ทหารไทยเสริมกำลัง “ภูมะเขือ” จุดปะทะเดือด - จวกปล่อยเขมรย่ำยีเกียรติยศศักดิ์ศรี

ศรีสะเกษ - ทหารไทยตรึงกำลังเข้มตามแนวชายแดนเขาพระวิหาร พร้อมเสริมกำลัง “ภูมะเขือ” จุดปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ขณะที่กลุ่มธรรมยาตราฯ เรียกร้องให้รัฐบาลและทหารไทยตอบโต้รุกกลับให้กัมพูชาถอนทหารออกจากเชิงเขาพระวิหาร และทุกพื้นที่ตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ ทหารเขมรบุกเข้าแผ่นดินไทย และยิงถล่มทหารไทยเป็นการหมิ่นเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง โดยที่ทหารไทยไม่ได้ทำการตอบโต้อย่างสมเกียรติและศักดิ์ศรีของกองทัพไทย กลับถูกระบอบเผด็จการรัฐสภาบีบบังคับให้ยอมศิโรราบแก่ทหารเขมร

วันนี้ (5 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ทหารไทยปะทะกับทหารกัมพูชา ที่บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ขณะนี้ได้มีการเสริมกำลังทหารจากกองกำลังสุรนารีจำนวนหนึ่ง เดินทางโดยรถบรรทุกยีเอ็มซี และรถปิกอัพพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ครบมือ ขึ้นไปตรึงกำลังบริเวณรอบปราสาทพระวิหาร

โดยเฉพาะบริเวณภูมะเขือ ทางทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นจุดที่มีการปะทะกันนั้น ได้มีการเสริมกำลังทหารจำนวนหนึ่งเข้าไปเพิ่มเติม เพื่อตรึงกำลังไม่ให้ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยอีก พร้อมทั้งมีการตั้งด่านตรวจเข้ม ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารแต่อย่างใด ยกเว้นจะได้รับอนุญาตจากกองทัพภาคที่ 2 เท่านั้น ซึ่งสถานการณ์ทั่วไปเหตุการณ์ยังคงปกติ

ทางด้าน นายสมาน ศรีงาม ประธานคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทย ในกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา และ เลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติกอบกู้รักษาอธิปไตยของชาติด้วยอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย (คก.ปท.) กล่าวว่า ตามที่ทหารไทยถูกทหารเขมรยิงถล่มบาดเจ็บ และอาจเสียชีวิตในกรณีที่ทหารกัมพูชารุกรานอธิปไตยเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2551 นั้น คณะธรรมยาตราฯ และ คก.ปท.ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจอย่างสุดซึ้ง และขอให้กำลังใจแก่ทหารหาญของไทยทุกคนทุกนายที่มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเพื่อรักษาชาติบ้านเมือง

จึงขอให้รัฐบาลไทยตอบโต้กัมพูชา โดยให้ทหารเขมรถอนตัวออกไปจากแผ่นดินไทยที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารและในทุกพื้นที่ตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทันทีและให้ใช้กำลังทหารผลักดันทหารต่างชาติออกไปจากผืนแผ่นดินไทยอย่างสันติ โดยอ้างอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941 และขอให้รัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทยทั้งประเทศให้ยื่นฟ้องต่อศาลโลกให้เขมรถอนตัวออกไปจาก 2 จังหวัดมณฑลบูรพาของไทย ตามอนุสัญญาโตเกียว

ทั้งนี้ หากกองทัพไทยไม่ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นนี้ จะทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศและศักดิ์ศรีของกองทัพไทยอย่างที่สุด เพราะพ่ายแพ้หรือยอมแพ้แม้กระทั่งเขมร ซึ่งกองทัพไทยในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้เคยยกทัพบุกเขมรจับพระยาละแวกผู้ทรยศมาทำพิธีปฐมกรรมมาแล้ว

แต่ขณะนี้ทหารเขมรกลับเข้ามาทำปฐมกรรมทหารไทย คือ บุกเข้ามาในแผ่นดินไทยและเข่นฆ่าทหารไทยอย่างน่าอนาถ และหมิ่นเกียรติยศศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง โดยที่ทหารไทยไม่ได้ทำการตอบโต้อย่างสมเกียรติและศักดิ์ศรีของกองทัพไทยเลย กลับถูกระบอบเผด็จการรัฐสภาบีบบังคับให้ยอมศิโรราบแก่ทหารเขมร

“อีกทั้งถ้าไม่รุกกลับเช่นมาตรการข้างต้นนี้ จะไม่สามารถหยุดการรุกราน ความเหิมเกริม และการกระทำอันเหยียบย่ำเกียรติยศศักดิ์ศรีของคนไทยทั้งประเทศทั้งชาติได้เลย และจะยิ่งเหยียบย่ำทหารไทยและคนไทยหนักลงทุกวันอย่างแน่นอน” นายสมาน กล่าว