ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เผยกลุ่มคนใจบาปบุกปราสาทหิน “พนมรุ้ง” บุรีรัมย์ กลางดึกประกอบพิธีกรรม ก่อนใช้ของแข็งทุบข้อมือทวารบาล ทั้ง 2 ข้าง แล้วนำไปทุบทำลายหน้าสิงห์ 2 ตัว - เศียรพญานาค 11 เศียร และทำลายปากโคนนทิ ล้วนเป็นเทพบริวารปกปักรักษาปราสาท พร้อมย้ายศิวลึงค์ไปทิ้งบริเวณรางสรงบ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ หัวหน้าอุทยานรุดแจ้งความ ชี้ คนร้ายเจตนาทำลายมรดกแผ่นดินอายุนับพันปี ด้านตำรวจตั้ง 3 ปมเหตุเร่งติดคนร้าย ส่วนผู้ว่าฯ มุ่งฝีมือกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ถูกห้ามปลุกเสกจตุคามฯ บนปราสาทพนมรุ้ง
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อม พล.ต.เอกศักดิ์ ไสยสุข ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์, พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์, นายดุสิต ทุมมากรณ์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบร่องรอยความเสียหาย หลังมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกขึ้นไปทุบทำลายเศียรพญานาคบริเวณสะพานนาคราช ทางขึ้นบันไดปราสาทพนมรุ้ง จำนวน 11 เศียร
รวมทั้งยังทุบทำลายปากโคนนทิ ในมณฑปของปราสาทประธาน แขนทวารบาลเฝ้าประตูด้านทิศใต้ปราสาทหัก 2 ข้าง และทุบทำลายปากสิงห์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังปราสาทอีก 2 ตัวได้รับความเสียหาย
นอกจากนั้น กลุ่มคนร้ายยังได้เคลื่อนย้ายศิวลึงค์จากแท่นฐาน ไปวางไว้บริเวณรางสรงประสูต (บ่อน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์) ในห้องกลางปราสาทประธาน จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริเวณลานดอกบัว 8 กลีบ ของสะพานนาคราชชั้นที่ 1 มีแก้วน้ำ และบุหรี่คล้ายเครื่องเซ่นไหว้วางอยู่ ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะทำพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนลงมือทุบทำลาย ทั้งนี้ ส่วนมากที่ถูกทุบทำลายจะเป็นเทพบริวารที่ปกปักรักษาปราสาท
โดยพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้าย ก่อนลงมือได้มีการทำพิธีกรรมคล้ายขอขมา โดยมีแก้วน้ำ 1 ใบ และบุหรี่ที่จุดแล้ว 3 มวน วางอยู่บริเวณดอกบัว 8 กลีบ สะพานนาคชั้น 1 ทางขึ้นปราสาท และที่บริเวณดอกบัว 8 กลับ ตรงหน้าปราสาทด้านทิศตะวันออก
จากนั้นคนร้ายก็ได้ใช้ของแข็งทุบข้อมือทวารบาล ซึ่งเป็นเป็นเทพบริวารที่ยืนอยู่หน้าประตูปราสาททางทิศใต้ แล้วนำเอามือทั้งสองข้างของทวารบาล ไปทุบทำลายใบหน้าสิงห์ ที่อยู่บันไดทางขึ้นด้านทิศตะวันตกของปราสาท 2 ตัว และเศียรนาคบนปราสาท จากนั้นได้ทุบ ปาก หู เขาโคนนทิ ที่อยู่ในปรางค์ปราสาทแตกกระจุยกระจาย โดยเป็นการทุบทำลายจากด้านบนลงมาด้านล่าง
จากการสังเกตร่องรอยวิธีการทุบจะเป็นการทุบจากด้านซ้ายตามเข็มนาฬิกาแทบทุกตัว โดยกรของทวารบาล พบตกอยู่บริเวณเศียรนาคหน้าปราสาท 1 ข้าง และอยู่บันไดหน้าปราสาทด้านทิศตะวันออกชั้นแรกอีก 1 ข้าง
โดยผู้กระทำน่าจะมีความเชี่ยวชาญทางด้านไสยศาสตร์เป็นอย่างดี คล้ายกับทำเป็นการแก้เคล็ด แต่ไม่สามารถที่จะบ่งบอกถึงจุดประสงค์ได้ชัดเจน
นายดุสิต ทุมมากรณ์ หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การกระทำของคนร้ายดังกล่าวมีเจตนาทำลายมรดกของแผ่นดิน ซึ่งความเสียหายประเมินค่าไม่ได้ เพราะเป็นโบราณสถานที่มีอายุนับพันปี แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของชาวบุรีรัมย์ และชาวบ้านที่อยู่รอบปราสาทที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งความที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ให้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว
ทั้งนี้ ทางอุทยานยังจะได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ คอยรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณปราสาทพนมรุ้ง และแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานที่อยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวซ้ำอีก
ด้าน นายสันทัด จัตุชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ คาดว่า คนร้ายน่าจะก่อเหตุช่วงกลางคืนประมาณ 04.00 น.ของเช้าตรู่วันนี้ เพราะช่วงเวลา 22.00 น.เจ้าหน้าที่ยามรักษาความปลอดภัย ที่ขึ้นมาตรวจยังเห็นองค์เทพต่างๆ ยังอยู่ในสภาพปกติ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ท้องที่รับผิดชอบได้เร่งหาหลักฐานติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว
เนื่องจากถือว่ากลุ่มคนร้ายได้ทำลายโบราณสถานสำคัญ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของชาวบุรีรัมย์ และของประเทศไทย รวมทั้งให้มีการตรวจสอบกลุ่มที่เคยมาขออนุญาตขึ้นมาทำพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพ แต่ทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีการสั่งห้าม เนื่องจากเกรงว่าโบราณสถานจะได้รับผลกระทบชำรุดเสียหายด้วย เพราะเคยได้รับร้องเรียนจากประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวว่าไม่ได้รับความสะดวกในการเที่ยวชมความมหัศจรรย์ และความงามของปราสาท
“ดูจากพฤติกรรมคนร้ายจะนำเอาข้อมือทวารบาลไปทุบบริเวณปาก ใบหน้า ของบริวารเทพต่างๆ ภายในและนอกปราสาทจนได้รับความเสียหาย” นายสันทัด กล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ เรื่องความขัดแย้งภายในองค์กร, คนสติไม่สมประกอบ และผู้ที่เสียผลประโยชน์ ที่ถูกห้ามไม่ให้ขึ้นไปทำพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพบนปราสาทพนมรุ้ง
“ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ของตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับ สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามคนร้ายได้ในไม่ช้านี้” พ.ต.อ.วิชัย กล่าว
อนึ่ง ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย มีการบูรณะก่อสร้างต่อเนื่องกันมาหลายสมัย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 15 ถึงพุทธศตวรรษที่ 17 และ ในพุทธศตวรรษที่ 18 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอมได้หันมานับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา
ในช่วงแรกปราสาทหินพนมรุ้ง สร้างขึ้นจากหินทรายสีชมพู ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง สูง 1,320 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ชื่อพนมรุ้งแปลว่าภูเขาใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15-18 ทางขึ้นสู่ปราสาทปูหินทรายมีเสานางเรียงประดับสองข้างทางราวบันได เป็นหินทรายมีพญานาค 5 เศียรฃ
บริเวณปราสาทล้อมด้วยระเบียงคตและซุ้มประตู 4 ทิศ ปรางค์ประธานหินทรายสลักลวดลายวิจิตรงดงาม ตั้งตระหง่านอยู่ภายในเคียงข้างด้วยบรรณาลัยศิลาแลงซ้ายขวาและปรางค์น้อยตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะเจาะสง่าสวยงาม