ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.แหลมฉบัง เต้นการจราจรติดหนึบในท่าเรือ พบเอกชนที่บริหารบางท่าฯเปิดรับสินค้าขนถ่ายมากเกินศักยภาพเครื่องมือ ชี้จุดอ่อนอยู่ที่การทำข้อตกลงระหว่างกัน ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มปริมาณตู้สินค้าและกำหนดให้แต่ละท่าฯ มีสินค้าไม่น้อยกว่า 3 แสนทีอียูต่อปี จนเอกชนต้องเร่งเพิ่มปริมาณตู้สินค้าแบบไม่มีเพดาน ขณะที่เอกชนบางราย ระบุต้นเหตุเกิดจากการแข่งขันด้านราคาค่าบริการจนทำให้บางท่าฯมีตู้สินค้ามากเกินไป ขณะที่บางท่าฯแถบไม่มีตู้สินค้าเข้าขนถ่าย
จากปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักในเขตท่าเทียบเรือขนถ่ายสินค้า ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จนบางวันพบว่าบริเวณท่าเทียบเรือที่บริหารงานโดยเอกชนบางท่ามีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ออหน้าท่าฯ เป็นระยะทางยาวนับ 10 กิโลเมตร เนื่องจากไม่สามารถนำรถเข้าไปขนถ่ายสินค้ายังท่าเทียบเรือได้ ส่งผลกระทบต่อบริษัทขนส่งสินค้าอื่นที่ไม่ได้รับความสะดวก ในการนำรถเข้าขนถ่ายสินค้า เช่นเดียวกับพนักงานขับรถขนส่งสินค้าที่ต้องนำสินค้าเข้าขนถ่ายยังท่าเทียบเรือเอกชนแห่งนี้ ต้องจอดรถเข้าคิวรอเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนเกิดเสียงเรียกร้องให้ท่าเรือแหลมฉบังเข้ามาแก้ไขปัญหาเป็นการด่วน
ล่าสุด นายเฉลิมเกียรติ์ สลักคำ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) เปิดเผยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของท่าเรือแหลมฉบังที่จัดได้ว่าเป็นท่าเรือระดับเวิลด์คลาส ซึ่งในแต่ละปีมีเรือแม่ขนาดใหญ่และสินค้าขนถ่ายเป็นจำนวนมาก โดยการวิเคราะห์ถึงสาเหตุของปัญหาพบว่า เกิดจากการที่ท่าเทียบเรือบางท่ารับสินค้าเกินขีดความสามารถในการบริหารและจัดการ ขณะเดียวกันก็ไม่เพิ่มเครื่องมือในการขนถ่ายให้เพียงพอต่อจำนวนสินค้าทำให้การขนถ่ายเป็นไปด้วยความล่าช้า
ปัญหาอีกประการ คือ การกำหนดเงื่อนไขให้ท่าเทียบเรือแต่ละท่าเรือต้องมีเป้าหมายตู้สินค้าขนถ่ายไม่ต่ำกว่า 3 แสนทีอียูต่อปี ทำให้ภาคเอกชนเร่งเพิ่มปริมาณตู้สินค้าจนไม่มีเพดาน และบางท่าเรือมีสินค้าขนถ่ายมาก 7-8 แสนทีอียู แต่บางท่าฯที่ลงทุนขยายขีดความ สามารถในการขนถ่ายสินค้ากลับไม่มีตู้สินค้าเข้าขนถ่าย
“เรากำลังเร่งเพื่อกระจายตู้สินค้าที่มีมากเกินไปในบางท่าเรือ ให้เข้าไปใช้บริการยังท่าเทียบเรืออื่นๆ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ทลฉ.ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ เจ้าของสินค้า บริษัทผู้รับผิดชอบในการขนถ่ายสินค้าจากโรงงานมายังท่าเทียบเรือ เพื่อขอความร่วมมือให้ค่อยๆ ทยอยนำสินค้าเข้าขนถ่ายไม่ใช่การนำสินค้ามาเป็นล็อตใหญ่ จนส่งผลให้เกิดการออตัวกันที่บริเวณหน้าท่า ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดอย่างหนัก ขณะเดียวกันก็จะกำหนดโทษสำหรับผู้บริหารท่าเทียบเรือที่มุ่งเน้นการทำตัวเลขตู้สินค้า จนไม่คิดถึงขีดความสามารถของเครื่องมือในการขนถ่าย ซึ่งหากก่อให้เกิดปัญหากับท่าเรือแหลมฉบัง เราก็จะดำเนินการปรับเป็นตัวเงิน”
ผอ.ทลฉ.ยังเผยอีกว่า ในส่วนของเอเยนต์เรือก็จำเป็นต้องมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจว่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในการจัดการด้านการขนส่ง เพื่อทำความตกลงกับเจ้าของสินค้าในเรื่องของการระบายสินค้าออกจากโรงงาน เพื่อมาส่งยังท่าเทียบเรือในช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม ขณะที่ผู้ประกอบการท่าก็จะต้องจัดระบบคิวในการเข้ามายังท่าเทียบเรือให้กับผู้ขนส่งสินค้า โดยในอนาคตหากพบว่าท่าเทียบเรือใดมีรถขนถ่ายสินค้าเข้ามาเสียเวลามากเกินไปก็จะต้องดำเนินการ
“ที่ผ่านมาเราปล่อยให้เอกชนดำเนินการอย่างเต็มที่ ในการเพิ่มจำนวนตู้สินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบในการนำสินค้าบรรจุตู้จนก่อเกิดปัญหาขึ้น นับจากนี้ไปก็คงจะต้องเข้าไปตรวจสอบอย่างจริงจัง รวมทั้งกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้บริหารท่าเทียบเรือที่ปล่อยให้มีรถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาเสียเวลาในพื้นที่มากเกินไป”
ทั้งนี้ การเข้าไปควบคุมปริมาณตู้สินค้าของท่าเทียบเรือต่างๆ ที่จะต้องมีความเหมาะสมกับศักยภาพในการขนถ่ายสินค้าของท่าเทียบเรือนั้นๆ ได้รับการยืนยันจาก ผอ.ทลฉ.ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการเพิ่มตู้สินค้า เนื่องจากหากท่าเทียบเรือต่างๆ กำหนดสัดส่วนตู้สินค้าอย่างเหมาะสมกับขีดความสามารถของตน ก็จะทำให้การขนถ่ายสินค้าผ่านท่าเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
ด้านแหล่งข่าวจากผู้ประกอบการท่าเทียบเรือเอกชน กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าสาเหตุน่าจะมาจากการตัดราคากันเองของผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ทำให้รถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เข้ามาใช้บริการยังท่าเทียบเรือที่เกิดปัญหา เนื่องจากเสียค่าใช้จ่ายถูกกว่าท่าอื่นๆ
นอกจากนั้นยังมีปัญหาอีกหลายๆ ประการภายในท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งหากปล่อยไว้นานก็จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของท่าเรือและประเทศชาติ ดังนั้นหน่วยงานที่รับผิดชอบควรเร่งแก้ไขเป็นการด่วน