ชุมพร - เกษตรกรสวนปาล์มจังหวัดชุมพรเดือดร้อนหนักหลังผลผลิตราคาตกต่ำและถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง รอคิวขายนานหลายวัน ขณะที่ผู้ว่าฯชุมพร ลงพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือแล้วใช้มาตรการแจกบัตรคิวให้เกษตรกรตัดขายตามลำดับ พร้อมให้โรงงานรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 4.20 บาท
วันนี้ (8 พ.ค.) นายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและตัวแทนโรงงานปาล์มน้ำมันได้เดินทางไปพบกับเกษตรกรชาวสวนปาล์มกว่า 100 คนที่มารวมตัวกัน ณ ศาลาประชาคม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำและถูกกดราคาเหลือกิโลกรัมละ 3 บาท
อีกทั้งพ่อค้าคนกลางที่เปิดลานปาล์มรับซื้อหลายแห่งในพื้นที่ จ.ชุมพร หยุดรับซื้อผลผลิตปาล์มจากเกษตรกร โดยอ้างว่าโรงงานไม่สามารถแปรรูปผลผลิตได้ทันส่งผลให้ผลปาล์มล้นโรงงาน จึงต้องหยุดการรับซื้อลง ส่งผลให้เกษตรกรรายย่อยได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วไม่สามารถจำหน่ายได้ ทำให้ผลผลิตเน่าเสีย ประกอบกับต้องนำเงินไปใช้จ่ายเป็นค่าเล่าเรียนของบุตรหลาน ในช่วงเปิดเทอมที่กำลังจะมาถึงนี้ต้องทำให้เดือดร้อนไปตามๆ กัน
โดยการปรึกษาหารือครั้งนี้เป็นไปอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 2 ชั่วโมงได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ให้โรงงานผลิตปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.ชุมพร ที่มีอยู่จำนวน 20 แห่ง เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 9 แห่ง โรงงานขนาดกลางและเล็กอีก 11 แห่ง กำหนดแจกบัตรคิวให้กับเกษตรกรเพื่อนำปาล์มไปขายให้กับโรงงาน เพื่อจะทำให้ทราบว่าในแต่ละวันจะมีเกษตรกรตัดปาล์มขายให้โรงงานมีจำนวนเท่าไร
ทั้งนี้ โรงงานจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 4.25 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไปก่อนในระยะนี้ เนื่องจากต้องแบกรับภาระเรื่องค่าใช้ค่ายให้แก่บุตรหลานช่วงเปิดภาคเรียน
นางจุฬาพร ผลสุขการ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ปัจจุบันโรงสกัดน้ำมันปาล์มพื้นที่จังหวัดชุมพรมีอยู่ 20 โรง เป็นโรงงานขนาดใหญ่ 9 โรง ที่เหลือเป็นโรงงานขนาดกลางและเล็ก ทั้ง 20 โรงสามารถ รองรับปาล์มดิบได้ 2.4 ล้านตัน แต่จะต้องเป็นไปในลักษณะกระจายและทยอยเข้าโรงงาน
สำหรับปัญหาผลผลิตปาล์มล้นโรงงานจนทำให้ราคาตกต่ำจากสถิติตัวเลขข้อมูลปี 2550 ในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม มีปาล์มดิบของ จ.ชุมพร ออกสู่ตลาดจำนวน 7-8 หมื่นตัน แต่ในปีนี้มีผลผลิตออกมามากถึง 1.3 แสนตัน จึงทำให้ช่วงนี้มีผลผลิตตกค้างในโรงงานรอการสกัดแปรรูปกว่า 1 แสนตัน