ผู้ว่าฯชลบุรีเรียกถกเอกชนผู้บริหารท่าใน ทลฉ.เรียกความมั่นใจผู้นำเข้า-ส่งออก

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เรียกประชุมด่วนบริษัทเอกชนผู้บริหารท่าเทียบเรือ ที่มีทั้งหมดในท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อขอให้เตรียมความพร้อมในการรองรับจำนวนตู้สินค้าที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 วันข้างหน้า หากท่าเรือกรุงเทพ หยุดให้บริการยาว ซึ่งอาจทำให้ท่าเทียบเรือเอกชนไม่สามารถรองรับจำนวนตู้สินค้าได้ทั้งหมด ขณะเดียวกัน ยังเร่งหามาตรการสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำเข้าและส่งออกในพื้นที่ภาคตะวันออกและใกล้เคียง

เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (4 ก.ย.) นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้เรียกประชุมด่วนผู้บริหารท่าเทียบเรือเอกชนทั้งหมดในท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี รวมทั้งผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการร่วมกัน ในการสร้างความมั่นใจในการขนส่งสินค้าทางเรือให้กับกลุ่มผู้ส่งออกและนำเข้าที่ยังใช้บริการขนถ่ายสินค้าในท่าเรือแหลมฉบัง และยังเป็นการหาแนวทางรองรับจำนวนตู้สินค้า ที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอีก 1-2 วันข้างหน้า หากท่าเรือกรุงเทพ ยังไม่เปิดให้บริการซึ่งก็อาจทำให้ท่าเทียบเรือเอกชน ที่รับขนถ่ายสินค้าแทนอาจไม่สามารถรองรับตู้สินค้าจากเรือสิน ค้าที่จะเข้าเทียบท่าได้อย่างเพียงพอ

การประชุมร่วมกันดังกล่าว ส่วนหนึ่งก็คือ การสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกในพื้นที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออกว่าท่าเรือแหลมฉบัง ยังคงเปิดดำเนินการตามปกติ ที่สำคัญยังเป็นการยืนยันสถานการณ์ว่าท่าเรือแห่งนี้ไม่ได้ถูกปิดล้อมโดยกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อไม่ให้เปิดดำเนินการอย่างที่มีการปล่อยข่าวของผู้ไม่หวังดี ในช่วงก่อนหน้านี้

ขณะที่ นายอรชุน ศรีพาเพลิน หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ ท่าเรือแหลมฉบัง เผยถึงปริมาณตู้สินค้าที่ขนถ่ายผ่านท่าเทียบเรือต่างๆ ที่มีจำนวน 15 ท่า ว่า ในขณะนี้ยังเป็นไปตามปกติ และยังไม่มีตู้สินค้าเพิ่มขึ้นจากการหยุดให้บริการของท่าเรือกรุงเทพ แต่อย่างใด ทั้งนี้ เป็นเพราะท่าเรือเอกชนในกรุงเทพ ยังสามารถขนถ่ายตู้สินค้าจากเรือสินค้าที่เข้าเทียบท่าในกรุงเทพได้

อย่างไรก็ดี การประชุมที่มีขึ้นในวันนี้ผู้ว่าราชการจัง หวัดชลบุรี ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการต่างๆ เตรียมพร้อมในเรื่องของเครื่องมือขนถ่ายสินค้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชะงักงันหากมีเรือสินค้าเข้าเทียบท่าเพิ่ม

รวมทั้งการแจงตารางเทียบท่าของเรือสินค้าให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคหากมีการเข้าเทียบท่าของเรือสินค้าเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ยังป้องกันการติดขัดของรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่จะเข้ามาขนถ่ายสินค้าอีกด้วย นอกจากนั้น ยังขอความร่วมมือผู้ประกอบ การไม่ให้หยุดให้บริการเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทางเศรษฐกิจ