เลย - เมืองเลยสุดเถื่อน ผู้มีอิทธิพลไม่ยอมแพ้ต่อกฎหมาย ส่งชายฉกรรจ์ดักชิงแร่เหล็กของกลาง ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจลำเลียงเก็บโรงพัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการสอบสวนกลาง จำนวน 5 นาย นำโดย พ.ต.ท.กฤตรัตน์ ลิขิตบัณฑิตย์วงษ์ รอง ผกก.ฝ่ายปฏิบัติ บก.ปทส. และ.เจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.เชียงคาน นำโดย พ.ต.ท.ธงชัย ถิ่นวงษ์แพง สวป.สภ.เชียงคาน, พ.ต.ท.สุริยา แสงสุริยา สว.สป.สภ.เชียงคาน พร้อมกับพวก เข้าดักซุ่ม เพื่อตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบขุดแร่เหล็ก ในเขตปฏิรูปที่ดิน ท้องที่บ้านใหม่ศาลาเฟือง หมู่ 15 ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย
ห่างจากถนนสายเลย-เชียงคาน กม.ที่ 33 เข้าไปตามถนนลูกรังประมาณ 2 กม. พบคนงานกำลังขุดแร่เหล็กขึ้นมารอใส่รถบรรทุก 10 ล้อเรียบร้อยแล้ว พร้อมออกจากพื้นที่จำนวน 10 คัน รถแบ็กโฮ 3 คัน พร้อมคนงาน 10 คน บนเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน โครงการป่าภูหงษ์โซนอี แปลงที่ 3902/7 ถึง 8 และแปลงที่ 3902/21ถึง 22 จำนวน 4 แปลง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัดเลย ซึ่งเคยเข้าตรวจค้นจับกุมมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.ค.51 ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี
พ.ต.ท.กฤตรัตน์ ลิขิตบัณฑิตย์วงษ์ รอง ผกก.ฝ่ายปฏิบัติ บก.ปทส.เปิดเผยว่า เนื่องจากเป็นเวลามืด ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ได้ ระหว่างดำเนินการได้มีโทรศัพท์อ้างว่าเป็นนายพลทหารที่มีอิทธิพล มีชื่อเสียง ทางนักเลงหัวไม้ พยายามขอเคลียร์ ไม่ให้มีการจับกุม ซึ่งชุดจับกุมได้ขอความเห็นไปทางผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมาย สร้างความไม่พอใจให้กับผู้แอบอ้างดังกล่าว
จากนั้นจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 10 นาย คุมรถบรรทุก 10 ล้อคนละคัน โดยมีผู้ต้องหาเป็นคนขับ ระหว่างเส้นทางนำรถยนต์ของกลาง เดินทางออกมาได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 6คน ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ป 8627 นครสวรรค์ และรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดขวางทาง ไม่ให้คณะเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางไปส่งพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งสวมเสื้อกล้าม สีเขียว มีข้อความปรากฏที่หน้าอกเป็นชื่อเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง คอยชี้นิ้วส่งเสียงสั่งการว่าให้เอากุญแจรถยนต์มาแล้วให้ดั้มพ์เทแร่ ที่อยู่บนรถทิ้งหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สามารถนำรถยนต์บรรทุกของกลางหลบหลีกการขัดขวางมาได้จำนวน 2 คัน
ต่อมากลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอยู่ในรถยนต์โตโยต้า สีขาว ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นเล็งมายัง ดต.สุวิทย์ คัรธมาลา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมรถยนต์บรรทุกของกลางฯ แล้วเหนี่ยวไกปืนได้ยิงเสียงดังแซะ แซะ แซะ เจ้าหน้าที่จึงได้ลงจากรถเพื่อหลบ และหาที่กำบัง หลังจากนั้นประมาณ 1-2 นาที ได้มีเสียงปืนแบบอัตโนมัติ ดังขึ้นหนึ่งชุดประมาณ 7-8 นัด และได้ยินเสียงปืนพกสั้นดังขึ้นอีก 2 นัด เสียงปืนทั้งสองชนิดดังมาจากรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว
เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมทั้งขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมจาก สภ.เชียงคาน ตำรวจน้ำและตำรวจตระเวณชายแดน หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เชียงคาน จำนวน 15 นาย ได้เดินทางมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อคคี่คลายสถานการณ์ โดยตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว และรถยนต์ อีซูซุ 4 ประตู สีดำ คันดังกล่าววิ่งวนไปวนมา จึงได้ติดตามเพื่อตรวจสอบ
ปรากฏว่าติดตามรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาวได้ที่บริเวณลานรับซื้อแร่ กรีนมายนิ่ง มีนายณรงค์ศักดิ์ ฉลวยแสง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/223 หมู่ 1 ต.ศรีสองรัก อ.เมือง จ.เลย เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวจึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ส่วนของกลางจะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ
พ.ต.ท.กฤตรัตน์ ลิขิตบัณฑิตย์วงษ์ หัวหน้าชุดจับกุมยังกล่าวอีกว่า กลุ่มพวกนี้เป็นกลุ่มนายทุนมาจากทางภาคเหนือ โดยมีนายทุนจากจีนอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากพาหนะที่ใช้ทำความผิดจะนำมาจากทาง จ.พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ และมีคนมีสีอยู่เบื้องหลัง และเข้ามาลักลอบทำแร่เหล็กเถื่อน เนื่องจากจ.เลย อุดมไปด้วยแร่จำนวนมาก
ดต.สุวิทย์ คัรธมาลา เจ้าหน้าที่จาก บก.ปทส.ที่ถูกจ่อยิงแต่ไม่ปืนลั่นเปิดเผยว่า ช่วงไม่ได้คิดอะไร กำลังปฏิบัติหน้าที่ ไม่คิดว่าพวกนี้จะอุกอาจขนาดนี้ คิดว่าทำดีต้องดลาดแคล้ว แต่ก็แขวน พระกริ่งนเรศวรเพชรกลัป ของวัดใหญ่พระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก และ ตะกรุดอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม เชื่อว่าทำให้รอดชีวิตมาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการสอบสวนกลาง จำนวน 5 นาย นำโดย พ.ต.ท.กฤตรัตน์ ลิขิตบัณฑิตย์วงษ์ รอง ผกก.ฝ่ายปฏิบัติ บก.ปทส. และ.เจ้าหน้าที่ตำรวจ จาก สภ.เชียงคาน นำโดย พ.ต.ท.ธงชัย ถิ่นวงษ์แพง สวป.สภ.เชียงคาน, พ.ต.ท.สุริยา แสงสุริยา สว.สป.สภ.เชียงคาน พร้อมกับพวก เข้าดักซุ่ม เพื่อตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบขุดแร่เหล็ก ในเขตปฏิรูปที่ดิน ท้องที่บ้านใหม่ศาลาเฟือง หมู่ 15 ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย
ห่างจากถนนสายเลย-เชียงคาน กม.ที่ 33 เข้าไปตามถนนลูกรังประมาณ 2 กม. พบคนงานกำลังขุดแร่เหล็กขึ้นมารอใส่รถบรรทุก 10 ล้อเรียบร้อยแล้ว พร้อมออกจากพื้นที่จำนวน 10 คัน รถแบ็กโฮ 3 คัน พร้อมคนงาน 10 คน บนเนื้อที่ 6 ไร่ 2 งาน โครงการป่าภูหงษ์โซนอี แปลงที่ 3902/7 ถึง 8 และแปลงที่ 3902/21ถึง 22 จำนวน 4 แปลง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของสำนักงานปฎิรูปที่ดินจังหวัดเลย ซึ่งเคยเข้าตรวจค้นจับกุมมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.ค.51 ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี
พ.ต.ท.กฤตรัตน์ ลิขิตบัณฑิตย์วงษ์ รอง ผกก.ฝ่ายปฏิบัติ บก.ปทส.เปิดเผยว่า เนื่องจากเป็นเวลามืด ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ได้ ระหว่างดำเนินการได้มีโทรศัพท์อ้างว่าเป็นนายพลทหารที่มีอิทธิพล มีชื่อเสียง ทางนักเลงหัวไม้ พยายามขอเคลียร์ ไม่ให้มีการจับกุม ซึ่งชุดจับกุมได้ขอความเห็นไปทางผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมาย สร้างความไม่พอใจให้กับผู้แอบอ้างดังกล่าว
จากนั้นจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 10 นาย คุมรถบรรทุก 10 ล้อคนละคัน โดยมีผู้ต้องหาเป็นคนขับ ระหว่างเส้นทางนำรถยนต์ของกลาง เดินทางออกมาได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 6คน ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ป 8627 นครสวรรค์ และรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดขวางทาง ไม่ให้คณะเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางไปส่งพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งสวมเสื้อกล้าม สีเขียว มีข้อความปรากฏที่หน้าอกเป็นชื่อเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง คอยชี้นิ้วส่งเสียงสั่งการว่าให้เอากุญแจรถยนต์มาแล้วให้ดั้มพ์เทแร่ ที่อยู่บนรถทิ้งหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สามารถนำรถยนต์บรรทุกของกลางหลบหลีกการขัดขวางมาได้จำนวน 2 คัน
ต่อมากลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งอยู่ในรถยนต์โตโยต้า สีขาว ได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นเล็งมายัง ดต.สุวิทย์ คัรธมาลา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมรถยนต์บรรทุกของกลางฯ แล้วเหนี่ยวไกปืนได้ยิงเสียงดังแซะ แซะ แซะ เจ้าหน้าที่จึงได้ลงจากรถเพื่อหลบ และหาที่กำบัง หลังจากนั้นประมาณ 1-2 นาที ได้มีเสียงปืนแบบอัตโนมัติ ดังขึ้นหนึ่งชุดประมาณ 7-8 นัด และได้ยินเสียงปืนพกสั้นดังขึ้นอีก 2 นัด เสียงปืนทั้งสองชนิดดังมาจากรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว
เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมทั้งขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมจาก สภ.เชียงคาน ตำรวจน้ำและตำรวจตระเวณชายแดน หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เชียงคาน จำนวน 15 นาย ได้เดินทางมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อคคี่คลายสถานการณ์ โดยตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาว และรถยนต์ อีซูซุ 4 ประตู สีดำ คันดังกล่าววิ่งวนไปวนมา จึงได้ติดตามเพื่อตรวจสอบ
ปรากฏว่าติดตามรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สีขาวได้ที่บริเวณลานรับซื้อแร่ กรีนมายนิ่ง มีนายณรงค์ศักดิ์ ฉลวยแสง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/223 หมู่ 1 ต.ศรีสองรัก อ.เมือง จ.เลย เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวจึงได้ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ส่วนของกลางจะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเข้ามาตรวจสอบ
พ.ต.ท.กฤตรัตน์ ลิขิตบัณฑิตย์วงษ์ หัวหน้าชุดจับกุมยังกล่าวอีกว่า กลุ่มพวกนี้เป็นกลุ่มนายทุนมาจากทางภาคเหนือ โดยมีนายทุนจากจีนอยู่เบื้องหลัง เนื่องจากพาหนะที่ใช้ทำความผิดจะนำมาจากทาง จ.พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ และมีคนมีสีอยู่เบื้องหลัง และเข้ามาลักลอบทำแร่เหล็กเถื่อน เนื่องจากจ.เลย อุดมไปด้วยแร่จำนวนมาก
ดต.สุวิทย์ คัรธมาลา เจ้าหน้าที่จาก บก.ปทส.ที่ถูกจ่อยิงแต่ไม่ปืนลั่นเปิดเผยว่า ช่วงไม่ได้คิดอะไร กำลังปฏิบัติหน้าที่ ไม่คิดว่าพวกนี้จะอุกอาจขนาดนี้ คิดว่าทำดีต้องดลาดแคล้ว แต่ก็แขวน พระกริ่งนเรศวรเพชรกลัป ของวัดใหญ่พระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก และ ตะกรุดอาจารย์อ๊อด วัดสายไหม เชื่อว่าทำให้รอดชีวิตมาได้