ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “กล้านรงค์” เรียกร้องผู้บริหารสถานศึกษาต้องตื่นตัวร่วมสร้างค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริตในกลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา สอดแทรกคุณธรรม ความซื่อสัตย์ในกระบวนการเรียนการสอนเพื่อสร้างทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีประสิทธิภาพ วิตกทัศนคติเยาวชนไทยเห็นเรื่องการทุจริตเป็นเรื่องธรรมดา
วันนี้ (30 เม.ย.) ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส จ.ขอนแก่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้จัดสัมมนาติดตามผลการดำเนินการเสริมสร้างทัศนคติค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริตในสถานศึกษา โดยมีบุคลากรในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ภาคอีสานราว 100 คนเข้าร่วมสัมมนา
นายกล้าณรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ให้ความสำคัญต่อภารกิจด้านการป้องกันการทุจริตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่างานด้านปราบปรามหรือตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะเห็นว่าหากสังคมเรามีมาตรการที่เข้มแข็ง มีการป้องกันทุจริตอย่างจริงจัง ทุกคนเคารพต่อกฎ กติกา ระเบียบแบบแผนของสังคมบนพื้นฐานของการมีคุณธรรม จริยธรรม สร้างเสริมทัศนคติค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริตให้ฝังลึกในจิตสำนึกของทุกคนในสังคมแล้ว เชื่อว่าปัญหาการทุจริตคงเกิดขึ้นได้ยาก
กลุ่มคนที่เป็นครู อาจารย์ และผู้บริหารสถานศึกษาต้องตื่นตัว หันมาสนใจ ใส่ใจและตั้งใจในการที่จะป้องกันการทุจริตด้วยการสร้างค่านิยมที่ถูกต้อง โดยเฉพาะความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นกับเยาวชนและประชาชนทั่วไป ถ้าหากสถานศึกษาต่างๆ ได้กำหนดเป็นนโยบายที่จะส่งเสริมคุณธรรมคู่กับความรู้
โดยหาวิธีการที่จะพัฒนาแนวคิดเพื่อเป็นแนวทางในการนำคุณธรรมด้านความซื่อสัตย์สุจริตเสริมในกระบวนการเรียนการสอนให้มากยิ่งขึ้น จะส่งผลให้นักเรียน นักศึกษามีจิตสำนึกและปฏิบัติตนให้อยู่ในความซื่อสัตย์สุจริตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้า
“ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นคุณธรรมที่ทุกคนต้องยึดถือเป็นหลักในการทำงานและการดำรงตนเพื่อสร้างสรรสังคมให้มีวัฒนธรรมที่ดีงามและการที่จะให้นักศึกษานักเรียนมีคุณธรรมอย่างที่พึงประสงค์ ก็จำเป็นต้องอาศัยวิธีการหรือกลยุทธ์ที่ละเอียดอ่อนในการสอดแทรกและปลูกฝังแนวคิด ซึ่งผู้รับผิดชอบในสถานศึกษาจะต้องเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดขั้นตอนและวิธีการต่างๆในการปลูกฝังทัศนคติให้กับเยาวชน” นายกล้านรงค์ กล่าว และว่า
การปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริตในกลุ่มเยาวชน นักศึกษา นักเรียนเป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องเร่งด้วยการรณรงค์ เพราะในสภาพสังคมปัจจุบันทัศนคติต่อความซื่อสัตย์ในกลุ่มเยาวชนน่าเป็นห่วงมาก จากงานวิจัยของหน่ายงานหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ได้พบคำตอบที่น่าวิตก โดยร้อยละ 84 ของกลุ่มตัวอย่างระบุว่าคนที่ซื่อสัตย์สุจริตมักถูกสังคมเอาเปรียบ อีกทั้งยังเห็นด้วยกับกรณีที่คนทุจริตไม่ต้องถูกลงโทษ ซึ่งทัศนคติที่ผิดๆ เหล่านี้ต้องได้รับการแก้ไข หากไม่เช่นนั้นในอนาคตสังคมไทยจะมีแต่ปัญหา