xs
xsm
sm
md
lg

ประมงฯกาญจน์เปิดโครงการปล่อยปลาเอื้ออาทร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี – ประมงจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฟื้นฟูสัตว์น้ำหน้าบ้านและเปิดโครงการบ้านปลาเอื้ออาทร ณ บ้านปลายนาสวน ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

วันนี้ (8 ส.ค.) นายสมยศ สุขเจริญ ประมงจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการจัดโคงการฟื้นฟูสัตว์น้ำหน้าบ้าน และเปิดโครงการบ้านปลาเอื้ออาทรว่า เนื่องด้วยสำนักงานประมงจังหวัดกาญจนบุรีได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเขื่อนศรีนครินทร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ 2 โครงการ โดยโครงการฟื้นฟูสัตว์น้ำหน้าบ้าน ได้ดำเนินการบริเวณบ้านปลายนาสวน ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ และโครงการบ้านปลาเอื้ออาทร ดำเนินการบริเวณท่าแพขนานยนต์ ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์

นายสมยศ สุขเจริญ ประมงจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า โครงการทั้ง 2 โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชุมชนที่มีอาชีพทางการประมงมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรประมง เพื่อให้ชุมชนที่มีอาชีพทางการประมงได้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรประมง เพื่อเป็นแหล่งอาศัย พ่อแม่พันธุ์และเป็นแหล่งผสมพันธุ์ว่างไข่ เพื่อให้ประชาชนได้มีสัตว์น้ำไว้บริโภคและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ในการดำเนินโครงการฟื้นฟูสัตว์น้ำหน้าบ้าน และโครงการบ้านปลาเอื้ออาทรนี้เพื่อเป็นการอนุบาลลูกปลา และปล่อยพันธุ์ปลาจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ปลาสวาย 5,000 ตัว ปลาเทโพ 5,000 ตัว ปลาตะเพียนขาว 5,000 ตัว ปลายี่สกเทศ 5,000 ตัว ปลานวลจันทร์เทศ 5,000 ตัว ให้อาหารเม็ดสำเร็จรูป เมื่อเลี้ยงปลาได้ระยะหนึ่งประมาณ 2-3 เดือนแล้วก็จะปล่อยปลาลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ

นายสมยศ สุขเจริญ กล่าวว่า ปลาที่ปล่อยเป็นปลาจากธรรมชาติที่มาอาศัยกินอาหารบริเวณรอบ ๆ กระชัง ก็จะอยู่บริเวณโครงการเนื่องจากคุ้นเคยและไม่ถูกรบกวน เพราะมีการห้ามทำการประมงในบริเวณพื้นที่ของโครงการเนื่องจากสถานที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งอาศัยของพ่อแม่พันธุ์ปลาทั้งที่ปล่อยเลี้ยง และปลาชนิดต่าง ๆ จากธรรมชาติ ซึ่งอาศัยอยู่ร่วมกันเพื่อจะแพร่ขยายพันธุ์ไปสู่แหล่งน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ได้เป็นจำนวนมหาศาล เมื่อปลาเจริญเติบโตอยู่ในวันเจริญพันธุ์ก็จะออกไปผสมพันธุ์ และวางไข่ในแหล่งที่เหมาะสมส่งผลให้ทรัพยากรประมงในอ่างเก็บน้ำได้ดำรงความสมบูรณ์ เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนได้อย่างยั่งยืน

กำลังโหลดความคิดเห็น