xs
xsm
sm
md
lg

สกัด 3 ธรรมยาตราฯ แจ้งจับเขมรห้ามขึ้น “เขาพระวิหาร” - ชายแดนตึงเครียดคนงาน “ช.การช่าง” หนีตายเข้าไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารไทยระดมกำลังพร้อมอาวุธหนักเข้าตรึงกำลังตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเชิงเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อย่างต่อเนื่อง
ศรีสะเกษ - 3 คนไทยแจ้งจับทหารเขมรถูกสกัดไม่ให้ขึ้นไปร่วมปฏิบัติธรรมกับกลุ่มธรรมยาตราฯ ที่อุทยานฯ เขาพระวิหาร ทหาร- ตร.ตั้งด่านสกัดอ้างคำสั่ง ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษสั่งปิดอุทยานฯแล้ว ขณะที่กลุ่มแม่ค้าชาวบ้านภูมิซรอลกว่า 20 คนมายืนร้องตะโกนด่าหาว่าสร้างเดือดร้อนทำให้ต้องถูกสั่งปิดอุทยานฯ เผยทหารไทย-กัมพูชา ระดมกำลังตรึงชายแดนต่อเนื่องจำนวนมาก ทางด้านคนงานและวิศวกรก่อสร้างถนนกัมพูชาของ “ช.การช่าง” หนีตายเข้าไทยด้านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ กล่าว 200-300 คน

วันนี้ (19 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ 19.30 น. เป็นต้นมาเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) ที่ถนนบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมประตูทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่ากลุ่มธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา จำนวน 8 คน นำโดย นาวาอากาศตรี ถนิต พรหมสถิต ประธานสมัชชากรรมกรแห่งชาติ และ นายวิชาญ ทับซ้อน ที่เดินทางกลับจากสภ.บึงมะลู หลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีทหารกัมพูชากรณี 3 คนไทยถูกฝ่ายกัมพูชาจับตัวไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ได้ถูกทหาร -ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารตั้งด่านสกัดไม่ยอมให้ขึ้นไปร่วมปฏิบัติธรรมกับกลุ่มธรรมยาตราฯ ที่บริเวณหน้าผามออีแดง อุทยานฯเขาพระวิหารเช่นเดิม

โดยเจ้าหน้าที่อ้างเหตุผลว่า นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้สั่งปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารแล้วเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากขณะนี้เกิดเหตุความไม่สงบบริเวณเชิงเขาพระวิหารและมีการตรึงกำลังระหว่างทหารไทยและกัมพูชาจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ได้มีกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านภูมิซรอล ประมาณ 20 คน พากันมายืนตะโกนด่ากลุ่มธรรมยาตราฯ ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว โดยกล่าวหาว่ามาสร้างความวุ่นวายบนเขาพระวิหาร จนทำให้ชาวบ้านไม่สามารถไปค้าขายสินค้าที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้ ขณะที่กลุ่มธรรมยาตราฯ ไม่ได้ตอบโต้ แต่ได้พากันนั่งสมาธิกลางถนนหน้าด่านเก็บค่าธรรมเนียมฯ ที่มีการนำเอาลวดหนามมาขึงขวางถนนเอาไว้ โดยมีกำลังทหาร ตำรวจมาสถานการณ์ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่จำนวนหนึ่ง

นาวาอากาศตรี ถนิต พรหมสถิต ประธานสมัชชากรรมกรแห่งชาติ หนึ่งในแกนนำกลุ่มธรรมยาตราฯ กล่าวว่า การที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พวกตนขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อร่วมปฏิบัติธรรมทวงคืนปราสาทพระวิหารจากกัมพูชาเช่นเดิมนั้น ไม่ได้แจ้งเหตุผลที่ชัดเจนว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ยอมให้พวกตนขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แจ้งเพียงว่า ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษสั่งปิดอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารแล้วเท่านั้น และไม่ยอมให้ผู้ใดยกเว้นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้นที่สามารถผ่านขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้

“แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พวกเราจะยังคงนั่งปฏิบัติธรรมอยู่กลางถนน แห่งนี้ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงศรัทธาที่แรงกล้าและหัวใจที่เข้มแข็งดุจเพชรในการทวงคืนปราสาทพระวิหารและผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขตแดนไทยที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารให้จงได้ต่อไป” นาวาอากาศ ตรีถนิต กล่าว

ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.) ที่บริเวณ อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ได้มีกำลังทหารกัมพูชาประมาณ 500-1,000 นาย เดินทางโดยรถยีเอ็มซี จำนวนประมาณ 20 คัน พร้อมด้วยอาวุธหนักมุ่งหน้ามายังเขาพระวิหาร โดยกำลังทหารเหล่านี้จะไปเสริมกำลังกับทหารกัมพูชาที่อยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ซึ่งกำลังตรึงกำลังอยู่กับทหารไทยเป็นจำนวนมากอยู่ในขณะนี้

รวมทั้งจากเหตุเหตการณ์ความไม่สงบที่บริเวณปราสาทพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชาอยู่ในขณะนี้ ได้ทำให้คนงานและวิศวกรก่อสร้างของบริษัท ช.การช่าง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทยร่วมกับบริษัทในเครืออีกหลายบริษัทที่กำลังทำการสร้างถนนหมายเลข 67 อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย - เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ได้ใช้รถปิกอัพกว่า 20 คัน ทำการขนย้ายคนงานชาวไทยและทีมวิศวกรควบคุมการก่อสร้างถนน ประมาณ 200-300 คน ออกจากแคมป์ที่พักเข้ามาในเขตแดนไทยที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

จากนั้นได้ใช้รถตู้และรถบัสมาขนถ่ายวิศวกรคุมงานและคนงานก่อสร้างกลับคืนสู่บ้านเกิดตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของบริษัท ช.การช่าง คนหนึ่ง กล่าวว่า การที่ได้นำเอาคนไทยอพยพออกมา นั้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเมื่อสถานการณ์สงบแล้วก็จะเข้าไปทำการก่อสร้างถนนให้แล้วเสร็จต่อไป เพื่อจะได้เป็นเส้นทางเศรษฐกิจการค้าและการท่องเที่ยวระหว่าง จ.ศรีสะเกษ กับ จ.เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างดังกล่าว เป็นการก่อสร้างเส้นทางสายช่องสะงำ-อัลลองเวง-เสียมเรียบ ระยะทาง 167 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่ประเทศไทย 16 กม. กัมพูชา 151 กม. คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของไทยมีมติ 10 มิ.ย.2547 อนุมัติงบประมาณแบบให้เปล่าแก่กัมพูชา วงเงิน 229 ล้านบาท โดยทั้งโครงการสร้างแล้วเสร็จต้นปี 2552 โดยมี บริษัท ช.การช่าง เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งเส้นทางนี้เป็นโครงการเชื่อมการท่องเที่ยวเส้นทางอารยธรรมขอมโบราณระหว่างไทย-กัมพูชา ทางด้านอีสานใต้ และเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดในการเดินทางเข้าถึงปราสาทนครวัด-นครทม และเชื่อมเส้นทางเลียบชายแดนกัมพูชา ที่ตัดตรงเข้าด้านหลังเขาพระวิหาร



กำลังโหลดความคิดเห็น