ยะลาเร่งพัฒนาครูพร้อมสร้างฐานภาษาอังกฤษเพื่อเด็กเรียนต่อมาเลเซีย

ยะลา – บ.ไปรษณีย์ไทยจำกัด มอบห้องไปรษณีย์ไทยไฮเทค ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ จ.ยะลา-ผอ.เขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 เร่งพัฒนาครู แก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ พร้อมสร้างฐานภาษาอังกฤษรองรับเด็กไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยในประเทศมาเลเซีย

นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 1 กล่าวถึงการแก้ปัญหาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดยะลา ในโอกาสที่เดินทางไปร่วมพิธีมอบห้องไปรษณีย์ไทยไฮเทค ให้กับโรงเรียนพัฒนาบาลอ อ.รามัน จ.ยะลา ว่าขณะนี้ในพื้นที่มีปัญหาด้านการศึกษาของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นคะแนนโอเน็ต คะแนนเอ็นจี หรือคะแนนแอเวสส์ ทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก็อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นทางการเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 โดยที่ได้กำหนดวิธีการอยู่ 2 อย่าง คือการแก้ไขปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ขณะนี้มีนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 2-6 อ่านออกเขียนไม่ได้ประมาณ 5,000 กว่าคน คิดเป็นร้อยละ 20 โดยถือว่าเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องแก้ก่อน

ส่วนที่ 2 คือ การพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อที่จะยกระดับผลสัมฤทธิ์ของเด็กให้ดีขึ้น โดยการพัฒนาจุดแรกคือการพัฒนาครู เนื่องจากขณะนี้มีครูเข้ามาใหม่เป็นจำนวนมาก ทั้งครูอัตราจ้าง พนักงานราชการ ครูเหล่านี้ยังไม่มีประสบการณ์ แต่มีความตั้งใจ ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีการพัฒนาครู ในโอกาสเดียวกันทางเขตพื้นที่จะเร่งดำเนินการพัฒนาครูที่ยังไม่ตรงวุฒิ ในขณะเดียวกันจะมีการพัฒนาการเรียนการสอนในวิธีการใหม่ๆ ควบคู่ด้วย ที่สำคัญที่สุดก็คือสื่อการสอนและอุปกรณ์การสอน ซึ่งในวันนี้ทางบริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด ได้มอบเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นสื่อการเรียนให้กับโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย ที่จะสามารถทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้มากขึ้น

ส่วนที่มีผู้ปกครองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นิยมส่งบุตรหลานข้ามไปเรียนในประเทศมาเลเซีย ซึ่งต้องใช้ฐานทางด้านภาษาอังกฤษเป็นหลัก นั้น ผอ.เขตพื้นที่ยะลาเขต 1 กล่าวถึงภาษาอังกฤษนั้นเป็นสิ่งสำคัญไม่เฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เท่านั้น เพราะภาษาอังกฤษ เป็นยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งผ่านมติ ครม.ว่าภาษาอังกฤษเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาประเทศ

ดังนั้น ในส่วนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 มีการพัฒนาครูที่สอนไม่ตรงวุฒิ ซึ่งครูที่สอนภาษาอังกฤษ บางคนไม่ได้จบเอกอังกฤษตรงตามสาขา ซึ่งได้มีร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ปัตตานี ได้จัดการพัฒนาครูทางด้านภาษาอังกฤษขึ้น ในช่วงปิดภาคเรียนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้ามาช่วยในการพัฒนาครูใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย

ในส่วนของเด็กก็มีการจัดเด็กเข้าค่ายภาษาอังกฤษที่ มอ.ปัตตานี โดยจัดทั้งกิจกรรมการสอนและกิจกรรมการเรียนการสอนโดยตรง ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาเด็กสำหรับการสื่อและการพัฒนาความรู้ในระดับสูงกันต่อไป ส่วนการส่งเด็กเข้าไปศึกษาในประเทศมาเลเซียนั้น กระทรวงศึกษาธิการได้มีการเซ็นเอ็นโอยูกับประเทศมาเลเซียแล้ว ซึ่งปีที่ผ่านมาได้เริ่มส่งเด็กเข้าไปเรียนจำนวนหนึ่งแล้ว นอกจากนี้ ทางมาเลเซียรับที่จะพัฒนาครูทางด้านไอทีให้ด้วย