ตร.ติวเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยขนถ่ายเงิน ป้องกันโจรหัวใส ปล้นเงินขณะขนถ่ายไปยังตู้เอทีเอ็ม หลังเกิดเหตุคนร้ายต่อสู้กับ ตร.หนีลอยนวล พร้อมนำวงจรปิด จีพีเอส จีพีอาร์เอส ระบบติดตั้ง หรือเครื่องติดตามหาเงินมาศึกษาและให้มืออาชีพถ่ายทอดวิชาแก่ จนท.เพื่อป้องกันเหตุปล้น หยามอำนาจรัฐ เน้นให้แบงก์ประสานตร.ก่อนขนย้ายเงินจำนวนมากไปจุดล่อแหลม เพื่อจัดหน่วยอรินทราชคุ้มกันตลอดเส้นทาง
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร.ปอ1 เป็นประธานในการสัมมนาความร่วมมือด้านการรักษาความปลอดภัยในการขนส่ง และดูแลรักษาเงินสด เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย และแก้ไขปัญหารถขนเงินถูกโจรกรรม ร่วมกับ พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.และ นายสายัณห์ ปริวัตร ผู้ช่วยผู้ว่าการสายปฏิบัติการธนาคารแห่งปะเทศไทย บริษัทที่ให้บริการในการขนส่งและจัดการเงินสด สถาบันการเงิน และสมาคมธุรกิจประกันภัย
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่า สถาบันทางการเงิน ตกเป็นเป้าหมายในการชิงทรัพย์และโจรกรรมของคนร้าย โดยในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2550 พบว่า รถขนเงินสดของบริษัทที่ให้บริการในการขนส่งและจัดการเงินสด ถูกโจรกรรมถึง 3 ครั้ง ขณะที่ในช่วงปีนี้ ก็พบว่ามีการปล้นเงินจากเคาน์เตอร์ธนาคารต่างๆ ถึง 4 ครั้งด้วยกัน โดยในการโจรกรรมรถขนเงินสด 3 ครั้งนั้น ปรากฏว่า มีครั้งหนึ่งที่เกิดการต่อสู้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้น และไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ซึ่งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการสัมมนาภายใ ว่าเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง โดยได้ประสานกับผู้ประกอบการขนเงินเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล พบว่าบางครั้งมีผู้ร่วมขบวนการส่วนหนึ่งเป็นพนักงานในบริษัท จึงได้ประสานทางธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือในการกำหนดมาตรการร่วมกันในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งต่อไปอาจจะกำหนดเป็นข้อบังคับ เป็นกฎหมายขึ้นมา ซึ่งคาดว่ามาตรฐานขั้นต่ำในการดำเนินธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสดและบริษัทที่ให้บริการในการขนส่งและการจัดการเงินสดให้กับสถาบันการเงินต่างๆ จะดีขึ้น
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระบวนการรักษาความปลอดภัยทั้งในส่วนของตำรวจ และในส่วนของผู้ประกอบการ ได้มีการศึกษาเทคโนโลยีซึ่งต่างประเทศใช้ ไม่ว่าจะเป็นกล้องวงจรปิด จีพีเอส จีพีอาเอส หรือแม้กระทั่งระเบิดสำหรับติดตั้ง หรือเครื่องติดตามหาเงิน และในการสัมมนาได้นำเอาผู้มีความรู้ในด้านต่างๆ นี้ มาถ่ายทอดความรู้ถึงการป้องกันเหตุโจรกรรม และการป้องกันต่างๆ ด้วย
ด้าน นายสายัณห์ กล่าวว่า ห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทย ในฐานะที่ผลิตธนบัตรและแจกจ่ายธนบัตรไปให้ประชาชน เงินที่หมุนเวียนภายในธนาคารมีมาก และมีการเคลื่อนย้ายเงินเป็นประจำ ในการนำเงินไปใส่ตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ทั่วประเทศ จึงได้ขอความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลพื้นทื่ ที่เป็นที่ตั้งของศูนย์จัดการธนบัตร ตลอดจนเส้นทางผ่านของรถขนเงินของธนาคารต่างๆ เพื่อให้ความปลอดภัยแก่รถขนเงินและเจ้าหน้าที่
ขณะที่ พล.ต.ต.วิบูลย์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการปล้นรถขนเงิน หลังจากเกิดเหตุการณ์ พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส ผช.ผบ.ตร.ปอ1 ได้ประชุมและประสานกับทางนครบาล โดยรถขนเงินจะมีประมาณ 6-7 บริษัท และมีธนาคารในพื้นที่นครบาล ปริมณฑล โดยต่อจากนี้เวลาจะทำการขนเงิน จะให้ประสานงานระหว่างท้องที่ กับรถขนเงินและธนาคาร ว่าขนเงินเวลาใดและจุดใดล่อแหลมบ้าง ก็จะให้ตำรวจเข้าไปดูแล หากมีการขนเงินเกินสิบล้านบาท จะให้หน่วยอรินทราชของนครบาลเข้าไปช่วยดูแล และปัญหาอีกอย่างที่สำคัญคือเรื่องการจอดรถ เราจำเป็นต้องให้มีการจอดรถในที่ที่ปลอดภัย หรืออาจจะกำหนดจุดจอดรถในที่ที่ไม่กีดขวางการจราจร โดยหลังจากที่ประชุมผ่านไปแล้ว ก็พบว่าเหตุการณ์ต่างๆ ก็ลดลงแทบจะไม่มีเหลือ