xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวหอมมะลิพุ่งต่อเนื่องจ่อตันละ 2.2 หมื่น - ชาวนาทุ่งกุลาแห่ซื้อเมล็ดพันธุ์เกลี้ยงสต็อก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ราคาข้าวพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เกษตรกรบุรีรัมย์แห่ซื้อพันธุ์หอมมะลิจากชุมนุมสหกรณ์การเกษตรบุรีรัมย์ จนเกลี้ยงสต็อกไม่พอต่อความต้องการ
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โรงสีแย่งซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิฉุดราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจ่อตันละ 22,000 บาท เผยชาวนาทุ่งกุลาร้องไห้แหล่งผลิตข้าวหอมฯโลกเตรียมเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกรับโอกาสทองแห่ซื้อเมล็ดพันธุ์จนเกลี้ยงสต็อก ชุมนุมสหกรณ์บุรีรัมย์ประชุมบอร์ดรับมือปัญหาพันธุ์ข้าวขาดแคลนเตรียมเจรจาขอซื้อจากสหกรณ์อุบล-ร้อยเอ็ด มาสำรอง ด้านศูนย์ฯสุรินทร์ระบุพันธุ์ข้าวหอมฯในสต็อกไม่พอต่อความต้องการ ต้องขายให้เกษตรกรอย่างจำกัด พร้อมเร่งเครื่องผลิตเต็มสูบตลอดวันเพื่อสนองชาวนา 4 จังหวัดอีสานใต้

วันนี้ (23 เม.ย.) นายอนันต์ วงศ์อมรมิตร ประธานชนมรมโรงสีข้าวจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ล่าสุดขณะนี้โรงสีข้าวกว่า 40 โรง ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ต่างขึ้นป้ายราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิที่หน้าโรงสีสูงถึง กิโลกรัมละ 20 บาท หรือ ตันละ 20,000 บาทแล้ว เพราะผู้ประกอบการโรงสีต่างมีการแข่งขันรับซื้อกันสูง เพื่อจูงใจให้เกษตรกรที่ยังพอมีข้าวเหลืออยู่ในยุ้งฉางนำข้าวเปลือกหอมมะลิออกมาขาย

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ข้าวเปลือกหอมมะลิแทบไม่มีเหลืออยู่มือเกษตรกรแล้วเพราะได้พากันจำหน่ายไปหมดก่อนหน้านี้ ส่วนที่ยังพอมีเหลือบ้างก็จะอยู่ในมือของพ่อค้าผู้รับซื้อข้าวเปลือกรายย่อยที่รับซื้อไว้ตามหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งพ่อค้าราย่อยเหล่านี้ได้ตระเวนซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิจากเกษตรกรในหมู่บ้านที่พอมีข้าวเหลืออยู่บ้างในราคากิโลกรัมละ 21 บาท

ดังนั้น คาดว่าในปลายเดือน เม.ย.นี้ ราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ของโรงสีต่างๆ ใน จ.สุรินทร์ และจังหวัดใกล้เคียงซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ จะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่กิโลกรัมละ 22 บาท หรือ ตันละ 22,000 บาท อย่างแน่นอน

“ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิที่มีอยู่ตามโรงสีต่างๆ ในจังหวัดสุรินทร์ขณะนี้มีการสั่งซื้อจากพ่อค้าผู้ส่งออกและพ่อค้ารายใหญ่ไว้หมดแล้ว พร้อมได้สั่งสีเป็นข้าวสารไว้หมดแล้วเช่นกัน รอเพียงการนำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดเท่านั้น” นายอนันต์ กล่าว

บุรีรัมย์เพิ่มพื้นที่ปลูกรับโอกาสทอง
แห่ซื้อพันธุ์ข้าวหอมฯเกลี้ยงสหกรณ์

ทางด้าน จ.บุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้เมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกหอมมะลิ 105 ที่ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ เตรียมไว้จำหน่ายให้กับเกษตรกรสำหรับฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปี 2551/52 กว่า 2,000 ตัน ไม่พอขาย เนื่องจากเกษตรกรได้แห่ซื้อไปจนหมดไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ในพื้นที่เริ่มขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าว แม้ว่าราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวปลูกหอมมะลิจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากปีที่ผ่านมากิโลกรัมละ 14 บาท ปีนี้เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 25 บาท

ล่าสุดทางชุมนุมสหกรณ์ฯ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อเตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพันธุ์ข้าวโดยจะเจรจาขอซื้อพันธุ์ข้าวหอมมะลิจาก จ.อุบลราชธานี และ จ.ร้อยเอ็ด เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร พร้อมยอมรับว่ามีเสียงบ่นจากเกษตรกรถึงราคาพันธุ์ข้าวปลูกที่สูงขึ้น แต่ชี้แจงว่าเป็นไปตามกลไกของตลาด

สำหรับ จ.บุรีรัมย์ เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวหอมมะลิใหญ่ที่สุดของไทยและเป็นข้าวหอมมะลิคุณภาพดี มีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 3.5 ล้านไร่ ได้ผลผลิตปีละกว่า 1.2 ล้านตัน ซึ่งราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในขณะนี้สูงถึงกิโลกรัมละ 21 บาท หรือตันละ 21,000 บาท ส่วนข้าวสารกิโลกรัมละ 38 บาท

นางรุ่งอรุณ สุจริภา ผู้จัดการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิกว่า 2,000 ตัน ที่ชุมนุมสหกรณ์เตรียมไว้ขายแก่เกษตรกรและสหกรณ์ ทั้งจังหวัดจำนวน 45 สหกรณ์ ที่มีสมาชิกกว่า 1 แสนราย ขณะนี้เหลือเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิเพียง 10 ตัน เท่านั้นและได้มีผู้เจรจาขอซื้อจนหมดแล้ว แม้ราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละ 25 บาท แต่ก็มีเกษตรกรพากันมาซื้อไปจนหมด

ทั้งนี้ เนื่องจากปีนี้ราคาข้าวพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกษตรกรเตรียมเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ โดยขณะนี้พันธุ์ข้าวปลูกในจังหวัดบุรีรัมย์เริ่มขาดแคลนและสหกรณ์ได้เตรียมเจรจาขอซื้อพันธุ์ข้าวจากสหกรณ์การเกษตรบุญฑริก จ.อุบลราชธานี อีก 20 ตัน เพื่อสำรองไว้ขาย แต่คาดว่าจะไม่เพียงพอ จึงเตรียมเจรจาขอซื้อพันธุ์ข้าวจากสหกรณ์ใน จ.ร้อยเอ็ด เพิ่มอีก

“มีเกษตรกรหลายรายบ่นเรื่องราคาพันธุ์ข้าวปลูกที่พุ่งสูงขึ้น แต่ก็ชี้แจงว่าเป็นตามกลไกตลาด เนื่องจากข้าวราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ชุมนุมสหกรณ์ยังรับประกันคุณภาพพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรซื้อ และรับประกันราคา โดยเกษตรกรที่ซื้อพันธุ์ข้าวจากชุมนุมสหกรณ์ จะมีการรับซื้อและให้ราคาสูงกว่าท้องตลาดกิโลกรัมละ 30-50 สตางค์อีกด้วย” นางรุ่งอรุณ กล่าว

ศูนย์พันธุ์ข้าวสุรินทร์เร่งผลิตทั้งวัน
สนองชาวนา 4 จังหวัดทุ่งกุลาร้องไห้

ขณะที่นายทรงศักดิ์ สุรัฐติกุล ผู้อำนวยการ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุรินทร์ กรมการค้า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผย ว่า ปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวภายในศูนย์ฯ ที่มีไว้จำหน่ายให้กับเกษตรกรทั่วไป ทั้งข้าวหอมมะลิ พันธุ์ กข. 15 , ข้าวหอมมะลิ 105 และ ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ 105 ขณะนี้ได้จำหน่ายให้กับเกษตรกรไปจำนวนมากแล้ว เหลืออยู่เพียง 600 ตันเท่านั้น จากทั้งหมดที่มีอยู่ในสต็อกของศูนย์ฯ ตั้งแต่ต้นปีจำนวน 3,500 ตัน

โดยในจำนวน 600 ตัน ดังกล่าวต้องกันไว้จำหน่ายให้กับโครงการอยู่ดีมีสุข จำนวน 300 ตัน ที่เหลืออีก 300 ตนจำหน่วยให้เกษตรกรทั่วไปซึ่งล่าสุดมีการสั่งจองเข้ามาเป็นจำนวนมากจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทางศูนย์ฯจำเป็นต้องจำกัดจำนวนของการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้แก่เกษตรกรตามความจำเป็น ซึ่งอาจจะไม่ได้ตามความต้องการทั้งหมดของแต่ละราย เพื่อเป็นการกระจายพันธุ์ข้าวให้ถึงมือเกษตรกรผู้ปลูกอย่างแท้จริง

ขณะเดียวกันศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุรินทร์ ได้เร่งการผลิตโดยนำพันธุ์ข้าวเปลือกที่เก็บไว้ในสต็อกมาเข้าสู่ขั้นตอนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว กันตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่ ขบวนการทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ ขั้นตอนการคัดเมล็ดพันธุ์แบบใช้ตะแกรงและลม เป็นต้น ก่อนบรรจุใช้ถุงๆ ละ 25 กิโลกรัม ซึ่งเครื่องจักรสามารถผลิตได้วันละ 20-22 ตัน/วัน เพื่อเร่งให้บริการทันตามความต้องการของเกษตรกรใน 4 จังหวัดพื้นที่รับผิดชอบซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้แหล่งผลิตข้าวหอมมะลิโลก คือ จ. บุรีรัมย์ ,ร้อยเอ็ด ,ศรีสะเกษ และ จ. สุรินทร์

“ขณะนี้คิวจองซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ กข.15 และ กข.105 และข้าวหอมมะลิอินทรีย์สุรินทร์มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันที่ 28 เม.ย. นี้ทางศูนย์จะเปิดให้เกษตรกรที่สั่งจองเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ ให้มาซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวทั้ง 2 สายพันธุ์ได้ เพื่อรองรับและแก้ปัญหาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ขาดแคลน ซึ่งเป็นที่ต้องการของเกษตรกรเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้” นายทรงศักดิ์ กล่าว

นายทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ ของศูนย์ฯ จำหน่ายกิโลกรัมละ 15.50 บาท ปรับราคาสูงขึ้นจากปีที่แล้วเพียง 50 สตางค์เท่านั้น โดยบรรจุขายเป็นกระสอบๆ ละ 25 กิโลกรัม ราคา 387.50 บาท ซึ่งราคาไม่แพงเหมือนข้าวเปลือกหอมมะลิตามราคาตลาดในปัจจุบัน

“ศูนย์เมล็ดข้าวสุรินทร์ เป็นหน่วยงานของรัฐจัดตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้ปลูกพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ ผ่านการคัดกรองเป็นอย่างดี จะทำเกษตรกรได้ผลผลิตข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพจริงๆ จึงไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาเมล็ดพันธุ์เพื่อหวังผลกำไรแต่อย่างใด” นายทรงศักดิ์ กล่าว
นางรุ่งอรุณ สุจริภา ผจก.ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจ.บุรีรัมย์
ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสุรินทร์ เร่งผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิตลอดทั้งวันให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในขณะนี้



บรรดาโรงสีขึ้นป้ายแย่งซื้อข้าวหอมมะลิ กก.ละ 20 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น