เชียงราย - ชาวบ้านรุมต้านญาตินักการเมืองดูดท่าทรายริมแม่น้ำกก ใกล้หาดเชียงราย จนทำให้เกิดผลกระทบต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม แม่น้ำกกไหลเปลี่ยนทิศทาง สภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ได้ถูกกัดเซาะหายไป เผยสัมปทานการดูดทรายจะหมดลงในต้นปีหน้า ประชาพิจารณ์พบปะชาวบ้านแล้วไม่ผ่าน
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า ได้มีกลุ่มราษฎรบ้านฮ่องลี่ ม.2 เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย นำโดยนายสมโชค กุมารจันทร์ ประธานชุมชนบ้านฮ่องลี่ ,นางมลิวัน รัตนะ ประธานแม่บ้านฮ่องลี่ ,นางพรพรรณ ปีกอง เลขาประธานชุมชน ได้รวมตัวนำป้ายผ้าต่อต้านคัดค้านนายทุน ที่เข้ามาเปิดท่าทรายในแม่น้ำกก จนทำให้เกิดผลกระทบต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม ไปติดตั้งไว้ที่บริเวณทางเข้าหาดเชียงราย หรือหาดพัทยา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.เชียงราย โดยมีการรวมตัวต่อต้านการดูดทรายของบริษัทเอกชนรายนี้
นายสมโชค กุมารจันทร์ ประธานชุมชนบ้านฮ่องลี่ กล่าวว่า บริษัทเอกชนรายนี้อ้างว่าเป็นเครือญาติเป็นนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังที่อดีตเคยถูกราษฎร 18 หมู่บ้านของ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ต่อต้านปิดท่าทรายมาแล้ว และได้เข้ามาขอสัมปทานดูดทรายในแม่น้ำกก บริเวณบ้านฮ่องลี่ เมื่อประมาณปี 2546 ดำเนินการเรื่อยมา
การดูดทรายได้สร้างผลกระทบต่อเรื่องสิ่งแวดแล้อม แม่น้ำกกไหลเปลี่ยนทิศทาง สภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ได้ถูกกัดเซาะหายไป มีการทรุดตัวของที่ดินริมฝั่งพังทลาย กินระยะทางเข้ามาด้านในมากยิ่งขึ้น
กระทั่งล่าสุด บริษัทเอกชน ได้เข้ามาขอชุมชนทำประชาพิจารณ์ เพื่อเตรียมขอสัมปทานการดูดทรายใหม่อีกแห่งที่อยู่ข้างเคียงกัน หลังจากใบอนุญาตสัมปทานการดูดทรายจะหมดลงในเดือนมีนาคม 2552
จากการทำประชาพิจารณ์พบปะชาวบ้านแล้ว ชาวบ้านจำนวน 106 คน ไม่ยอมผ่านประชาพิจารณ์และได้คัดค้านอย่างหนัก เนื่องจากได้มีการตรวจสอบพื้นที่ริมฝั่งน้ำกก บ้านฮ่องลี่ พบว่าได้รับความเสียหายมาก มีการทรุดตัวอย่างเห็นได้ชัด จึงต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการ เนื่องจากมีนักการเมืองท้องถิ่นบางราย อ้างว่าได้รับการอนุญาตจาก นายกเทศมนตรีนครเชียงราย คนปัจจุบันแล้วด้วย
ด้านนางจันจิรา ทิศอุ่น แกนนำราษฎรบ้านฮ่องลี่ ที่ต่อต้านเรื่องนี้ กล่าวว่า ความเสียหายหลังมีการเปิดสัมปทานดูดทรายพบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น ที่ดินสาธารณะฝั่งบ้านฮ่องลี่หายไปจากการถูกกัดเซาะกว่า 50 ไร่ ส่วนที่ดินสาธารณะฝั่งตรงข้ามบ้านฮ่องลี่ บริเวณจุดที่มีการดูดเป็นกองทรายขนาดมหึมา ที่ไปตรวจสอบพบว่าหายไปเกือบ 200 ไร่แล้ว อนาคตไม่รู้จะหายไปอีกเท่าไร
ปัจจุบันพบว่าบริษัทเอกชนเร่งดูดทรายทั้งวันทั้งคืน โดยจะไปเร่งช่วงเวลา 3 ทุ่มจนถึงตี 4 เพื่อกอบโกยก่อนหมดช่วงสัมปทานในปีหน้า แต่ปัจจุบันมีการลักไก่ลอบเปิดจุดดูดทรายขึ้นข้างเคียง โดยยังไม่มีการผ่านประชาพิจารณ์แต่อย่างใด ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจอย่างมาก ที่นายทุนไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและเสียงชาวบ้าน จึงรวมตัวกันต่อต้านคัดค้าน
จากการตรวจสอบไปยังนายสมพงษ์ กูลวงค์ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้ระบุว่าไม่มีการอนุญาตใดๆ ให้กับบริษัทเอกชนรายนี้ เข้ามาดูดทรายจุดใหม่ในแม่น้ำกกทั้งสิ้น หากมีก็ต้องนำเสนอญัตติเข้าที่ประชุมสภานครเชียงราย เพื่อร่วมตรวจสอบก่อน ไม่มีการอนุญาตแบบง่ายๆ เชื่อว่าเป็นการแอบอ้างของกลุ่มนายทุนมากกว่า ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบเพื่อดำเนินการกับผู้แอบอ้างและผู้ฝ่าฝืนดูดทรายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า กลุ่มราษฎรบ้านฮ่องลี่ ได้รวบรวมเอกสารรายชื่อชาวบ้านจำนวน 106 รายที่คัดค้าน หลักฐานภาพถ่ายและหนังสือบันทึกผลการทำประชาพิจารณ์ เตรียมเข้ายื่นต่อ ส.ส.เชียงราย ด้วย