กาฬสินธุ์ -ปศุสัตว์อำเภอฆ้องชัย ร่วมกับด่านกักกันสัตว์กาฬสินธุ์ ลุยจับเป็ดไล่ทุ่งที่ถูกนายทุนลักลอบนำเข้าไปเลี้ยงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว พร้อมกับเปิดข้อมูลการเคลื่อนย้ายเป็นเป็ดไล่ทุ่งจากจังหวัดสุพรรณบุรีที่ถูกปล่อยเลี้ยงกระจายไปทุกอำเภอ ที่อยู่ในพื้นที่เขตชลประทาน โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ยังได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วถึง 5 ราย
วันนี้ (28 พ.ค.) เวลา 11.30 น.นายสุปัญญา ไทยสนธิ ปศุสัตว์อำเภอฆ้องชัย นายสุจินตน์ พงษ์พึ่ง หน.ด่านกักกันสัตว์กาฬสินธุ์พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 10 นาย เข้าทำการตรวจยึดเป็ดไล่ทุ่งที่ถูกกลุ่มนายทุนจากจังหวัดสุพรรณบุรี นำไปปล่อยเลี้ยงไว้ในพื้นที่อำเภอฆ้องชัย ตรงบ้านโนนศิลาเลิง ตำบลโนนศิลาเลิง พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ควบคุมตัว นายนิ่ม หลักน้อย อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 66 หมู่ที่ 1 บ.หนองสาวโศก ต.กระจัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ในข้อหาเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต
เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ยังได้ช่วยกันต้อนเป็ดไล่ทุ่งที่ถูกปล่อยไว้ในพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง ขึ้นมาทำการกักกันเอาไว้ โดยเจ้าหน้าที่ยังได้สุ่มตรวจเป็ดไล่ทุ่งเพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ยังศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์จังหวัดขอนแก่น เพื่อสืบหาว่าเป็ดเป็นพาหนะนำโรคไข้หวัดนกหรือไม่
นายสุปัญญา ไทยสนธิ ปศุสัตว์อำเภอฆ้องชัย กล่าวว่า ปัญหาเป็ดไล่ทุ่งกำลังลุกลามในทุกพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะในเขตชลประทานที่มีการปลูกข้าวนาปรัง โดยนายทุนจาก จังหวัดสุพรรณบุรี จะเลือกเอาทำเลเลี้ยงเป็ดที่เพิ่งจะเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปรังใหม่ ที่จะนำไปปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็ดไล่ทุ่งจัดเป็นสัตว์ปีกที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก ซึ่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในหลายจังหวัดของภาคกลางไม่อนุญาตให้เลี้ยง จึงได้ทำการลักลอบนำเข้ามาเลี้ยง และภายหลังจากที่ชาวบ้านได้แจ้งข่าวเข้ามา จึงได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์กาฬสินธุ์ เข้าทำการจับกุม โดยจะส่งตัวเจ้าของเป็ดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีด้วย
ด้าน นายนิ่ม หลักน้อย เจ้าของเป็ดไล่ทุ่ง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เริ่มเข้ามานานเกือบจะ 2 สัปดาห์แล้ว เนื่องจากในพื้นที่ภาคกลางไม่อนุญาตให้เลี้ยง ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ก็ไม่อนุญาตแต่ผู้เลี้ยงต้องการที่จะเสี่ยงเข้ามาเลี้ยงเอง เพราะเป็ดไล่ทุ่งโตเร็วและสามารถจับขายได้ทันที ซึ่งก็พร้อมที่จะให้ดำเนินคดี อย่างไรก็ตามสำหรับเป็ดฝูงนี้ก็มีประมาณ 20,000 ตัว ส่วนที่เดินทางเข้ามาแล้ว ก็น่าจะมีจำนวนประมาณ 1 แสนตัว
ขณะที่ นายสุจินตน์ พงษ์พึ่ง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์กาฬสินธุ์ กล่าวว่า แนวทางการป้องกัน หลังจากที่ทำการกักกันไว้จำนวน 21 วัน หากพบว่ามีเชื้อโรคไข้หวัดนก เป็ดไล่ทุ่งที่ถูกกักเอาไว้ก็จะถูกทำลายทั้งหมดโดยไม่ได้รับเงินค่าชดเชย และจะต้องดำเนินคดีกับนายทุนที่เคลื่อนย้ายสัตว์ปีกโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงขอความร่วมมือประชาชนให้แจ้งเบาะแสการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีก
ในส่วนของนายทุนก็ควรที่จะยุติพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมกันป้องกันโรคไข้หวัดนก ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น ขณะนี้ในพื้นที่กาฬสินธุ์ ได้ดำเนินคดีกับ นายทุนที่ลักลอบนำสัตว์ปีกเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่แล้วจำนวน 5 ราย