ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักธุรกิจเมืองชลเร่งปรับ-ถมหน้าดินเพื่อผุดโครงการขนาดใหญ่ใกล้สายไฟฟ้าแรงสูง ติดถนนสุขุมวิทยาข้าง ม.เกษตรฯ ศรีราชา ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าหวั่นส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ส่วนเจ้าของที่ดินมึน พร้อมเปิดแถลงข่าวชี้แจง
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และชาวบ้านแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีว่า บริเวณริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าพัทยา ติดรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีนายทุนกำลังปรับและถมดิน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบมีการปรับพื้นที่จริง ในเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็น สายเขตเดินสายส่งไฟฟ้าขนาด 230,000 โวลต์ พาดผ่าน ซึ่งชาวบ้านหวั่นว่าหากดำเนินการก่อสร้างใดๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้า จะทำให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งเมือง โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในเขตการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังและโรงกลั่นน้ำมันต่างๆ ซึ่งสร้างความหวั่นวิตกต่อนักลงทุนเป็นอย่างมากในขณะนี้
นอกจากนั้นยังมีการถมสระกักเก็บน้ำที่สร้างขึ้นโดยกรมชลประทาน ด้วยงบประมาณการก่อสร้างกว่า 30 ล้านบาท ในช่วงประมาณปี 2537 ที่ผ่านมา เพื่อนำถนนกว้างประมาณ 10 กว่าเมตรด้วย
โดยเรื่องนี้ นายสำเริงศักดิ์ ช่วยสกุล หัวหน้าแผนกบำรุงรักษาสายส่งภาคตะวันออก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนนั้น อยู่บริเวณแนวเขตสายส่งไฟฟ้าระหว่างบริษัทไทยออยล์ กับสถานีไฟฟ้าเขาน้ำซับ อ่าวอุดม และอยู่ติดกับรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา จังหวัดชลบุรี
การจะดำเนินการก่อสร้างอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ บริเวณเขตเดินสายส่งไฟฟ้าขนาด 230,000 โวลต์นั้นจะต้องมีระยะจากจุดกึ่งกลางเสาออกไปด้านละ 20-25 เมตร และระยะรวมเขตเดินสายไฟฟ้า 40-50 เมตร นอกจากนี้ทางการไฟฟ้าฯยังมีข้อกำหนด โดยระบุไว้ว่าห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันอาจเป็นอันตรายแก่ระบบไฟฟ้า เช่น ห้ามนำวัสดุ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรกล เช่นรถเครน รถยก รถตัก รถขุด เข้าใกล้สายไฟฟ้าแรงสูงน้อยกว่า 4 เมตร
นายสำเริงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น ยังห้ามปลูกสร้างอาคาร บ้านเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นทุกชนิดในเขตเดินสายไฟฟ้า บริเวณพื้นที่ที่ตั้งเสา และพื้นที่โดยรอบโคนเสา ห้ามปลูกต้นไม้ทุกชนิด ห้ามกระทำใดๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นดินเขตเดินสายไฟฟ้า เช่น การปรับพื้นดินให้สูงขึ้น การขุดดิน หรือบ่อ การก่อสร้างถนนจะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จาก กฟผ.ก่อน หากมีการสร้างหรือทำขึ้นโดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่ได้รับอนุญาตจาก กฟผ. ทาง กฟผ.มีอำนาจรื้อถอน ทำลาย ตามควรแก่กรณีโดยไม่ต้องจ่ายค่าทดแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดปัญหาขึ้นหลายหน่วยงาน ที่คาดว่าจะเป็นเจ้าพื้นที่ต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ของตน ล่าสุดได้รับการประสานจากทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา ว่าทางคณะผู้บริหารฯ จะเปิดแถลงข่าว ถึงการดำเนินการดังกล่าว พร้อมตอบข้อซักถามของสื่อมวลชนที่ตั้งข้อสงสัยต่างๆ โดยนัดแถลงข่าวในวันพุธที่ 24 กันยายนนี้ เวลา 10.00 น.