ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมช.คมนาคม จี้ ทลฉ.ใช้อำนาจบริหารสัญญาที่ทำร่วมกับ บริษัทเอกชนผู้บริหารท่าเทียบเรือ หวังให้ดำเนินธุรกิจโดยไม่เอาเปรียบผู้ประกอบการอื่น ลดปัญหาการดั๊มป์ราคาหน้าท่าจนผู้ขนส่งสินค้าแห่ใช้บริการ ทำรถขนส่งตู้สินค้าออหน้าท่าติดยาวหลายกิโลเมตรสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ขณะเดียวกันยังกระตุ้นให้หามาตรการผลักดันผู้ขนส่งสินค้าในประเทศ หันใช้บริการท่าเทียบเรือ A0 ซึ่งเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าชายฝั่งที่ปัจจุบันมีจำนวนตู้สินค้าน้อยมาก หวังลดปริมาณการใช้พลังงานน้ำมันจากการขนส่งสินค้าทางบกและลดปัญหาการจราจรภายในพื้นที่
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะได้เดินทางมายังท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานและรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและปัญหาอุปสรรคต่างๆ รวมทั้งนำข้อมูลที่ได้รับจากการร้องเรียนของภาคเอกชนเกี่ยวกับปัญหาการขนถ่ายสินค้า มอบเป็นนโยบายการแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยมีนายเฉลิมเกียรติ สลักคำ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมเจ้าหน้าที่ส่วนงานต่างๆ ให้การต้อนรับ
โดย นายอนุรักษ์ กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม มีเป้าหมายสำคัญที่จะการผลักดันให้ท่าเรือแหลมฉบัง ดำเนินงานตามแผนด้านต่างๆ ที่วางไว้ แต่ปัญหาคือท่าเรือแหลมฉบัง ยังมีข้อจำกัดเรื่องการขนถ่ายสินค้าให้เป็นไปตามแผนแม่บทและให้เป็นไปตามแผนโลจิสติกส์ที่จัดวางไว้ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการจำกัดปริมาณตู้สินค้าของท่าเรือกรุงเทพ ที่มีจำนวน 1.34 ล้านทีอียูซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนถ่ายสินค้าของท่าเรือแหลมฉบัง ขณะที่การมีจุดแยกตัดมากจนเกินไปในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาและอุปสรรคในการขนถ่ายสินค้าที่ก่อให้เกิดการความล่าช้า และส่งผลต่อการใช้น้ำมันที่สร้างความสูญเสียให้กับประเทศเป็นอย่างมาก
ส่วนปัญหาการดัมป์ราคาหน้าท่าของเอกชนผู้บริหารท่าเทียบเรือในท่าเรือแหลมฉบัง จนส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรภายในพื้นที่ท่าเรือและส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเอกชนผู้บริหารท่ารายอื่นที่ล่าสุดกระทรวงคมนาคม ได้รับการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจากผู้ประกอบการ จึงมีแนวคิดที่จะสนับสนุนให้ท่าเรือแหลมฉบัง ใช้อำนาจในการบริหารสัญญาที่ทำไว้กับผู้ประกอบการเอกชนเพื่อให้ผู้ประกอบการที่บริหารท่าเทียบเรือ ปฏิบัติตามข้อตกลงที่วางไว้ เพื่อก่อให้เกิดการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเป็นธรรม โดยพิจารณาที่ข้อตกลงด้านขีดความสามารถในการขนถ่ายสินค้าต่อวันของท่าเทียบเรือนั้นๆ ว่า เมื่อมีสินค้าจำนวนมากแล้ว สามารถขนถ่ายสินค้าได้ตามข้อตกลงที่วางไว้หรือไม่
“ปัญหารถขนถ่ายสินค้าออหน้าท่าเทียบเรือบางท่า จนก่อให้เกิดปัญหารถขนส่งสินค้าติดเป็นทางยาวหลายกิโลเมตรนั้น ท่าเรือแหลมฉบังก็ต้องมาดูว่า การดั๊มป์ราคาของท่าเทียบเรือนั้นอยู่นอกเหนือแผนธุรกิจที่ทำร่วมกันหรือไม่ หากอยู่ในขีดที่สามารถทำได้ก็ต้องดูว่าเขาสามารถขนถ่ายสินค้าได้ทันตามข้อตกลงหรือไม่ ส่วนที่มีการพูดกันว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดการดั๊มป์ราคาหน้าท่าของเอกชน เป็นผลจากการที่ ทลฉ.ไม่มีขีดจำกัดในการขนถ่ายสินค้าต่อปีนั้นไม่เป็นความจริง เพราะ ทลฉ.ได้ทำสัญญากับผู้ประกอบการเกี่ยวกับขีดความสามารถในการขนถ่ายต่อปีไว้อย่างชัดเจน”
นายอนุรักษ์ ยังเผยถึงการร้องเรียนของผู้ประกอบการขนถ่ายสินค้าในประเทศเกี่ยวกับการไม่ได้รับความไม่สะดวกในการเข้าขนถ่ายสินค้า ณ ท่าเทียบเรือชายฝั่ง A0 จนต้องหันไปใช้บริการขนถ่ายสินค้าผ่านท่าเทียบเรือต่างประเทศเป็นการชั่วคราว ว่า หลังจากนี้ไป ทลฉ.จะต้องหามาตรการจูงใจให้ผู้ประกอบการที่ขนส่งสินค้าภายในประเทศหันมาใช้การขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือชายฝั่ง A0 ให้เพิ่มมากขึ้นด้วยงานบริการที่สะดวก สบาย และจะต้องสร้างความแตกต่างด้านราคาระหว่างการใช้ท่าเรือขนถ่ายสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศอย่างชัดเจน ซึ่งหากแก้ไขปัญหาในจุดนี้ได้ก็จะทำให้ประเทศไทยลดก่ใช้พลังงานน้ำมันที่เกิดจากการขนถ่ายสินค้าทางบกได้อย่างมาก ที่สำคัญท่าเทียบเรือชายฝั่ง A0 จะมีตู้สินค้าเข้าใช้บริการเพิ่มมากกว่าปัจจุบัน