ฉะเชิงเทรา- แก๊งตุ๋นครูประถม-มัธยม ทำผลงาน โผล่อาละวาดเมืองแปดริ้วเรียกเงินค่าหัวจัดอบรมเลื่อนวิทยฐานะ เหยื่อผู้เข้าอบรมแคลงใจหลังพบว่าวิทยากรไม่มีความรู้ที่สูงกว่าตามสายงานทำความแตก ขณะผู้เสียหายบอกผ่านสื่ออยากเตือนเพื่อนข้าราชการครูให้ดูไว้เป็นตัวอย่าง
ร.ต.นพดล ไชยรักษ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/187 ม.2 ต.บางเพียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต จ.สมุทรปราการ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้มีแก๊งค์ต้มตุ๋นได้ลวงครูอาจารย์ โดยส่งจดหมายไปตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อจัดการอบรมการทำผลงาน เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะ โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มครูอาจารย์ที่ได้เคยทำผลงานแล้วไม่ผ่านการประเมิน ซึ่งมีครูผู้สนใจในจังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้เคียง รวมถึงในเขตกรุงเทพมหานครต่างหลงเชื่อพากันเดินทางมาเข้าร่วมรับการอบรมเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการจัดอบรมครั้งนี้ ได้จัดขึ้น
โดยอ้างว่าจะมีวิทยากรระดับด็อกเตอร์มาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ แนะแนวทางในการจัดทำผลงาน เพื่อให้ผ่านการประเมินเลื่อนวิทยฐานะ ที่ห้องเพทาย โรงแรมแกรนด์ รอยัล พลาซ่า อ.เมืองฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 26-27 ก.ค.51 เวลา 09.00-16.30 น. แต่จากการที่ได้เข้ารับการอบรมกลับพบว่า วิทยากรที่มาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรมไม่ตรง หรือเป็นไปตามหนังสือของผู้จัดอบรมที่ได้แจ้งไว้ในจดหมายเชิญชวนให้มาเข้ารับอบรม
นอกจากนี้ ผู้ที่มาเป็นวิทยากรในการบรรยายกลับมีคุณวุฒิที่ไม่แตกต่าง และน้อยกว่าอาจารย์บางคนที่ได้มาเข้าร่วมอบรมด้วย จึงได้สร้างความกังขาแคลงใจต่อผู้เข้าร่วมอบรมเป็นจำนวนมาก ที่ต่างพากันหลงเชื่อ และเดินทางมาลงทะเบียน เข้าร่วมรับการอบรมในครั้งนี้ มากถึง 85 คน
สำหรับรายละเอียดของการอบรมนั้น ทางผู้จัดอบรมได้เรียกเก็บค่าลงทะเบียนรายละ 1 พันบาท จากผู้เข้าอบรมการทำผลงานทางวิชาการภาคบังคับในด้านที่ 3 ให้กับครู อาจารย์ ที่ได้ยื่น วฐ.1 ไว้ก่อนเดือน เม.ย.51 ซึ่งยังเป็นรุ่นที่อยู่ในช่วงของการทำผลงานแบบเก่า เพื่อให้ผ่านทุกคน โดยได้อ้างว่าในการบรรยายครั้งนี้ ทางสถาบันได้เชิญ ดร.สุจิต เหมวัล วิทยากรผู้มีประสบการณ์ในการบรรยาย และเป็นที่ปรึกษา เคยพาอาจารย์ทำผลงานผ่านมาแล้วเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ในใบประกาศที่ทางผู้จัดอบรมได้จัดพิมพ์แจกจ่ายออกให้นั้นยังจะให้ผู้เข้าร่วมรับการอบรมในครั้งนี้เขียนชื่อตัวเองใส่ลงไปด้วยตนเอง โดยในประกาศได้ระบุว่า เป็น “สถาบันพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา” ห้างหุ้นส่วนจำกัดพัฒนาครู และบุคลากร วุฒิบัติฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า ได้ผ่านการอบรมการทำผลงานทางวิชาการ เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญภาคปฏิบัติ ในระหว่างวันที่ และเดือน พ.ศ.2551 ณ โรงแรม ขอให้เจริญสุขสวัสดิ์ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสืบไป พร้อมลงชื่อ นายธนากร จิณณวัชร ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา
ขณะที่ นายกฤษฎา บุญคง อายุ 52 ครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านเขตชานเมือง กทม. อยู่บ้านเลขที่ 34/2 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ตนมีความข้องใจเกี่ยวกับการจัดอบรมในครั้งนี้มาก หลังพบว่าวิทยากรที่มาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ในครั้งนี้นั้นไม่ได้เป็น ด็อกเตอร์ หรือบุคคลที่ถูกระบุไว้ในหนังสือเชิญชวน ที่ได้แจ้งไปยังสถานศึกษาต่างๆ จึงหวั่นเกรงว่าบรรดาครู อาจารย์ ที่ยังทำผลงานไม่ผ่าน และเดินทางมาเข้าร่วมรับการอบรมในครั้งนี้ จะถูกแก๊งค์ต้มตุ๋นหลอกให้มาลงทะเบียนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ มากกว่าที่จะมาบรรยายเป็นที่ปรึกษาในการทำผลงานให้ผ่าน
หลังจากผู้เข้ารับการอบรมเกิดความข้องใจ สงสัยต่อการจัดการอบรมในครั้งนี้ จึงได้ต่างพากันเดินออกมาจากห้องจัดอบรม และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และทวงถามหาถึงวิทยากรระดับด็อกเตอร์ที่ได้ถูกนำชื่อมาแอบอ้าง แต่ทางผู้จัดกลับอ้ำอึ้งและปัดที่จะตอบคำถาม เพื่อคลายความสงสัย โดยตอบคำถามไม่ได้อย่างชัดเจน จึงทำให้บรรดาครู อาจารย์ ที่เดินทางมาร่วมรับการอบรมในครั้งนี้ ต่างพากันมาขอเงินลงทะเบียนคืน แต่ทางผู้จัดกลับปฏิเสธที่จะให้คืนทั้งหมด โดยอ้างว่าการจัดอบรมครั้งนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสถานที่ และอาหารว่างกับทางโรงแรม จึงยินยอมคืนเงินให้เพียงรายละ 300 บาทเท่านั้น
ร.ต.นพดล ไชยรักษ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/187 ม.2 ต.บางเพียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต จ.สมุทรปราการ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้มีแก๊งค์ต้มตุ๋นได้ลวงครูอาจารย์ โดยส่งจดหมายไปตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อจัดการอบรมการทำผลงาน เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะ โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มครูอาจารย์ที่ได้เคยทำผลงานแล้วไม่ผ่านการประเมิน ซึ่งมีครูผู้สนใจในจังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้เคียง รวมถึงในเขตกรุงเทพมหานครต่างหลงเชื่อพากันเดินทางมาเข้าร่วมรับการอบรมเป็นจำนวนมาก
ซึ่งการจัดอบรมครั้งนี้ ได้จัดขึ้น
โดยอ้างว่าจะมีวิทยากรระดับด็อกเตอร์มาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ แนะแนวทางในการจัดทำผลงาน เพื่อให้ผ่านการประเมินเลื่อนวิทยฐานะ ที่ห้องเพทาย โรงแรมแกรนด์ รอยัล พลาซ่า อ.เมืองฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 26-27 ก.ค.51 เวลา 09.00-16.30 น. แต่จากการที่ได้เข้ารับการอบรมกลับพบว่า วิทยากรที่มาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรมไม่ตรง หรือเป็นไปตามหนังสือของผู้จัดอบรมที่ได้แจ้งไว้ในจดหมายเชิญชวนให้มาเข้ารับอบรม
นอกจากนี้ ผู้ที่มาเป็นวิทยากรในการบรรยายกลับมีคุณวุฒิที่ไม่แตกต่าง และน้อยกว่าอาจารย์บางคนที่ได้มาเข้าร่วมอบรมด้วย จึงได้สร้างความกังขาแคลงใจต่อผู้เข้าร่วมอบรมเป็นจำนวนมาก ที่ต่างพากันหลงเชื่อ และเดินทางมาลงทะเบียน เข้าร่วมรับการอบรมในครั้งนี้ มากถึง 85 คน
สำหรับรายละเอียดของการอบรมนั้น ทางผู้จัดอบรมได้เรียกเก็บค่าลงทะเบียนรายละ 1 พันบาท จากผู้เข้าอบรมการทำผลงานทางวิชาการภาคบังคับในด้านที่ 3 ให้กับครู อาจารย์ ที่ได้ยื่น วฐ.1 ไว้ก่อนเดือน เม.ย.51 ซึ่งยังเป็นรุ่นที่อยู่ในช่วงของการทำผลงานแบบเก่า เพื่อให้ผ่านทุกคน โดยได้อ้างว่าในการบรรยายครั้งนี้ ทางสถาบันได้เชิญ ดร.สุจิต เหมวัล วิทยากรผู้มีประสบการณ์ในการบรรยาย และเป็นที่ปรึกษา เคยพาอาจารย์ทำผลงานผ่านมาแล้วเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ในใบประกาศที่ทางผู้จัดอบรมได้จัดพิมพ์แจกจ่ายออกให้นั้นยังจะให้ผู้เข้าร่วมรับการอบรมในครั้งนี้เขียนชื่อตัวเองใส่ลงไปด้วยตนเอง โดยในประกาศได้ระบุว่า เป็น “สถาบันพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา” ห้างหุ้นส่วนจำกัดพัฒนาครู และบุคลากร วุฒิบัติฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า ได้ผ่านการอบรมการทำผลงานทางวิชาการ เพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญภาคปฏิบัติ ในระหว่างวันที่ และเดือน พ.ศ.2551 ณ โรงแรม ขอให้เจริญสุขสวัสดิ์ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานสืบไป พร้อมลงชื่อ นายธนากร จิณณวัชร ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาครู และบุคลากรทางการศึกษา
ขณะที่ นายกฤษฎา บุญคง อายุ 52 ครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านเขตชานเมือง กทม. อยู่บ้านเลขที่ 34/2 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ตนมีความข้องใจเกี่ยวกับการจัดอบรมในครั้งนี้มาก หลังพบว่าวิทยากรที่มาเป็นผู้บรรยายให้ความรู้ในครั้งนี้นั้นไม่ได้เป็น ด็อกเตอร์ หรือบุคคลที่ถูกระบุไว้ในหนังสือเชิญชวน ที่ได้แจ้งไปยังสถานศึกษาต่างๆ จึงหวั่นเกรงว่าบรรดาครู อาจารย์ ที่ยังทำผลงานไม่ผ่าน และเดินทางมาเข้าร่วมรับการอบรมในครั้งนี้ จะถูกแก๊งค์ต้มตุ๋นหลอกให้มาลงทะเบียนเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ มากกว่าที่จะมาบรรยายเป็นที่ปรึกษาในการทำผลงานให้ผ่าน
หลังจากผู้เข้ารับการอบรมเกิดความข้องใจ สงสัยต่อการจัดการอบรมในครั้งนี้ จึงได้ต่างพากันเดินออกมาจากห้องจัดอบรม และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ และทวงถามหาถึงวิทยากรระดับด็อกเตอร์ที่ได้ถูกนำชื่อมาแอบอ้าง แต่ทางผู้จัดกลับอ้ำอึ้งและปัดที่จะตอบคำถาม เพื่อคลายความสงสัย โดยตอบคำถามไม่ได้อย่างชัดเจน จึงทำให้บรรดาครู อาจารย์ ที่เดินทางมาร่วมรับการอบรมในครั้งนี้ ต่างพากันมาขอเงินลงทะเบียนคืน แต่ทางผู้จัดกลับปฏิเสธที่จะให้คืนทั้งหมด โดยอ้างว่าการจัดอบรมครั้งนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสถานที่ และอาหารว่างกับทางโรงแรม จึงยินยอมคืนเงินให้เพียงรายละ 300 บาทเท่านั้น