ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจแสนสุขจับ 3 หนุ่มรถขนเงินของบริษัท แซมโก้ ร่วมกันฉกเงินจากตู้เอทีเอ็ม กว่า 2 ล้านบาท
วันนี้ (8 เม.ย 51) พ.ต.อ.ชัยชนะ จิตต์ธรรม ผกก.สภ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากนายรัฐภูมิ ลิขิตนนท์ หัวหน้าศูนย์เงินสด พัทยา บริษัท แซมโก้ ว่า มีเจ้าหน้าที่ขนเงินสดของบริษัทแอบใช้กุญแจเปิดตู้ฉกเงินจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารสาขาต่างๆ ในพื้นที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมานั้นที่เงินสดสูญหายเป็นจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบพบเงินภายในตู้เอทีเอ็มของธนาคารทหารไทย หน้าสถานบันเทิงกาแลคซี่ บางแสน สูญหายไปจำนวน 750,000 บาท
เมื่อรับแจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญบริษัท แซมโก้ มาให้ข้อมูล โดยพบว่าเมื่อเร็วๆ นี้ทางบริษัทฯ ได้ไล่เจ้าหน้าที่ของบริษัทบางคนออกไป เนื่องจากมีการทุจริตในหน้าที่และพัวพันกับการสูญหายของเงินในตู้เอทีเอ็มในครั้งที่แล้ว และในเวลาต่อมาได้ไล่พนักงานอีกคนออกเนื่องจากแอบเล่นการพนันในบริษัทฯ
พ.ต.อ.ชัยชนะ กล่าวต่อว่า หลังจากได้รับข้อมูลดังกล่าวจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกติดตามกลุ่มพนักงานที่ถูกไล่ออกจากงาน และสืบทราบว่าพนักงานทั้ง 2 คนนั้นได้ส่วนพัวพันการฉกทรัพย์ภายในตู้เอทีเอ็มจริง จึงขอหมายศาลออกติดตามตัวบุคคลทั้งสอง ซึ่งพบว่าอาศัยอยู่ในเขตเมืองพัทยา มาทำการตรวจสอบขยายผล
ต่อมาสามารถจับกุมตัวได้ทราบชื่อว่า คือ นายทัศไนย์ มะนะวนิช อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/5 ม.8 ต.นาจอมเทียน และ นายธรรมศักดิ์ เอี่ยมสำอาง อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/9 ม.3 ต.บางไผ่ เขตบางแค กทม.
หลังถูกจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ให้การรับสารภาพว่าตนได้ถูกบริษัทฯ ไล่ออกจากงานจริง และหลังถูกไล่ออกจากงานแล้ว พวกตนเกิดความเจ็บแค้นจึงติดต่อกับเพื่อนที่ยังทำงานอยู่ในบริษัท คือนายก้อง กุจิรพันธ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 ม.3 ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยได้เข้ามาร่วมมือในการฉกเงินภายในตู้ครั้งนี้ เนื่องจากนายก้องมีกุญแจไขตู้เอทีเอ็ม ตามธนาคารต่าง ในเขตพื้นที่ เช่น ธนาคารทหารไทย, ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารธนชาต
ต่อมาตำรวจสามารถติดตามจับกุมนายก้องได้ในพื้นที่เมืองพัทยา เช่นเดียวกัน หลังจากที่ได้รู้ว่าเพื่อนร่วมทีมถูกจับกุมได้แล้ว พร้อมกับยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน แอบฉกเงินในตู้เอทีเอ็มจริง เมื่อวันที่ 6 เมษายน เป็นจำนวน เงิน 750,000 บาท แล้วนำมาแบ่งกัน โดยนัดหมายแบ่งเงินที่บริเวณปั้มน้ำมันเจทสาขาอ่าวอุดม คนละ 2 แสนบาทเศษ ส่วนที่บริษัทอ้างว่ามีเงินหายไปกว่า 2 ล้านนั้น ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่รู้จริงๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เงินจากตู้เอทีเอ็มเพียง 2 แสนกว่าบาทนั้น โดยต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป