xs
xsm
sm
md
lg

ไทย-เขมรขนทหารอาวุธหนักเสริมกำลังรอบ “เขาวิหาร” - แม่ทัพ 2 ฝ่ายเปิดเจรจาแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบ:จาก AFP
ศรีสะเกษ - ไทย-กัมพูชาต่างระดมทหารพร้อมอาวุธหนักปืนใหญ่- รถถัง เคลื่อนเข้าเสริมกำลังรอบเขาพระวิหาร ขณะที่ “พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์” แม่ทัพภาค 2 เข้าร่วมเจรจากับ “พล.ท.เจีย มอน” ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ที่อุทยานฯเขาพระวิหารแล้ว ทางด้านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ ร้างพ่อค้าชาวไทย-กัมพูชาผวาภัยสงครามเก็บข้าวของอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยจำนวนมาก ล่าสุดทหารไทยขอให้สื่อมวลชนออกจากบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานฯ เขาพระวิหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา หลังทหารไทยกับทหารกัมพูชาเปิดฉากปะทะกันกว่า 30 นาที ที่บริเวณภูมะเขือ ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากเขาพระวิหารไปทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 2.5-3 กิโลเมตร ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 7 นาย และมีรายงานว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นายนั้น

ล่าสุด วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น.ที่บริเวณบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีขบวนรถบรรทุกทหารหลาย 10 คัน บรรทุกทหารพร้อมด้วยอาวุธหนักเบาครบมือจากหลายหน่วยในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 เดินทางเข้าไปยังบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนรอบเขาพระวิหาร

ขณะเดียวกัน ได้มีขบวนรถถังประมาณ 5 คัน และรถส่งกำลังบำรุงเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณที่ตั้งข้างหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เข้าไปยังบริเวณภูมะเขือและช่องตาเฒ่า เพื่อเสริมกำลังป้องกันแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มเติม

ต่อมาเวลา 09.00 น.วันเดียวกันนี้ ที่บริเวณหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการที่จะเข้าร่วมประชุมเจรจา กับ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการ (ผบ.) ภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ซึ่งมีกำหนดจะประชุมเจรจากันในวันนี้ ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

โดยมีนายทหารระดับสูงของกองกำลังสุรนารีเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ล่าสุดให้แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ทราบ รวมทั้งข้อมูลแนวทางในการแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารร่วมกับฝ่ายทหารกัมพูชา

ขณะที่บริเวณด้านหน้าหน่วยเฉพาะกิจกรททหารพรานที่ 23 เจ้าหน้าที่ทหารได้ขอความร่วมมือไม่ให้สื่อมวลชนทุกแขนงเข้าไปภายในบริเวณหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อย่างเด็ดขาด เพราะกำลังมีการประชุมหารือกันเกี่ยวกับความมั่นคง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันเดียวกันนี้ (16 ต.ค.) เวลา 14.30 น. จ.ส.อ.เกริกชัย ผ่องแผ้ว รักษาราชการแทนนายอำเภอกันทรลักษ์ ได้เรียกประชุมด่วนทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมแผนในการเตรียมพร้อมอพยพประชาชนออกจากบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ส่วนที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่มีตลาดนัดแต่ปรากฏว่าไม่มีชาวไทยและชาวกัมพูชาพากันมาหาซื้อสินค้าคึกคักเหมือนดังเช่นทุกวันที่ผ่านมา เพราะต่างพากันหวาดกลัวภัยสงครามจากกรณีที่ทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหาร ทำให้บริเวณตลาดชายแดนไทยที่ช่องสะงำเงียบเหงา บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันเก็บข้าวของกลับบ้านกันหมด

เช่นเดียวตลาดชายแดนกัมพูชาซึ่งอยู่ในฝั่งประเทศกัมพูชา บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความเงียบเหงา ชาวกัมพูชาจำนวนมากที่มาค้าขายอยู่ที่บริเวณช่องสะงำ ได้พากันอพยพกลับเข้าไปอยู่ที่ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ซึ่งอยู่ห่างจากช่องสะงำเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร

สำหรับที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีทหารไทยพร้อมรถถังหลาย10 คันตั้งฐานปฏิบัติการอยู่เป็นระยะๆ ตลอดตามแนวชายแดน

ขณะที่ทหารฝ่ายกัมพูชามีรายงานข่าวแจ้งว่าช่วงเช้าวันนี้ (16 ต.ค.) ทางฝ่ายกัมพูชาได้นำรถบรรทุกทหารกัมพูชาประมาณ 10 คัน มีทหารกัมพูชาเต็มคันรถพร้อมด้วยอาวุธหนักเบาครบมือและรถบรรทุกลากปืนใหญ่จำนวน 4 กระบอก มุ่งหน้าไปยังเขาพระวิหารเพื่อเสริมกำลังเตรียมปะทะกับทหารไทยอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้แล้วฝ่ายทหารได้ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนงให้ย้ายจุดรายงานข่าวจากบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ไปอยู่ที่บริเวณสามแยกบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย

ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางโดยรถตู้จากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เดินทางไปร่วมประชุมเจรจากับ พล.ท.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูขาที่ห้องประชุม ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนทุกแขนงติดตามขึ้นไปทำข่าวแต่อย่างใด
ภาพประกอบ:จาก AFP
ภาพประกอบ:จาก AFP
ภาพประกอบ:จาก AFP
ภาพประกอบ:จาก AFP
กำลังโหลดความคิดเห็น