พะเยา – ผู้ว่าฯ พะเยารับปากเร่งเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ พร้อมเข้มงวดการลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ผลผลิตลิ้นจี่มั่นใจไร้ปัญหา
น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตด้านเกษตรกรรมของจังหวัดพะเยาว่า สำหรับผลผลิตลิ้นจี่ของพะเยาในปีนี้ โดยภาพรวมมั่นใจว่าราคาผลผลิตลิ้นจี่ปีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเนื่องจากปริมาณผลผลิตปีนี้ลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา จากข้อมูลที่มีอยู่ทราบว่ามีผลผลิตเหลือในมือของเกษตรกรขณะนี้ประมาณ 2,000 ตันเศษ ซึ่งตนมั่นใจว่าสามารถระบายผลผลิตออกได้
ในส่วนของผลผลิตกระเทียมนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ราคาของกระเทียม เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากเยาวชนผู้ปลูกกระเทียมในพื้นที่ ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ เรียกร้องให้แก้ไขราคาของกระเทียม โดยขอให้รัฐประกันราคากระเทียมในอัตรา กก.ละ 25 บาท รวมทั้งจัดตั้งสถานที่พร้อมให้องค์ความรู้แก่เกษตรกร ตลอดจนเสนอให้จังหวัดจัดหาปุ๋ยเคมีราคาถูกให้กับเกษตรกร
ข้อเสนอดังกล่าวตนได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการให้การช่วยเหลือแล้ว และตนได้นำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวของประชาชนให้ส่วนกลางพิจารณาแล้ว อยู่ในระหว่างการรอผลการพิจารณาจากส่วนกลางอีกครั้ง
“นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้มงวดในการนำเข้ากระเทียมมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเปิดโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับกระเทียมของไทย ส่วนเรื่องราคาข้าวนั้น ในปีนี้ราคาข้าวดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องระวังเรื่องความชื้นจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวข้าวนาปรัง หากมีความชื้นสูงอาจจะมีผลกระทบกับราคาได้ ดังนั้น เกษตรกรต้องพยายามลดความชื้นของข้าวก่อนจำหน่าย” น.ส.เรืองวรรณ กล่าว
น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตด้านเกษตรกรรมของจังหวัดพะเยาว่า สำหรับผลผลิตลิ้นจี่ของพะเยาในปีนี้ โดยภาพรวมมั่นใจว่าราคาผลผลิตลิ้นจี่ปีนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเนื่องจากปริมาณผลผลิตปีนี้ลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา จากข้อมูลที่มีอยู่ทราบว่ามีผลผลิตเหลือในมือของเกษตรกรขณะนี้ประมาณ 2,000 ตันเศษ ซึ่งตนมั่นใจว่าสามารถระบายผลผลิตออกได้
ในส่วนของผลผลิตกระเทียมนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ราคาของกระเทียม เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากเยาวชนผู้ปลูกกระเทียมในพื้นที่ ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ เรียกร้องให้แก้ไขราคาของกระเทียม โดยขอให้รัฐประกันราคากระเทียมในอัตรา กก.ละ 25 บาท รวมทั้งจัดตั้งสถานที่พร้อมให้องค์ความรู้แก่เกษตรกร ตลอดจนเสนอให้จังหวัดจัดหาปุ๋ยเคมีราคาถูกให้กับเกษตรกร
ข้อเสนอดังกล่าวตนได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการให้การช่วยเหลือแล้ว และตนได้นำเสนอข้อเรียกร้องดังกล่าวของประชาชนให้ส่วนกลางพิจารณาแล้ว อยู่ในระหว่างการรอผลการพิจารณาจากส่วนกลางอีกครั้ง
“นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้มงวดในการนำเข้ากระเทียมมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเปิดโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับกระเทียมของไทย ส่วนเรื่องราคาข้าวนั้น ในปีนี้ราคาข้าวดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องระวังเรื่องความชื้นจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวข้าวนาปรัง หากมีความชื้นสูงอาจจะมีผลกระทบกับราคาได้ ดังนั้น เกษตรกรต้องพยายามลดความชื้นของข้าวก่อนจำหน่าย” น.ส.เรืองวรรณ กล่าว