กระบี่ - ผู้ว่าฯกระบี่ หารือแก้ปัญหาปาล์มราคาตกต่ำ ออก 8 มาตรการช่วยเหลือทั้งโรงงาน ลานเท และเกษตรกรให้อยู่ได้ในภาวะที่ปาล์มราคาตกต่ำ
วันนี้ (7 พ.ค.) นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในการประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจ้งสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ณ ห้องประชุมปกาสัย อาคารหอวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยมีผู้เข้าร่วม กว่า 100 คน ากทุกภาคส่วนทั้งเจ้าของโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน ลานเทรับซื้อผลปาล์ม เกษตรกร ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เพื่อพูดคุยหาแนวทางแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมัน ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปกติจนล้นตลาด ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรมีราคาตกต่ำทันที จากที่มีการรับซื้ออยู่ที่ราคาประมาณ 5 บาทกว่า เหลือเพียง 3 บาทกว่า ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
ในการประชุมได้มีการหารือในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์รับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมัน ที่ทำให้ราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ อันเนื่องมาจากมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบในหลายด้าน เช่น ปริมาณผลผลิตที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน มีผลผลิตออกสู่ตลาด สูงถึง 280,000 ตัน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการเอาไว้ ส่งผลทำให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มไม่สามารถรองรับผลลิตที่เข้ามามาก บางโรงต้องหยุดการสกัดปาล์มน้ำมันชั่วคราว และประกอบกับอยู่ในช่วงที่โรงงาน ต่างปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปีด้วย
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการโรงงาน ลานเท เกษตรกร ได้ร่วมกันหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ทุกฝ่าย โรงงาน/ลานเท ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ หรือกินรวบ ในสถานการณ์ปาล์มล้นตลาด ซึ่งในภาวะสถานการณ์นี้จะอยู่ในช่วงสั้นๆ แต่จังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะต้องดำเนินการในเรื่องของการควบคุมดุแลปริมาณ และคุณภาพของผลผลิตให้มีความเหมาะสม เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้ราคามีการเปลี่ยนแปลง
ในที่ประชุมได้เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาในเบื้องต้น รวม 8 ข้อ คือ 1.ให้ผู้ประกอบการโรงงานได้พิจารณาซื้อผลผลิตของเกษตรกรจังหวัดกระบี่ เป็นอันดับแรก 2.สถานประกอบการ ให้ความสำคัญกับสมาชิก รายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง 3.การจัดแบ่งโซนการรับซื้อผลผลิตปาล์ม
4.โรงงานจะต้องสื่อสารกับลานเทให้ชัดเจน 5.ให้ผู้ประกอบการลานเทต้องสื่อสารกับเกษตรกรได้รับทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวเช่นกัน 6.เกษตรกรต้องชะลอการเก็บเกี่ยว และเน้นคุณภาพ ผลผลิต 7.โรงงานต้องให้ความสำคัญกับเกษตรกรรายย่อย เช่นเดียวกับเกษตรกรรายใหญ่ 8.ผู้ประกอบการโรงงาน จะต้องแจ้งแผนการผลิตซ่อมโรงงานประจำปีให้เจ้าของลานเท และเกษตรกรได้รับทราบ
นอกจากนี้ ได้ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนดูแลในเรื่องของการกำหนดราคาปุ๋ยและผลผลิตปาล์มในราคาที่เป็นธรรม และผลสรุปที่ได้ จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ พิจารณาเพื่อหาข้อยุติร่วมกันต่อไป
วันนี้ (7 พ.ค.) นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในการประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจ้งสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ณ ห้องประชุมปกาสัย อาคารหอวัฒนธรรม ศาลากลางจังหวัดกระบี่ โดยมีผู้เข้าร่วม กว่า 100 คน ากทุกภาคส่วนทั้งเจ้าของโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน ลานเทรับซื้อผลปาล์ม เกษตรกร ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เพื่อพูดคุยหาแนวทางแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมัน ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากกว่าปกติจนล้นตลาด ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรมีราคาตกต่ำทันที จากที่มีการรับซื้ออยู่ที่ราคาประมาณ 5 บาทกว่า เหลือเพียง 3 บาทกว่า ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน
ในการประชุมได้มีการหารือในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์รับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมัน ที่ทำให้ราคาตกต่ำอยู่ในขณะนี้ อันเนื่องมาจากมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบในหลายด้าน เช่น ปริมาณผลผลิตที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน มีผลผลิตออกสู่ตลาด สูงถึง 280,000 ตัน ซึ่งสูงกว่าที่คาดการเอาไว้ ส่งผลทำให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มไม่สามารถรองรับผลลิตที่เข้ามามาก บางโรงต้องหยุดการสกัดปาล์มน้ำมันชั่วคราว และประกอบกับอยู่ในช่วงที่โรงงาน ต่างปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปีด้วย
นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการโรงงาน ลานเท เกษตรกร ได้ร่วมกันหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ทุกฝ่าย โรงงาน/ลานเท ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบ หรือกินรวบ ในสถานการณ์ปาล์มล้นตลาด ซึ่งในภาวะสถานการณ์นี้จะอยู่ในช่วงสั้นๆ แต่จังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะต้องดำเนินการในเรื่องของการควบคุมดุแลปริมาณ และคุณภาพของผลผลิตให้มีความเหมาะสม เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้ราคามีการเปลี่ยนแปลง
ในที่ประชุมได้เสนอแนวทางในการแก้ปัญหาในเบื้องต้น รวม 8 ข้อ คือ 1.ให้ผู้ประกอบการโรงงานได้พิจารณาซื้อผลผลิตของเกษตรกรจังหวัดกระบี่ เป็นอันดับแรก 2.สถานประกอบการ ให้ความสำคัญกับสมาชิก รายงานความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง 3.การจัดแบ่งโซนการรับซื้อผลผลิตปาล์ม
4.โรงงานจะต้องสื่อสารกับลานเทให้ชัดเจน 5.ให้ผู้ประกอบการลานเทต้องสื่อสารกับเกษตรกรได้รับทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวเช่นกัน 6.เกษตรกรต้องชะลอการเก็บเกี่ยว และเน้นคุณภาพ ผลผลิต 7.โรงงานต้องให้ความสำคัญกับเกษตรกรรายย่อย เช่นเดียวกับเกษตรกรรายใหญ่ 8.ผู้ประกอบการโรงงาน จะต้องแจ้งแผนการผลิตซ่อมโรงงานประจำปีให้เจ้าของลานเท และเกษตรกรได้รับทราบ
นอกจากนี้ ได้ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนดูแลในเรื่องของการกำหนดราคาปุ๋ยและผลผลิตปาล์มในราคาที่เป็นธรรม และผลสรุปที่ได้ จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ พิจารณาเพื่อหาข้อยุติร่วมกันต่อไป
