ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ทหารไทย กองกำลังสุรนารี ปะทะเดือดทหารเขมร นาน 20 นาที บริเวณตีนเขาภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากเขาพระวิหาร 5 กม.เผย เบื้องต้นทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย ส่วนเขมรเจ็บ 3 นาย ล่าสุด แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดแถลงข่าวด่วนกรณีที่เกิดขึ้น ที่ ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.ได้เกิดเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทย กับ กองกำลังทหารกัมพูชา ที่บริเวณตีนเขาภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อยู่ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ห่างจากเขาพระวิหาร ประมาณ 5 กิโลเมตร ขณะที่กำลังทหารไทยได้ไปปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ตามคำสั่งของ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2
กำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ได้ปะทะกันนานกว่า 20 นาที เบื้องต้นทำให้ทหารของกองกำลังสุรนารีได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกอาวุธสงครามยิงที่บริเวณขา และสะโพก คือ ส.อ.ธวัช งามศรี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2303 กรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะโพก และ อาสาสมัครทหาร บันลือ เลิศศรี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2303 กรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณน่อง ส่วนทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บไป 3 นาย ก่อนจะถอยร่นเข้า ไปฝั่งประเทศกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการที่เกิดขึ้น พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กกล.สุรนารี ได้รายงานให้ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ทราบแล้ว โดย พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.กนก ดูแลพื้นที่อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกำลังพลที่ลาดตระเวนอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุให้ปฏิบัติภารกิจด้วยความระมัดระวัง
ทางด้าน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดประมาณ 15.00 น.กำลังทหารฝ่ายไทยลาดตระเวนอยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของเขาพระวิหาร แล้วพบกับกำลังทหารของกัมพูชา จำนวน 1 หมู่ ลาดตระเวนล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทยประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ทหารไทยยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อแจ้งเตือน แต่พื้นที่เป็นป่าทึบ ทำให้เกิดเหตุปะทะกันขึ้นระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ส่งผลให้บาดเจ็บทั้งคู่ ซึ่งทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย
ล่าสุด ฝ่ายเราได้ผลักดันทหารกัมพูชากลับเข้าไปในเขตแดนกัมพูชาแล้ว และได้ประสานทางกัมพูชาแล้ว ซึ่งเขาอยู่ระหว่างเคลียร์กำลังกลับเข้าเขตชายแดนของกัมพูชา อย่างไรก็ตามส่วนสาเหตุนั้นยังไม่แน่ใจว่าพลัดหลงเข้ามาหรือเป็นความตั้งใจ เพราะเป็นพื้นที่ป่าทึบ แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ล่าสุด เมื่อเวลา 19.30 น.ที่ผ่านมา ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ประสานมายังผู้สื่อข่าวว่า พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 จะเปิดแถลงข่าวเป็นการด่วนเกี่ยวกับเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ ดังกล่าว ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ทางด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว ว่า เมื่อเวลา 15.45 น.มีทหารกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทย 8 นาย เพื่อตั้งฐานลาดตระเวนลึกเข้ามาในฝั่งไทย 1 กิโลเมตร บริเวณระหว่างภูมะเขือ และช่องอานม้า ซึ่งไทยจัดทหารเข้าไปเจรจากว่า 10 คน โดยเป็นเจ้าหน้าที่ทหารร้อยลาดตระเวนไกลการข่าวและยุทธการ เพื่อขอให้กำลังดังกล่าวออกนอกพื้นที่ แต่การเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ โดยกัมพูชายืนยันไม่ออกจากพื้นที่ และพูดจาไม่ดี เมื่อพูดจาไม่รู้เรื่อง ทหารไทยจึงเดินกลับเข้ามาแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบสถานการณ์ว่า กัมพูชาไม่ยอมถอยร่น
ระหว่างนั้นมีทหารกัมพูชาพูดจายั่วยุและยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด แล้วมีทหารกัมพูชายิงปืนไล่หลังมา ทำให้มีจ่าทหารพราน และอาสาทหารพรานบาดเจ็บที่ขาและก้น ทำให้มีการปะทะกันประมาณ 20 นาที ก่อนที่เสียงปืนจะยุติลง ปรากฏว่า หลังการปะทะ ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย กำลังอยู่ระหว่างนำออกนอกพื้นที่ แต่สภาพเป็นป่าทึบทำให้การเคลื่อนย้ายออกมาลำบาก ซึ่ง พล.ต.กนก รายงานให้ พล.อ.อนุพงษ์ รับทราบ และให้ พล.ต.กนก ดำเนินการเจรจากลับผู้นำทางทหารในพื้นที่กัมพูชารับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.ได้เกิดเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทย กับ กองกำลังทหารกัมพูชา ที่บริเวณตีนเขาภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อยู่ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ห่างจากเขาพระวิหาร ประมาณ 5 กิโลเมตร ขณะที่กำลังทหารไทยได้ไปปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ตามคำสั่งของ พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) กองทัพภาคที่ 2
กำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ได้ปะทะกันนานกว่า 20 นาที เบื้องต้นทำให้ทหารของกองกำลังสุรนารีได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกอาวุธสงครามยิงที่บริเวณขา และสะโพก คือ ส.อ.ธวัช งามศรี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2303 กรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณสะโพก และ อาสาสมัครทหาร บันลือ เลิศศรี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2303 กรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณน่อง ส่วนทหารกัมพูชาได้รับบาดเจ็บไป 3 นาย ก่อนจะถอยร่นเข้า ไปฝั่งประเทศกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เหตุการที่เกิดขึ้น พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผบ.กกล.สุรนารี ได้รายงานให้ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ทราบแล้ว โดย พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งการให้ พล.ต.กนก ดูแลพื้นที่อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกำลังพลที่ลาดตระเวนอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุให้ปฏิบัติภารกิจด้วยความระมัดระวัง
ทางด้าน พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดประมาณ 15.00 น.กำลังทหารฝ่ายไทยลาดตระเวนอยู่บริเวณฝั่งตะวันตกของเขาพระวิหาร แล้วพบกับกำลังทหารของกัมพูชา จำนวน 1 หมู่ ลาดตระเวนล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทยประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ทหารไทยยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อแจ้งเตือน แต่พื้นที่เป็นป่าทึบ ทำให้เกิดเหตุปะทะกันขึ้นระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ส่งผลให้บาดเจ็บทั้งคู่ ซึ่งทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย
ล่าสุด ฝ่ายเราได้ผลักดันทหารกัมพูชากลับเข้าไปในเขตแดนกัมพูชาแล้ว และได้ประสานทางกัมพูชาแล้ว ซึ่งเขาอยู่ระหว่างเคลียร์กำลังกลับเข้าเขตชายแดนของกัมพูชา อย่างไรก็ตามส่วนสาเหตุนั้นยังไม่แน่ใจว่าพลัดหลงเข้ามาหรือเป็นความตั้งใจ เพราะเป็นพื้นที่ป่าทึบ แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า ล่าสุด เมื่อเวลา 19.30 น.ที่ผ่านมา ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ประสานมายังผู้สื่อข่าวว่า พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 จะเปิดแถลงข่าวเป็นการด่วนเกี่ยวกับเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ จ.ศรีสะเกษ ดังกล่าว ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา
ทางด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว ว่า เมื่อเวลา 15.45 น.มีทหารกัมพูชาเข้ามาฝั่งไทย 8 นาย เพื่อตั้งฐานลาดตระเวนลึกเข้ามาในฝั่งไทย 1 กิโลเมตร บริเวณระหว่างภูมะเขือ และช่องอานม้า ซึ่งไทยจัดทหารเข้าไปเจรจากว่า 10 คน โดยเป็นเจ้าหน้าที่ทหารร้อยลาดตระเวนไกลการข่าวและยุทธการ เพื่อขอให้กำลังดังกล่าวออกนอกพื้นที่ แต่การเจรจาไม่สามารถตกลงกันได้ โดยกัมพูชายืนยันไม่ออกจากพื้นที่ และพูดจาไม่ดี เมื่อพูดจาไม่รู้เรื่อง ทหารไทยจึงเดินกลับเข้ามาแจ้งให้ผู้ใหญ่ทราบสถานการณ์ว่า กัมพูชาไม่ยอมถอยร่น
ระหว่างนั้นมีทหารกัมพูชาพูดจายั่วยุและยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด แล้วมีทหารกัมพูชายิงปืนไล่หลังมา ทำให้มีจ่าทหารพราน และอาสาทหารพรานบาดเจ็บที่ขาและก้น ทำให้มีการปะทะกันประมาณ 20 นาที ก่อนที่เสียงปืนจะยุติลง ปรากฏว่า หลังการปะทะ ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นาย กำลังอยู่ระหว่างนำออกนอกพื้นที่ แต่สภาพเป็นป่าทึบทำให้การเคลื่อนย้ายออกมาลำบาก ซึ่ง พล.ต.กนก รายงานให้ พล.อ.อนุพงษ์ รับทราบ และให้ พล.ต.กนก ดำเนินการเจรจากลับผู้นำทางทหารในพื้นที่กัมพูชารับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว พ.อ.สรรเสริญ กล่าว