“รมว.พลังงาน” ย้ำพลิกวิกฤตน้ำมันเป็นโอกาส-เร่งผุดแผนแม่บทพลังงานทดแทนแห่งชาติ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “มาดามติ้ง” รมว.พลังงาน พบผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิงภาคอีสานที่เมืองย่าโม ร่วมกำหนดทิศทางพลังงานในอนาคต และรับมือวิกฤติน้ำมันแพง ย้ำพลิกวิกฤติเป็นโอกาสเดินเครื่องนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนเต็มสูบ เผยเร่งผุดแผนแม่บทพลังงานทดแทนแห่งชาติฉบับแรกให้สำเร็จ เพื่อกำหนดทิศทางพลังงานทดแทนของไทยระยะ 15 ปี ในทุกด้านรวมถึงพลังงานนิวเคลียร์

วันนี้ (25 เม.ย.) ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดการสัมมนา ผู้ประกอบการน้ำมันเชื้อเพลิง ประจำปี 2551 เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ บรรยายพิเศษเรื่อง “ทิศทางธุรกิจพลังงานในอนาคต” โดยมีผู้ประกอบการด้านน้ำมันเชื้อเพลิงในพื้นที่ ภาคอีสานเข้าร่วมงานกว่า 250 คน

ทั้งนี้เพื่อ เป็นการเตรียมตัวให้ผู้ประกอบการ สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำมันในตลาดโลก ที่มีความผันผวนด้านราคาสูงได้ ผู้ประกอบการจะได้รับทราบเกี่ยวกับทิศทาง นโยบายของกระทรวงพลังงานและรับทราบข้อกฎหมายที่มีการปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจพลังงานในอนาคต

พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันไทยต้องนำเข้าน้ำมันมากถึง 2 ใน 3 ของปริมาณที่ใช้ภายในประเทศทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ากว่า 7 แสนล้านบาท/ปี ทำให้เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ทะยานพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเราต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ในการผลักดันส่งเสริมพลังงานทดแทนให้ประสบผลสำเร็จให้ได้เพราะในความเป็นจริงไทยเราได้เริ่มต้นไปก่อนประเทศอื่น ๆ มากว่า 30 ปี แล้ว ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งประเทศไทยมีทรัพยากรเต็มเมืองไปหมด ไม่ว่าจะเป็น พืชผลทางด้านเกษตรกรรม และทรัพย์ในดิน โดยเฉพาะมันสำปะหลัง และอ้อย

โดยข้อดีของพลังงานทดแทนนั้น จะเป็นการช่วยลดการสูญเสียเงินตราออกนอกประเทศจากการนำเข้าน้ำมัน และทำให้เราไท พึ่งพา ยืนอยู่บนขาของตัวเองได้อย่างยั่งยืน รวมถึงทำให้เกษตรกรร่ำรวย มีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากทำให้เศรษฐีกลุ่มโอเปกร่ำรวยมามากแล้ว

พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ กล่าวอีกว่า กระทรวงพลังงานได้พยายามผลักดันการแก้ปัญหาเรื่องพลังงานในทุกด้านอย่างเต็มที่ ทั้งในการออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระประชาชน ผู้ประกอบการ ในภาคการขนส่ง และอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งการผลักดันนโยบายเพื่อรองรับในระยะยาว ซึ่งล่าสุดทางกระทรวงได้ตั้งคณะกรรมการพลังงานพืชชีวภาพ โดยมีตนในฐาน รมว.พลังงานเป็นประธาน รองประธานประกอบด้วย รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อประสานการทำงานร่วมกัน ทั้งแนวทางการปฏิบัติและนโยบายระดับชาติ

ล่าสุดที่กระทรวงพลังงานจะพยายามผลักดันเกิดขึ้นให้ได้คือ การจัดทำแผนแม่บทพลังงานทดแทนแห่งชาติ ระยะเวลา 15 ปี ซึ่งถือเป็นแผนแม่บทพลังงานทดแทนแผนแรกของประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อกำหนดทิศทางการส่งเสริมพัฒนาพลังงานทดแทนในด้านต่างๆ ทั้ง เอทานอล,ไบโอดีเซล, ก๊าซชีวภาพ รวมถึง การพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ในอนาคต

สำหรับก๊าซ LPG ซึ่งถือเป็นพลังงานที่มีผลกระทบต่อประชาชนในระดับครัวเรือนเป็นจำนวนมากนั้น จนถึงขณะนี้ขอย้ำว่ารัฐบาลจะยังคงตรึงราคาขาย LPG ไปจนถึงปลายเดือน ก.ค. ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้เพื่อวางแนวทางและมาตรการกำหนดราคาขาย LPG อย่างเป็นธรรมและชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งอาจจะมีการกำหนดราคา LPG เป็น 2 ระดับราคา คือ กำหนดราคาที่ยุติธรรมสำหรับใช้ในครัวเรือน และราคาสำหรับภาคการขนส่ง เพื่อให้เกิดการใช้ก๊าซ LPG อย่างเหมาะสมคุ้มค่า ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้การส่งเสริมใช้ก๊าซ NGV ในภาคการขนส่งจะมีความพร้อมรองรับอย่างเต็มที่ ทั้งสถานีบริการที่เพียงพอตามเส้นทางต่างๆ และผลการดำเนินการส่งเสริมให้เงินกู้ในการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ในรถบรรทุกสินค้า

“ส่วนจัดตั้งปั๊ม NGV เป้าหมายปี 2551 จะขยายให้ได้จำนวน 320 ปั๊ม,ปี 2553 จะขยายให้ได้ 420 ปั๊ม และจะขยายให้ได้ 725 ปั๊มครอบคลุมทั่วประเทศในปี 2555” พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ กล่าวในที่สุด