ธุรกิจบ่อทรายตรังปิดกิจการเหตุพิษน้ำมันแพง

ตรัง - ผู้ประกอบการธุรกิจบ่อทรายในพื้นที่ จ.ตรัง ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะราคาน้ำมันแพง ทำให้ธุรกิจบ่อทรายต้องปิดกิจการไปแล้วหลายราย

นายสวัสดิ์ อติศักดิ์กุล เจ้าหน้าที่ตรวจโรงงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง ได้นำเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจบ่อทรายในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลนาท่ามใต้ อำเภอเมืองตรัง หลังจากได้รับแจ้งว่ามีผู้ประกอบการธุรกิจบ่อทรายในจังหวัดตรังหยุดกิจการไปแล้วกว่า 50% ทั้งนี้ เดิมทีมีผู้ประกอบธุรกิจบ่อทรายจำนวนกว่า 10 ราย แต่หลังจากส่วนใหญ่ประสบปัญหาพิษเศรษฐกิจที่ตกต่ำในขณะนี้ได้ทำให้ธุรกิจบ่อทรายการหยุดกิจการเป็นการชั่วคราวแล้วจำนวนกว่า 5 ราย

นายศิลา จงเสรีกุล อายุ 35 ปี เจ้าของธุรกิจบ่อทราย ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลนาท่ามใต้ กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองประกอบธุรกิจบ่อทรายมาแล้วกว่า 10 ปี แต่ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการปรับขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้น้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละกว่า 45 บาทแล้ว และถือเป็นต้นทุนหลักในการดำเนินธุรกิจบ่อทราย หรือคิดเป็น 80% ทั้งการนำไปใช้สำหรับเครื่องดูดทรายจากบ่อ และการนำไปใช้สำหรับรถบรรทุกเพื่อขนส่งทรายไปส่งลูกค้าแต่ละแห่ง โดยแต่ละวันจะต้องใช้น้ำมันเป็นจำนวนกว่า 200 ลิตร

ดังนั้น จึงทำให้ผู้ประกอบการบ่อทรายที่ยังดำเนินธุรกิจอยู่ในขณะนี้ ไม่สามารถที่จะแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นได้ไหว จึงจำเป็นต้องมีการปรับราคาทรายหน้าบ่อเพิ่มขึ้น จากเดิมคิวละ 200 บาท เป็นคิวละ 300 บาท แต่ก็ยังไม่คุ้มทุน เนื่องจากในช่วงนี้ยอดการจำหน่ายทรายลดลงจากเดิมกว่า 50% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากธุรกิจก่อสร้างที่มีการชะลอตัว เพราะสู้ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้าง ที่ปรับราคาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวไม่ได้เช่นเดียวกัน

นายศิลา กล่าวอีกว่า หากราคาน้ำมันดีเซลทะลุไปถึงลิตรละ 50 บาท ตนเองก็อาจจะต้องหยุดกิจการ เพื่อดูทิศทางของเศรษฐกิจต่อไปว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีกหรือไม่ เนื่องจากทุกวันนี้ที่ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่นั้น ก็เพื่อการอยู่รอดของตนเอง และลูกน้องอีก 5 คน ให้อยู่ได้ในแต่ละวันเท่านั้น แต่หากต้นทุนการผลิตบ่อทรายต้องปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ก็ไม่สามารถที่จะแบกรับได้

จึงอยากขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีการแก้ไขและช่วยเหลือประชาชนให้เร็วที่สุด เพื่อความอยู่รอดของประชาชนทั้งประเทศ เนื่องจากทุกๆ ธุรกิจต่างก็มีผลกระทบในลักษณะแบบลูกโซ่ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างต่อไป