กาฬสินธุ์- เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์กาฬสินธุ์ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดและอำเภอฆ้องชัย ออกลุยจับเป็ดไล่ทุ่งหลายหมื่นตัว ในพื้นที่อำเภอฆ้องชัย และอำเภอยางตลาด หลังจากนายทุนจากภาคกลางลักลอบนำเป็ดเข้ามาเลี้ยงในนาข้าวชาวบ้านจำนวนมาก
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 พ.ค.) นายฐานวัฒน์ ธนโชคชัยอนันต์ นายอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ นายคมคิด ชิณบุตร หัวหน้าด่านกักสัตว์กาฬสินธุ์ และมหาสารคาม นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจทั้งสัตวแพทย์ สารวัตรด่านกักกันสัตว์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ปราบปรามผู้ลักลอบนำเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาเลี้ยงโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่อำเภอฆ้องชัย และ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์
โดยเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด หลังจากได้รับรายงานว่า มีผู้ลักลอบเคลื่อนย้ายนำเป็ดไล่ทุ่งจากภาคกลางเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่ ทั้งนี้ผลการปราบปรามในพื้นที่อำเภอฆ้องชัยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ยึดเป็ดไล่ทุ่งได้ 10,500 ตัว และอำเภอยางตลาดอีก 2 ราย ยึดเป็ดไว้ 12,000 ตัว
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงสุ่มตรวจเป็ดและนำตัวอย่างส่งไปตรวจที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตว์แพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจหาโรคไข้หวัดนก และนำตัวผู้ต้องหาส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งสั่งกักกันเป็ดไล่ทุ่งทั้งหมดจนกว่าจะรู้ผลตรวจ
นายคมคิด ชิณบุตร หัวหน้าด่านกักสัตว์กาฬสินธุ์และมหาสารคาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีกลุ่มนายทุนจากจังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดพิจิตร และอีกหลายจังหวัดในภาคกลางได้ว่าจ้างชาวบ้านให้นำเป็ดไล่ทุ่งจำนวนมากเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีการปลูกข้าวนาปรังมากที่สุดในภาคอีสาน และขณะนี้ก็มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตเกือบหมดแล้ว
นายคมคิด กล่าวอีกว่า หลังได้รับรายงานจึงประสานไปยังสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์นายอำเภอต่างๆ ที่มีพื้นที่ในการเลี้ยงเป็ดสนธิกำลังร่วมกันออกป้องกันและปราบปรามผู้ลักลอบนำเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาเลี้ยงโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาที่ผ่านมาสามารถจับกุมเจ้าของเป็ดดำเนินคดีไปแล้ว 7 ราย พร้อมสั่งกักกันเป็ดไปกว่า 10,000 ตัว ส่วนในวันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องได้ 5 ราย
สั่งกักกันเป็ดไล่ทุ่งไปกว่า 13,000 ตัว
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีสารภาพว่าได้ถูกว่าจ้างจากนายทุนอยู่ที่ภาคกลางให้นำเป็นมาเลี้ยงเท่านั้น แต่ไม่ใช่เจ้าของเป็ด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งตำรวจในข้อหาเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งหมด และรวมแล้วสามรถจับผู้ต้องหาได้ 12 ราย สั่งกักกัดเป็ดไปแล้วกว่า 45,000 ตัว ส่วนผู้ที่ลักลอบที่เหลือจะมีการเร่งดำเนินการปราบปราม โดยขั้นต้นจะว่ากล่าวเตือนก่อน ซึ่งหากไม่เชื่อฟังก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ด้าน นายประหยัด เรเชียงแสน ปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์นั้นปลูกข้าวนาปรังมากที่สุดในภาคอีสานประกอบกับพื้นที่นาข้าวส่วนใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์จึงทำให้กลุ่มนายทุนมักจะฉวยโอกาสลักลอบนำเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาเลี้ยงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์จำนวนมากซึ่งปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจ เพื่อเฝ้าระวัง
กระทั่งทราบว่า มีการลักลอบนำเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาในพื้นที่ จึงได้สนธิกำลังร่วมกันทุกฝ่ายออกปราบปรามผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม การนำเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาเลี้ยงนั้นหากเป็ดไม่เชื้อโรค หรือโรคไข้หวัดนก ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและชาวนาได้ประโยชน์ เพราะเป็ดจะช่วยทำลายแมลงและหอยเชอร์รี่ที่กัดกินต้นข้าวของชาวนา ทั้งนี้ เบื้องต้นไม่พบว่ามีการระบาดของโรคไข้หวัดนกและโรคอื่นๆ แต่เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน และเพื่อความไม่ประมาทปศุสัตว์จังหวัดกาฬสินธุ์จึงได้สุ่มตรวจและนำตัวอย่างส่งตรวจศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตว์แพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น เพื่อตรวจหาโรคไข้หวัดนกและเชื้อโรคอื่นๆ
ขณะที่ นายฐานวัฒน์ ธนโชคชัยอนันต์ นายอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ผ่านมาได้กำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันดูแลสอดส่อง ผู้ที่ลักลอบนำเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาเลี้ยงโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีหากพบเห็น อย่างไรก็ตาม พื้นที่อำเภอฆ้องชัยมีการปลูกข้าวนาปรังกว่า 30,000 ไร่ ปัจจุบันมีการนำเป็นไล่ทุ่งเข้ามาเลี้ยงแต่ก็ถูกจับดำเนินคดีและสั่งกักกันไปจนหมดแล้ว