กาฬสินธุ์ - อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ติวเข้มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ชาวบ้านกี่ยวกับโรคประจำถิ่นในช่วงฤดูฝน และเฝ้าระวังการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกในพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก
ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุรเจตน์ ผดุงวิทย์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมประจำเดือน โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมประชุมจำนวน 500 คน
นายสุรเจตน์ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ที่มักจะเกิดโรคประจำถิ่นมากกว่าฤดูอื่นๆ อาทิ โรคไข้เลือดออก โรคปอดบวม ไข้หวัดใหญ่ โรคฉี่หนู โดยเฉพาะโรคไข้หวัดนก จึงได้กำชับผู้เข้าประชุมที่เป็นผู้นำชุมชนในการเฝ้าระวัง ตลอดทั้งต้องแจ้งข่าวสารทั้งการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกหรือการเกิดโรคประจำถิ่น ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบในทันที เพื่อที่จะเป็นการช่วยกันควบคุมและป้องกันการเกิดโรคประจำถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากรายงานยังพบว่าขณะนี้ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์
โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จะมีผู้ป่วยจำนวนมากโดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกและโรคไข้ฉี่หนู ที่ขณะนี้เฉพาะในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์มีผู้ป่วยจากโรคระบาด
หน้าฝนเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกมีผู้ป่วยแล้ว 75 รายส่วนโรคไข้ฉี่หนูมีผู้ป่วยแล้วกว่า 14 ราย
นายสุรเจตน์ กล่าวอีกว่า ในกรณีของเป็ดไล่ทุ่งที่นายทุนจากจังหวัดสุพรรณบุรี ลักลอบขนย้ายมาเลี้ยงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.ยางตลาด อ.เมือง อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นจำนวนกว่า 100,000 ตัวนั้น ขณะนี้แม้ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มนายทุน มีการนำตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ และกักบริเวณเป็ดไล่ทุ่ง เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อของไข้หวัดนกแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ
หากเป็ดไล่ทุ่งฝูงดังกล่าวมีเชื้อไข้หวัดนก จึงควรที่ผู้นำชุมชนทุกคนจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากพบเห็นการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกหรือเห็นฝูงเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาในพื้นที่ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่รับทราบทันที เพื่อดำเนินการขั้นเด็ดขาด ก่อนที่จะเกิดการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกในฤดูฝนนี้
ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุรเจตน์ ผดุงวิทย์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมประจำเดือน โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ร่วมประชุมจำนวน 500 คน
นายสุรเจตน์ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน ที่มักจะเกิดโรคประจำถิ่นมากกว่าฤดูอื่นๆ อาทิ โรคไข้เลือดออก โรคปอดบวม ไข้หวัดใหญ่ โรคฉี่หนู โดยเฉพาะโรคไข้หวัดนก จึงได้กำชับผู้เข้าประชุมที่เป็นผู้นำชุมชนในการเฝ้าระวัง ตลอดทั้งต้องแจ้งข่าวสารทั้งการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกหรือการเกิดโรคประจำถิ่น ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบในทันที เพื่อที่จะเป็นการช่วยกันควบคุมและป้องกันการเกิดโรคประจำถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากรายงานยังพบว่าขณะนี้ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์
โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จะมีผู้ป่วยจำนวนมากโดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกและโรคไข้ฉี่หนู ที่ขณะนี้เฉพาะในเขตอำเภอเมืองกาฬสินธุ์มีผู้ป่วยจากโรคระบาด
หน้าฝนเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออกมีผู้ป่วยแล้ว 75 รายส่วนโรคไข้ฉี่หนูมีผู้ป่วยแล้วกว่า 14 ราย
นายสุรเจตน์ กล่าวอีกว่า ในกรณีของเป็ดไล่ทุ่งที่นายทุนจากจังหวัดสุพรรณบุรี ลักลอบขนย้ายมาเลี้ยงในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.ยางตลาด อ.เมือง อ.ฆ้องชัย และ อ.กมลาไสย ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นจำนวนกว่า 100,000 ตัวนั้น ขณะนี้แม้ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มนายทุน มีการนำตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ และกักบริเวณเป็ดไล่ทุ่ง เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อของไข้หวัดนกแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ ซึ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ
หากเป็ดไล่ทุ่งฝูงดังกล่าวมีเชื้อไข้หวัดนก จึงควรที่ผู้นำชุมชนทุกคนจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากพบเห็นการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกหรือเห็นฝูงเป็ดไล่ทุ่งเข้ามาในพื้นที่ ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่รับทราบทันที เพื่อดำเนินการขั้นเด็ดขาด ก่อนที่จะเกิดการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกในฤดูฝนนี้
