หนองคาย - “กล้านรงค์” ติดตามการแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินของ ส.ส., ส.ว.หนองคาย ขอภาคประชาชนร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงทรัพย์สินหนี้สินของ ส.ส., ส.ว.ที่แจ้ง หากพบไม่ตรงตามข้อเท็จจริงรายงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบ ถ้าผิดจริงถือว่าจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินมีโทษทางอาญา พร้อมผิดตามศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เผยอนุกรรมการ ป.ป.ช.นำร่อง 8 จังหวัดอยู่ระหว่างประเมินผลการปฎิบัติงานก่อนยกระดับเป็นกรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัด
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (20 มี.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดหนองคาย ศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.ได้เดินทางมาตรวจติดตามการแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของจังหวัดหนองคาย โดยสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดหนองคายได้ติดประกาศแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส.หนองคายทั้ง 6 คนไว้ที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย และหน้าสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดหนองคาย ซึ่งติดไว้วันนี้เป็นวันแรกพร้อมกันทั่วประเทศ
นายกล้านรงค์ กล่าวว่า เดิมทีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อสาธารณะโดยรัฐธรรมนูญปี 2540 ระบุไว้เฉพาะนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น และเปิดเผยเฉพาะที่กรุงเทพฯ พอถึงรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ระบุให้ ส.ส.และส.ว.ต้องเปิดเผยด้วย ป.ป.ช.จึงคิดว่าแทนที่จะเปิดเผยเฉพาะที่กรุงเทพฯเพียงแห่งเดียวก็ให้เปิดเผยที่จังหวัดต่างๆ ด้วย เพื่อต้องการให้ประชาชนและสื่อมวลชนตรวจสอบว่า ส.ส., ส.ว.ของจังหวัดนั้นๆ มีทรัพย์สินอะไรบ้าง
พร้อมตรวจสอบว่าตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ เนื่องจากคนในพื้นที่จะทราบว่าทรัพย์สินทั้งหลายที่ ส.ส., ส.ว.ยื่นมานั้นตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ เป็นการตรวจสอบโดยภาคประชาชนตามที่รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งหากมีการตรวจสอบแล้วปรากฏว่ารายการทรัพย์สินหนี้สินที่ ส.ส., ส.ว.แจ้งต่อ ป.ป.ช.ไม่ตรงกับที่มีอยู่จริง เช่น หาก ส.ส.คนหนึ่งบอกว่ามีที่ดิน 3 แปลง
แต่ประชาชนในพื้นที่ทราบว่า ส.ส.คนนั้นมีที่ดินอยู่ 100 แปลง ก็สามารถแจ้งข้อมูลไปยัง ป.ป.ช. แล้ว ป.ป.ช.จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ตามหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่ต้องตรวจสอบความถูกต้องและมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สิน หากตรวจสอบได้ว่า ส.ส., ส.ว.นั้นมีทรัพย์สินเกินกว่าหรือน้อยกว่าที่แจ้งต่อ ป.ป.ช. หากพบว่า ส.ส., ส.ว.นั้นจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินเพื่อปกปิดข้อเท็จจริง กระบวนการจะนำส่งสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้พ้นจากตำแหน่งและห้ามดำรงตำแหน่ง 5 ปี
รวมถึงมีโทษทางอาญาด้วย ดังนั้น การแจ้งบัญชีทรัพย์สินของ ส.ส., ส.ว.หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นก็ตามแต่ ต้องแจ้งตรงตามความเป็นจริง รวมถึงทรัพย์สินหนี้สินของภรรยาคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วย ซึ่งนับว่ากระบวนการเปิดเผยรายการทรัพย์สินและหนี้สินในครั้งนี้เป็นมิติใหม่ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 และมิติใหม่ของ ป.ป.ช.ที่มาเปิดเผยที่จังหวัด
ส่วนการโอกาสที่จะขยายการแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สินไปถึงนักการเมืองท้องถิ่นต่างๆ นั้น นายกล้านรงค์ กล่าวว่า กำลังคิดอยู่ว่าจะดำเนินการหรือไม่ เนื่องจากการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินอยู่ที่รัฐธรรมนูญบังคับให้เปิดเผย ซึ่งขณะนี้รัฐธรรมนูญบังคับมาถึงแค่ ส.ส., ส.ว. แต่การจะเปิดเผยแค่ไหนเพียงไรนั้น ป.ป.ช.จะมีการพิจารณาอีกครั้ง
ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินผลการปฏิบัติงานของอนุกรรมการ ป.ป.ช.ระดับจังหวัด โดยอนุกรรมการในแต่ละภาคจะเป็นจังหวัดคู่ขนาน ภาคอีสานมี จ.หนองคายกับ จ.สุรินทร์ ภาคเหนือ มี จ.ลำพูน กับ จ.สุโขทัย ภาคกลาง มี จ.เพชรบุรี กับ จ.จันทบุรี ภาคใต้มี จ.สุราษฎร์ธานี กับ จ.สงขลา ในจังหวัดคู่ขนานนั้นจะเห็นได้ว่า โครงการสร้างไม่เหมือนกัน จังหวัดหนองคายมีอนุกรรมการ ป.ป.ช.เป็นข้าราชการครึ่งหนึ่งและภาคประชาชนครึ่งหนึ่ง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
ส่วน จ.สุรินทร์ มีภาคประชาชนทั้งหมดเป็นอนุกรรมการ และจะเหมือนกันทุกภาค ซึ่ง ป.ป.ช.กำลังให้อาจารย์จากมหาวิทยาลัยทำการประเมินผลว่าภายใน 1 ปี การดำเนินงานรูปไหนจะมีประสิทธิภาพกว่ากัน ขณะนี้ผ่านมาประมาณ 5-6 เดือน จะเห็นได้ว่าการทำงานของอนุกรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัด ได้สร้างความสัมพันธ์ ค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริต มีผลงานทุกจังหวัด และในแต่ละจังหวัดได้มอบหมายให้กรรมการ ป.ป.ช.ลงไปกำกับดูแล และยังมีรองเลขาธิการ ป.ป.ช.กำกับอีกคนละ 2 จังหวัด
รวมทั้งมีข้าราชการระดับ 9 มาดูแลในแต่ละจังหวัด ซึ่งลักษณะการดำเนินการเช่นนี้ ป.ป.ช.คิดริเริ่มและดำเนินการก่อนที่รัฐธรรมนูญ ปี 2550 กำหนดให้ทำ ต่อไปจะมีการปรับจากอนุกรรมการประสานงาน เป็นกรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัด ซึ่งคุณสมบัติ การสรรหา อำนาจหน้าที่ อยู่ที่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่อยู่ระหว่างการร่างและศึกษาอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้
