ศรีสะเกษ - ทหารเขมรเสริมกำลังบริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหาร หลัง “ฮุนเซน” กร้าวสั่งไทยถอนกำลังจากพื้นที่พิพาท 4.6 ตร.กม.อ้างไทยล้ำเขตแดน ขณะทหารไทยตรึงกำลังเข้มรอบเขาพระวิหาร พร้อมตั้งด่านตรวจเข้มห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องขึ้นอุทยานเขาพระวิหารเด็ดขาด เกรงได้รับอันตรายอาจเกิดปะทะได้ตลอดเวลา ขณะที่ ต.เสาธงชัย ติดชายแดนเตรียมพร้อมอพยพ ปชช.ห้ามเข้าไปหาของป่าหรือเลี้ยงสัตว์ ผู้ว่าฯศรีสะเกษ เผย ต้นเหตุ “ฮุนเซน” กร้าว เกิดจากทหารไทย-กัมพูชา ลาดตระเวนชนกันในพื้นที่พิพาทเขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม.ที่ยังไม่ปักปันเขตแดน แต่เขมรอ้างไทยรุกล้ำดินแดนตัวเอง
วันนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า จากกรณีที่การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาพิพาทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่ประสบผลสำเร็จและเช้าวันนี้ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศกร้าวให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ทันที ไม่เช่นนั้นจะใช้กำลังโจมตี นั้น
ในส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวันนี้ (14 ต.ค.) ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศค่อนข้างตรึงเครียด ทั้งนี้เนื่องจากได้มีกำลังทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง พร้อมอาวุธครบมือเข้ามาตรึงกำลังที่บริเวณตลาดกัมพูชาบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร
ทหารเหล่านี้ส่วนมากแล้วเป็นอดีตทหารเขมรแดงที่เคยปฏิบัติการประจำอยู่ที่บริเวณเขาพระวิหารมานานแล้ว และมีความเคยชินกับสภาพพื้นที่บริเวณแห่งนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ทหารไทยต้องจัดกำลังทหารเข้าไปตรึงกำลังที่บริเวณประตูเหล็กใกล้กับตลาดกัมพูชาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แต่ทหารไทยยังไม่ได้มีการเสริมกำลังแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายกำลังทหารของไทย ได้มีการตรึงกำลังเข้มบริเวณรอบเขาพระวิหาร โดยแต่ละจุดเผชิญหน้ากับทหารฝ่ายกัมพูชาห่างกันประมาณ 30 เมตรเท่านั้น
ทางด้านศูนย์ประสานงานประชาสัมพันธ์กองกำลังสุรนารี ตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ได้มีการเคลื่อนย้ายรถติดตั้งจานดาวเทียมพร้อมด้วยอุปกรณ์สื่อสารจำนวนหนึ่งออกไปจากบริเวณที่ตั้ง ทั้งนี้ คาดว่า จะไปปฏิบัติภารกิจบริเวณจุดที่มีความสำคัญมากกว่าบริเวณนี้
พร้อมทั้งตั้งด่านตรวจคุมเข้มห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเด็ดขาด เพราะเกรงได้รับอันตรายอาจจะเกิดการปะทะกันขึ้นได้ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้แล้ว หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ก็ได้นำเอารถปฐมพยาบาล จำนวน 2 คัน ขึ้นไปประจำอยู่บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และได้มีรถทหารบรรทุกเสบียงอาหารขึ้นไปเพิ่มเติมที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อเป็นการส่งกำลังบำรุงให้กับทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่รอบเขาพระวิหารด้วย
ส่วนทหารที่ประจำการอยู่บนศูนย์บริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับผู้บังคับบัญชาระดับสูง เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ออกลงมาตรวจสถานการณ์พื้นที่ชายแดนเขาพระวิหารในช่วงเย็นวันนี้ (14 ต.ค.) แต่ยังไม่ทราบกำหนดที่แน่นอน
อีกทั้งมีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายในช่วงเวลา 15.00 น.ของวันนี้ หากทหารไทยยังไม่ถอนกำลังออกจากบริเวณจุดที่ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า ทหารไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตทหารกัมพูชาอาจมีการปะทะกันเกิดขึ้น แต่ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนเขาพระวิหารในขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ทุกอย่างยังอยู่ในสภาวะปกติ ส่วนการตรึงกำลังทหารนั้น ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังทหารตามปกติ ซึ่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารไทยได้ควบคุมการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด และไม่ได้มีการกระทำการใดๆ ที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของ 2 ชาติแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุความตึงเครียดดังกล่าว สืบเนื่องจากทหารไทยกับทหารกัมพูชา ไปลาดตระเวนพบกันที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารห่างจากบริเวณวัดกัมพูชาประมาณ 2 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนบนเนื้อที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าบริเวณดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ขณะที่ทางฝ่ายไทยก็ยืนยันว่าบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ซึ่งยังไม่มีการปักปันเขตแดน
“เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารไทยและทหารกัมพูชากำลังหารือกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว แต่สถานการณ์โดยรวมทั่วไปเหตุการณ์ยังคงปกติ ยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด” นายเสนีย์ กล่าว
ทางด้าน นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในเขต ต.เสาธงชัย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และอยู่ในช่วงของการทำบุญกฐินออกพรรษา ปกติแล้วจะมีการทอดกฐินในช่วงเย็น แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ได้มีการทอดกฐินเร็วกว่าปกติ เนื่องจากหวั่นเกรงอาจเกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นมา ได้มีการเตรียมแผนในการอพยพประชาชนไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยไว้เรียบร้อยแล้วโดยการประสานงานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศเตือนประชาชนทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ห้ามมิให้ชาวบ้านภูมิซรอล และ ทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย เข้าไปหาของป่าหรือเลี้ยงสัตว์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดการปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ประเทศได้ตลอดเวลา นายวีระยุทธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับจุดที่ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าทหารไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชานั้น อยู่ห่างจากวัดแก้วสิขาคีรีสะวาราไปทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ประมาณ 2 กม.ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนโดยทหารไทยประมาณ 30 นาย ได้ลาดตระเวนไปพบกับทหารฝ่ายกัมพูชา ทำให้ทางฝ่ายกัมพูชาเข้าใจว่า ทหารไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา ซึ่งสภาพตามความเป็นจริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวนี้อยู่ในเขตพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท 2 ที่ทั้งประเทศต่างอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าว
วันนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษ ว่า จากกรณีที่การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยกับกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาพิพาทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ไม่ประสบผลสำเร็จและเช้าวันนี้ นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศกร้าวให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ทันที ไม่เช่นนั้นจะใช้กำลังโจมตี นั้น
ในส่วนที่ จ.ศรีสะเกษ ตลอดทั้งวันนี้ (14 ต.ค.) ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศค่อนข้างตรึงเครียด ทั้งนี้เนื่องจากได้มีกำลังทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่ง พร้อมอาวุธครบมือเข้ามาตรึงกำลังที่บริเวณตลาดกัมพูชาบริเวณเชิงบันไดทางขึ้นปราสาทพระวิหาร
ทหารเหล่านี้ส่วนมากแล้วเป็นอดีตทหารเขมรแดงที่เคยปฏิบัติการประจำอยู่ที่บริเวณเขาพระวิหารมานานแล้ว และมีความเคยชินกับสภาพพื้นที่บริเวณแห่งนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ทหารไทยต้องจัดกำลังทหารเข้าไปตรึงกำลังที่บริเวณประตูเหล็กใกล้กับตลาดกัมพูชาดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม แต่ทหารไทยยังไม่ได้มีการเสริมกำลังแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายกำลังทหารของไทย ได้มีการตรึงกำลังเข้มบริเวณรอบเขาพระวิหาร โดยแต่ละจุดเผชิญหน้ากับทหารฝ่ายกัมพูชาห่างกันประมาณ 30 เมตรเท่านั้น
ทางด้านศูนย์ประสานงานประชาสัมพันธ์กองกำลังสุรนารี ตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ได้มีการเคลื่อนย้ายรถติดตั้งจานดาวเทียมพร้อมด้วยอุปกรณ์สื่อสารจำนวนหนึ่งออกไปจากบริเวณที่ตั้ง ทั้งนี้ คาดว่า จะไปปฏิบัติภารกิจบริเวณจุดที่มีความสำคัญมากกว่าบริเวณนี้
พร้อมทั้งตั้งด่านตรวจคุมเข้มห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารเด็ดขาด เพราะเกรงได้รับอันตรายอาจจะเกิดการปะทะกันขึ้นได้ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้แล้ว หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ก็ได้นำเอารถปฐมพยาบาล จำนวน 2 คัน ขึ้นไปประจำอยู่บนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร และได้มีรถทหารบรรทุกเสบียงอาหารขึ้นไปเพิ่มเติมที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อเป็นการส่งกำลังบำรุงให้กับทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่รอบเขาพระวิหารด้วย
ส่วนทหารที่ประจำการอยู่บนศูนย์บริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อต้อนรับผู้บังคับบัญชาระดับสูง เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพบก ออกลงมาตรวจสถานการณ์พื้นที่ชายแดนเขาพระวิหารในช่วงเย็นวันนี้ (14 ต.ค.) แต่ยังไม่ทราบกำหนดที่แน่นอน
อีกทั้งมีรายงานข่าวแจ้งว่า ภายในช่วงเวลา 15.00 น.ของวันนี้ หากทหารไทยยังไม่ถอนกำลังออกจากบริเวณจุดที่ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า ทหารไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตทหารกัมพูชาอาจมีการปะทะกันเกิดขึ้น แต่ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด
นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนเขาพระวิหารในขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ทุกอย่างยังอยู่ในสภาวะปกติ ส่วนการตรึงกำลังทหารนั้น ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังทหารตามปกติ ซึ่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารไทยได้ควบคุมการปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด และไม่ได้มีการกระทำการใดๆ ที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของ 2 ชาติแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุความตึงเครียดดังกล่าว สืบเนื่องจากทหารไทยกับทหารกัมพูชา ไปลาดตระเวนพบกันที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหารห่างจากบริเวณวัดกัมพูชาประมาณ 2 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนบนเนื้อที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าบริเวณดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ขณะที่ทางฝ่ายไทยก็ยืนยันว่าบริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ซึ่งยังไม่มีการปักปันเขตแดน
“เรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทหารไทยและทหารกัมพูชากำลังหารือกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว แต่สถานการณ์โดยรวมทั่วไปเหตุการณ์ยังคงปกติ ยังไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด” นายเสนีย์ กล่าว
ทางด้าน นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในเขต ต.เสาธงชัย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และอยู่ในช่วงของการทำบุญกฐินออกพรรษา ปกติแล้วจะมีการทอดกฐินในช่วงเย็น แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ได้มีการทอดกฐินเร็วกว่าปกติ เนื่องจากหวั่นเกรงอาจเกิดการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันขึ้นมา ได้มีการเตรียมแผนในการอพยพประชาชนไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัยไว้เรียบร้อยแล้วโดยการประสานงานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศเตือนประชาชนทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน ห้ามมิให้ชาวบ้านภูมิซรอล และ ทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย เข้าไปหาของป่าหรือเลี้ยงสัตว์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดการปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ประเทศได้ตลอดเวลา นายวีระยุทธ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับจุดที่ทางฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าทหารไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชานั้น อยู่ห่างจากวัดแก้วสิขาคีรีสะวาราไปทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร ประมาณ 2 กม.ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดนโดยทหารไทยประมาณ 30 นาย ได้ลาดตระเวนไปพบกับทหารฝ่ายกัมพูชา ทำให้ทางฝ่ายกัมพูชาเข้าใจว่า ทหารไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา ซึ่งสภาพตามความเป็นจริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวนี้อยู่ในเขตพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท 2 ที่ทั้งประเทศต่างอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนดังกล่าว