ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กมธ.การศึกษาสภาผู้แทนเปิดเวทีใหญ่ระดมสมอง การปฏิรูปการศึกษาไทยตามแนวทางการเมืองใหม่ในมุมมองของประชาชน ที่โคราช ฟันธงปฏิรูปการศึกษาไทยไม่มีทางสำเร็จภายใต้การเมืองเก่า ต้องเริ่มต้นเปลี่ยนที่การเมืองก่อน ด้าน“สมเกียรติ” ชี้ 3 หัวใจหลักสำคัญของการเมืองใหม่พันธมิตรฯ ส่วนชาวโคราชเสนอใช้ยาแรงเอาผิดนักการเมืองโคตรโกงเลือกตั้ง ระบุผู้สมัครฯ ทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งให้มีโทษถึงขั้นยุบทั้งคนและพรรคด้วย
วันนี้ (26 ก.ย.) คณะกรรมาธิการการศึกษาสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับองค์กรภาคประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา จัดสัมมนาเรื่อง “9 ปีปฏิรูปการศึกษาไทยในมุมมองของประชาชนและปฏิรูปการศึกษาตามแนวทางการเมืองใหม่” ที่ ห้องพลล้าน โรงแรมดิไอยรา โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีนักธุรกิจ ประชาชน ครู อาจารย์ นักวิชาการ บุคลากรการศึกษา ใน จ.นครราชสีมาเข้าร่วมกว่า 300 คน
โดยมีวิทยากรเร่วมอภิปรายจำนวนมาก นำโดย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส. ระบบสัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย,นายพิเชฐ พัฒนาโชติ อดีต ส.ว.นครราชสีมา, ดร.ปรีชา อุยตระกูล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา , นายกฤษฎางค์ แถวโสภา อดีต ส.ส.นครราชสีมา , ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด, ผศ.ดร.สามารถ จับโจร อาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และ กลุ่มแกนนำองค์กรครูโคราช ป็นต้น
ทั้งนั้นการอภิปรายแลกเปลี่ยนระดมความคิดเห็นในที่ประชุมสัมมนา ส่วนใหญ่เห็นร่วมกันว่า การปฏิรูปการศึกษานั้นไม่มีทางที่จะประสบผลสำเร็จได้ภายใต้สังคมการเมืองเก่า ดังนั้นการพัฒนาปฏิรูปการศึกษาไทยต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงที่การเมืองก่อน เพื่อให้เป็นการเมืองที่มีความยุติธรรม สรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมีศีลธรรมเข้าบริหารจัดการการศึกษาของชาติ ไม่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองและพรรคพวก ไม่เช่นนั้น ครู ผู้บริหาร และ บุคลากรทางการศึกษาทั้งหลายก็จะไม่สนใจพัฒนาโรงเรียน การศึกษาของนักเรียน มุ่งแต่หาผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่การงานและติดตามนักการเมืองเป็นสำคัญ
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอภิปรายบนเวที ว่า การเมืองใหม่เป็นเรื่องประชาชนที่ต้องบินออกจากสุ่มแทนที่จะทนให้ไก่ชนตัวใหญ่จิกรังแกอยู่อีกต่อไป การเมืองใหม่จึงเป็นการใช้กระบวนทัศน์ใหม่เปลี่ยนแปลงประเทศไทย โดยมีประชาชนร่วมเปลี่ยนแปลง ดังนั้นแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน จึงได้ตกลงกันไว้อย่างชัดเจนว่าในเรื่องการเมืองใหม่นี้จะออกมาแสดงแนวคิดให้น้อยที่สุด
อย่างไรก็ตามแนวทางการเมืองใหม่ นั้น พันธมิตรฯ ยึดแนวทางสังคมดี การเมืองดีไม่มีขายใครอยากได้ต้องร่วมกันสร้าง และแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คน ขอให้อย่างน้อยการเมืองใหม่ต้องมี 3 ข้อหลัก ดังนี้
1. ระบบทุจริตคอร์รัปชั่น ต้องถูกปราบปรามอย่างหนัก และตรงจุด ด้วยกฎหมายที่เด็ดขาด คดีเกี่ยวกับทุจริตคอร์รัปชั่นตั้งแต่ระดับข้าราชการ นักการเมือง ไปจนถึงนายกรัฐมนตรี ต้องไม่มีอายุความ ประชาชนผู้เสียภาษีเป็นผู้เสียหายสามารถยื่นฟ้องศาลโดยตรงได้ และคดีทุจริตคอร์รัปชั่นความผิดให้รวมถึงบุตร-คู่สมรสที่สมรู้ร่วมคิดด้วย ส่วนการลงโทษให้จำคุกอย่างเดียว ไม่มีปรับ แต่ให้ยึดทรัพย์
2. ปัญหานายทุน พรรคการเมืองเข้มแข็ง แต่ส.ส.ถูกซื้อ ประชาชนอ่อนแอ นั้น ต้องได้รับการแก้ไข ไม่ใช่ใครมีเงิน 2 หมื่นล้านบาทแล้วสามารถซื้อประเทศไทยผ่านระบบเลือกตั้งได้ ด้วยการลงทุนให้เงินส.ส.ซื้อเสียง แล้วซื้อปิดปาก ส.ส. และซื้อพรรคการเมือง ดังนั้นการเมืองใหม่ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคการเมือง และห้ามไม่ให้มีการทุ่มเงินโฆษณาหาเสียงอย่างมหาศาลจนเกินความจำเป็น รวมทั้งควรลดปริมาณ ส.ส.ให้น้อยลงตามความเหมาะของจำนวนประชากร เพราะมี ส.ส. จำนวนมากเกินไปทำให้ยากต่อการติดตามตรวจสอบ และทำให้มีคนเข้ามารุมทึ้งหากินกับงบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนมากเท่านั้น
3. ที่มาของ ส.ส. ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงส่วนหนึ่ง และ อีกส่วนหนึ่งมาจากการเลือกตั้งของตัวแทนสาขาอาชีพต่างๆ ที่ผ่านการคัดเลือกกันมาแล้วชั้นหนึ่ง
“พรุ่งนี้ ( 27 ก.ย.) จะมีการจัดสัมมนาระดมความเห็นการเมืองใหม่ครั้งใหญ่ ที่กรุงเทพฯ จากนั้นจะมีรายเอียดต่างๆ ออกมาให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดจนว่าการเมืองใหม่จะเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นตุ๊กตานำไปสู่การระดมความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน ทั่วทุกภูมิภาคต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับรายละเอียดแนวทางการเมืองใหม่ในด้านต่างๆ ที่ผู้เข้าร่วมประชุมซักถาม ว่า ในส่วนของตำรวจนั้น แนวคิดของการเมืองใหม่ ตำรวจจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ตำรวจท้องถิ่น กับ ตำรวจส่วนกลาง หรือ ตำรวจ FBI เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา ที่คอยดูแลตรวจสอบตำรวจท้องถิ่นอีกชั้นหนึ่ง รวมทั้งทำคดีใหญ่ ๆ
ส่วนระบบภาษีนั้นตนเห็นด้วยกับการจัดเก็บภาษีอัตราก้าวหน้า ในภาษีที่ดินและภาษีมรดก เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาการถือครองที่ดินที่กระจุกตัว รวมทั้งเห็นด้วยกับแนวคิดการเมืองใหม่ ที่ควรมี องค์กรสร้างอุดมการณ์รักชาติ ขึ้นมา
นอกจากนี้ที่สำคัญประชาชนชาวโคราชที่เข้าร่วมสัมมนาในวันนี้ ทุกคนพร้อมใจกันยกมือเห็นด้วย กับแนวทางการเมืองใหม่ที่ต้องการให้ใช้ยาแรงกับนักการเมืองที่โกงเลือกตั้งเพิ่มขึ้น โดยหากผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. คนใดทุจริตการเลือกตั้ง ให้มีโทษถึงขั้นยุบพรรคการเมืองนั้นด้วย ไม่ใช่มีผลยุบพรรคแค่ระดับกรรมการบริหารพรรคทำผิดตามที่กฎหมายกำหนดในปัจจุบันเท่านั้น เพื่อจะได้มีการใครพรรคการเมืองไหนกล้าซื้อเสียงโกงเลือกตั้งอีก เพราะกลัวถูกยุบทั้งคน และยุบทั้งพรรค ซึ่งประเด็นนี้ตนจะผลักดันเสนออย่างเต็มที่ต่อไป นายสมเกียรติ กล่าว