xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ชี้หุ้นเรือเจ๋งแต่ไม่น่าลงทุน เหตุค่าระวางมีความผันผวนขึ้นลงเร็ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.เห็นพ้องหุ้นกลุ่มเดินเรือกำไรดีแต่มีความผันผวนสูง แม้ค่าระวางจะปรับตัวเพิ่ม แต่ต้นทุนเชื้อเพลิงก็สูงขึ้นเช่นกัน ทำให้ต้องหันไปลงทุนในธุรกิจอื่นแทน แต่เหตุการณ์เชื่อแผ่นดินไหวในจีนจะทำให้อุปสงค์ความต้องการมีมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกกับหุ้นเรือ ส่วนบริษัทเรือต่างแดนปรับเส้นทางหนีอเมริกา เบนเข็มสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ ดังนั้นเมื่อเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัว โรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของสหรัฐในจีนจะเริ่มมีข้อจำกัดด้านต้นทุน ค่าแรงที่สูงขึ้น แต่ในเรื่องอุตสาหกรรมด้านโลจิสติกส์ของจีนยังไม่ดีพอ น่าจะช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการจากไทยได้นั้น ผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุน บริษัทจัดการกองทุนต่างๆ เพื่อให้ทราบถึงแนวโน้มการลงทุนผ่านหุ้นกลุ่มขนส่งทางเรือ

นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยถึงกรณที่นายมาร์ค โมเบียส ประธานกองทุน เทเพลตัน แอสเซ็ทแมเนจเมนท์ ให้ความเห็นว่า ธุรกิจการเดินเรือ หรือการขนส่งทางเรือของไทยนั้น นับว่าเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่กองทุนเทเพลตันให้ความสนใจที่จะเข้าลงทุนด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีความน่าเชื่อถือว่าก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้มีการลงทุนในหุ้นกลุ่มเดินเรือ เพราะหุ้นกลุ่มนี้สามารถทำกำไรสูง แต่หุ้นกลุ่มนี้มีความผันผวนค่อนข้างสูง ดังนั้น บลจ.จึงหันไปลงทุนด้านอื่นมากกว่าที่จะลงทุนในหุ้นเดินเรือ

อย่างไรก็ตามหุ้นในกลุ่มธุรกิจเดินเรือ อาทิ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA)ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มนี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลง หรือสร้างความผันผวนเป็นอย่างมากให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะเมื่อต้นปีที่หุ้นกลุ่มนี้ลดลงกว่า 50 จุด โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์หุ้นกลุ่มนี้อยู่ที่ 50 จุด แต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมากลับปรับตัวลดลงอยู่ที่ 30 จุด และในเดือนพฤษภาคมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 55 จุด ดังนั้นหากจะนักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นเดินเรือควรเลือกลงทุนเป็นรอบๆไป ซึ่งแต่ละรอบการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน

ทั้งนี้ เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วอัตราค่าระวางเรือได้ปรับตัวขึ้นไปที่ 11,025 บาท ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมา ขณะที่เดือนพฤษภาคม 2551 ปรับตัวขึ้นมาที่ 14,459 บาท เท่ากับว่ามีการปรับตัวเดิมจากเดือนที่แล้ว โดยราคาปรับตัวขึ้นลงจะใช้ระยะเวลาครึ่งปี เหมือนกับหุ้นกลุ่ม ปิโตรเคมี

“ปัจจัยบวกของหุ้นกลุ่มธุรกิจเดินเรือคืออัตราค่าเช่าระวางเรือ(BDIY)ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงจากปีที่แล้ว ขณะที่อินเด็กซ์และซัพพลายที่มีไม่เยอะ จึงถือเป็นความเสี่ยงที่น่าจับตามอง”

ขณะเดียวกัน หากเกิดการลดนำเข้าเหล็กจากจีน ส่งผลให้ความต้องการใช้เรือในการขนส่งจึงน้อยตามไปด้วย ทำให้นักลงทุนเกิดความกลัวที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ เพราะที่ผ่านมาจีนต้องสั่งนำเข้าเหล็กเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างสนามแข่งขันโอลิมปิค หากการแข่งขันโอลิมปิคผ่านไปความต้องการใช้เหล็กจะลดน้อยลงไปอีก แต่เมื่อประเทศจีนเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดความต้องการนำเข้าเหล็กมีเพิ่มมากขึ้นเพื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัยของประชาชน

ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในหุ้นกลุ่มเดินเรือในช่วงที่ผ่านได้รับความสนใจจากนักลงทุนพอสมควร อีกทั้งบริษัทเดินเรือมีการจ่ายเงินปันผลหุ้นให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในไตรมาสที่ผ่านมา

โดยขณะนี้ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีเพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ความต้องการในเรื่องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วยทำให้ธุรกิจในกลุ่มในเดินเรือเติบโตตามการค้าระหว่างประเทศด้วย พร้อมทั้งบริษัทที่ให้การแข่งขันด้านการเดินเรือมีการแข่งขันค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทได้มีการสั่งต่อเรือเพิ่มเพื่อรองรับการขนส่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะธุรกิจการขนส่งทางเรือมีค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนในการขนส่งถูกกว่าการขนส่งทางทางบกหรือการขนส่งทางอากาศ

อย่างไรก็ตามขณะเดียวกันหุ้นในกลุ่มเดินเรือมีความผันผวนสูงเพราะต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มมากขึ้นหรือราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามตลาดอาจทำให้มีผลกำไรที่จะได้รับลดลง สำหรับทางบลจ. อยุธยา ไม่มีหุ้นในกลุ่มเดินเรือถืออยู่ เพราะมีความผันผวนสูง อีกทั้งข้อมูลทีมีอยู่ไม่เชื่อมั่นเท่าที่ควร จึงทำให้บลจ ไม่มีการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้

ด้าน โรนัลด์ วิดโดวส์ ผู้บริหารระดับสูงบริษัท เนปจูน โอเรียนท์ ไลน์ส (NOL) กล่าวว่า การขยายตัวของธุรกิจเดินเรือในเอเชียยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าเศรษฐกิจในตลาดส่งออกที่สำคัญอย่างสหรัฐจะชะลอตัวลงก็ตาม โดยธุรกิจเดินเรือจะขยายตัวต่อไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่เอ็นโอแอล และบริษัทขนส่งสินค้าทางเรืออื่นๆส่งเรือขนสินค้าไปเอเชียมากขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณการค้าในเส้นทางไปสหรัฐตกลง และการขยายตัวของการขนส่งสินค้าในเส้นทางไปยุโรปนั้นขยายตัวอยู่ในระดับปานกลางโดย อุตสาหกรรมเดินเรือสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยบริษัทเดินเรือจำนวนมากกำลังบริหารความสามารถในการขนส่งของตนเอง โดยเอ็นโอแอลเองไม่ได้สั่งเรือขนคู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ หรือเรือที่สามารถขนส่งสินค้าขนาด 12,000 - 16,000 TEUซึ่งเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่สุดที่เอ็นโอแอลเคยสั่งมา สามารถขนส่งสินค้าได้ 10,000 TEU ตอนนี้เป็นเรื่องยากที่จะใช้เรือขนาดใหญ่ขนส่งสินค้า เนื่องจากปัญหาตัดขัดด้านอุปทานที่ท่าเรือต่างๆ

สำหรับปริมาณการขนส่งสินค้าของเอ็นโอแอลขยายตัวขึ้น 14% แตะ 865,900 FEUs ในช่วง 4 เดือนแรกของปี ขณะที่ค่าขนส่งสินค้าโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 14% แตะ 2,935 ดอลลาร์ต่อ FEU

ส่วนบทวิเคราะห์ของ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าคงแนะนำถือและแนะนำให้ลงทุนในกลุ่มเรือสินค้าแห้งเทกองโดยยังคงแนะนำถือสำหรับ RCL ด้วยราคาเป้าหมายตามวิธี DCF สำหรับปี 2551 ที่ 27.00 บาท เนื่องจากกำไรมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันเรือเดินทะเลที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางด้านมูลค่า ปัจจุบันหุ้นซื้อขายอยู่ที่ PER เพียง 7.6 เท่าและ PBV เพียง 0.9 เท่าสำหรับปี 2551 ซึ่งใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดตามข้อมูลในอดีต ขณะนี้แนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มเรือสินค้าแห้งเทกองมากกว่า (TTA แนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 53 บาท และ PSL แนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 24 บาท) จากแนวโน้มอุตสาหกรรมที่สดใสกว่าโดยมีปัจจัยหนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งของสินค้าโภคภัณฑ์และอุปทานเรือสินค้าแห้งเทกองที่ตึงตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น