ชุมพร - ผู้ว่าฯชุมพรสั่งคณะกรรมการควบคุมการซื้อขายปาล์มน้ำมันระดับจังหวัด เร่งแก้ปัญหาปาล์มล้นตลาดภายหลังจากชาวสวนปาล์มเดือดร้อนหนัก ขณะที่การค้าภายในชุมพรแจง 2 สาเหตุทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มต้องจอดรถเข้าคิวรอขายผลผลิตนาน "โรงงานปิดยาวช่วงสงกรานต์-มีฝนตกชุกในช่วงที่ผ่านมาทำให้ปาล์มให้ผลผลิตมากกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้ ทำให้ปาล์มทะลักออกสู่ท้องตลาดพร้อมๆ กัน" พร้อมการันตีโรงงานไม่มีตุกติกแน่นอน
จากกรณีราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันมีราคาแพงเป็นประวัติการณ์จนทำให้เกษตรกรต้องจอดรถบรรทุกผลปาล์มเข้าคิวรอขายหน้าโรงงานยาวเหยียดเป็นเวลานาน 2–3 วัน โดยเจ้าของโรงงานอ้างว่ามีปริมาณมากเกินไปจนไม่สามารถทำการแปรรูปผลผลิตได้ทัน จนเกษตรกรต่างพากันวิตกเนื่องจากมีการรับซื้อกดราคาลงเรื่อยๆ จึงเรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องหามาตรการป้องกันเร่งด่วนนั้น
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค.) นางจุฬาพร ผลสุขการ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้สั่งการให้คณะกรรมการควบคุมการซื้อขายปาล์มน้ำมันระดับจังหวัด ซึ่งมีนายสมศักดิ์ ตะเภาน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเร่งหาทางแก้ปัญหาโดยด่วน ซึ่งคณะกรรมการที่ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คือ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัด เกษตรจังหวัด ป้องกันจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด และนายอำเภอทุกอำเภอที่มีพื้นที่ปลูกปาล์ม ได้เร่งหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ จ.ชุมพรเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทุกจังหวัดที่มีการปลูกปาล์มน้ำมัน
ส่วนกรณีที่เกษตรกรตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเทคนิคในการรับซื้อของโรงงานที่ไม่ต้องการรับซื้อปาล์มในขณะที่ยังมีราคาสูงนั้น คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบโรงงานรับซื้อปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ที่มีประมาณ 15 โรง ก็พบว่าทุกโรงงานมีการเดินเครื่องจักรในการแปรรูปกันตลอดทั้งวันโดยไม่มีวันหยุด ส่วนผู้รับซื้อรายย่อยที่มีอยู่ประมาณ 200 ราย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัดก็ยังคงรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรอยู่
นางจุฬาพร กล่าวต่อว่า ขณะนี้นายสมศักดิ์ ตะเภาน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ลงนามในประกาศขอให้เกษตรกรชะลอการตัดปาล์มที่ยังไม่สุกเอาไว้ก่อน แต่เกษตรกรรายใดที่จำเป็นต้องตัดปาล์มเพราะสุกแล้ว ก็ขอให้มีการประสานกับลานปาล์มและทางโรงงานรับซื้อให้ดี โดยต้องมีการนัดวันส่งมอบปาล์มกันให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกษตรกรต้องมาเข้าคิวรอขายเป็นเวลานานเหมือนที่ผ่านมา
“ปัญหาที่เกิดขึ้นคาดว่าคงมาจาก 2 สาเหตุใหญ่คือ 1.หลังเทศกาลสงกรานต์มีโรงงานหลายแห่งที่ยังหยุดยาวติดต่อกันอีกหลายวัน จึงทำให้เกษตรกรไม่สามารถนำปาล์มมาส่งให้โรงงานได้ตามปกติ แต่มื่อโรงงานเปิดได้นำผลผลิตมาขายพร้อมๆ กันทำให้โรงงานไม่สามารถรับซื้อได้ทัน และ 2.ปีนี้ฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ มีฝนตกชุกในช่วงที่ผ่านมา ปาล์มจึงให้ผลผลิตมากกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้ ทำให้ปาล์มทะลักออกสู่ท้องตลาดพร้อมๆ กัน แต่คิดว่าอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ปัญหาดังกล่าวคงคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ” นางจุฬาพร กล่าว
จากกรณีราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันมีราคาแพงเป็นประวัติการณ์จนทำให้เกษตรกรต้องจอดรถบรรทุกผลปาล์มเข้าคิวรอขายหน้าโรงงานยาวเหยียดเป็นเวลานาน 2–3 วัน โดยเจ้าของโรงงานอ้างว่ามีปริมาณมากเกินไปจนไม่สามารถทำการแปรรูปผลผลิตได้ทัน จนเกษตรกรต่างพากันวิตกเนื่องจากมีการรับซื้อกดราคาลงเรื่อยๆ จึงเรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องหามาตรการป้องกันเร่งด่วนนั้น
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค.) นางจุฬาพร ผลสุขการ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายมานิต วัฒนเสน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้สั่งการให้คณะกรรมการควบคุมการซื้อขายปาล์มน้ำมันระดับจังหวัด ซึ่งมีนายสมศักดิ์ ตะเภาน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เป็นประธานเร่งหาทางแก้ปัญหาโดยด่วน ซึ่งคณะกรรมการที่ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คือ หัวหน้าสำนักงานการค้าภายในจังหวัด เกษตรจังหวัด ป้องกันจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด และนายอำเภอทุกอำเภอที่มีพื้นที่ปลูกปาล์ม ได้เร่งหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว ซึ่งปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ จ.ชุมพรเท่านั้น แต่เกิดขึ้นทุกจังหวัดที่มีการปลูกปาล์มน้ำมัน
ส่วนกรณีที่เกษตรกรตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเทคนิคในการรับซื้อของโรงงานที่ไม่ต้องการรับซื้อปาล์มในขณะที่ยังมีราคาสูงนั้น คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะจากการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบโรงงานรับซื้อปาล์มน้ำมันขนาดใหญ่ที่มีประมาณ 15 โรง ก็พบว่าทุกโรงงานมีการเดินเครื่องจักรในการแปรรูปกันตลอดทั้งวันโดยไม่มีวันหยุด ส่วนผู้รับซื้อรายย่อยที่มีอยู่ประมาณ 200 ราย ซึ่งกระจายอยู่ทั่วทั้งจังหวัดก็ยังคงรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรอยู่
นางจุฬาพร กล่าวต่อว่า ขณะนี้นายสมศักดิ์ ตะเภาน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้ลงนามในประกาศขอให้เกษตรกรชะลอการตัดปาล์มที่ยังไม่สุกเอาไว้ก่อน แต่เกษตรกรรายใดที่จำเป็นต้องตัดปาล์มเพราะสุกแล้ว ก็ขอให้มีการประสานกับลานปาล์มและทางโรงงานรับซื้อให้ดี โดยต้องมีการนัดวันส่งมอบปาล์มกันให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกษตรกรต้องมาเข้าคิวรอขายเป็นเวลานานเหมือนที่ผ่านมา
“ปัญหาที่เกิดขึ้นคาดว่าคงมาจาก 2 สาเหตุใหญ่คือ 1.หลังเทศกาลสงกรานต์มีโรงงานหลายแห่งที่ยังหยุดยาวติดต่อกันอีกหลายวัน จึงทำให้เกษตรกรไม่สามารถนำปาล์มมาส่งให้โรงงานได้ตามปกติ แต่มื่อโรงงานเปิดได้นำผลผลิตมาขายพร้อมๆ กันทำให้โรงงานไม่สามารถรับซื้อได้ทัน และ 2.ปีนี้ฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ มีฝนตกชุกในช่วงที่ผ่านมา ปาล์มจึงให้ผลผลิตมากกว่าที่มีการคาดการณ์เอาไว้ ทำให้ปาล์มทะลักออกสู่ท้องตลาดพร้อมๆ กัน แต่คิดว่าอีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ปัญหาดังกล่าวคงคลี่คลายและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ” นางจุฬาพร กล่าว
