิศ ขวัญศิริมงคล พ่อค้าส่งปลาทะเลของท่าเรือกัลปังหา (ท่าเรือส่งออก) กล่าวว่า เรือประมงพื้นบ้าน กัมพูชาไม่ได้วิตกกังวลในเรื่องสถานการณ์ความขัดแย้งมากนักเพราะทุกวันจะมีเรือประมงพื้นบ้านชาวกัมพูชา จำนวน 50-60 ลำนำปลามาขายให้ที่ท่าเรือทุกวัน แต่ทุกคนจะไม่ขึ้นฝั่ง เมื่อขายปลาแล้วก็จะเดินทางกลับ ส่วนเรือ ประมงขนาดใหญ่จะยังไม่เดินทางไปในขณะนี้เนื่องจากเป็นช่วงเดือนหงายและแรงงานกัมพูชาบางส่วนที่ยังไม่เดิน ทางกลับมา
ทางด้าน นายสุรเดช ชัยราช เจ้าของเรือประมงชาวไทยที่ไปทำปะการังในน่านน้ำกัมพูชา กล่าวว่า ตนและเพื่อนประมง ชาวไทยจำนวน 40-50 ลำจะเดินทางไปทำประมงในน่านน้ำกัมพูชา โดยมีเพื่อนชาวประมงกัมพูชาอีก 20-30 ลำ ทำประมงร่วมด้วย เมื่อได้ปลาที่ส่วนใหญ่เป็นปลาทู ปลาข้างเหลือง เต็มลำแล้วก็นำมาขายในท่าเรือคลองสน ซึ่งจะ มีลูกเรือกัมพูชา 2-3 คนมาด้วย เมื่อมีเหตุขัดแย้งก็กลัวบ้าง แต่คิดว่าคงไม่เกิดอันตรายใดๆ แต่ก็ไม่อยากให้เกิด เหตุการณ์ขัดแย้งขึ้นเนื่องจากจะไม่เกิดผลดีต่อทั้งสองฝ่าย