เอเยนซี – ตลาดหลักทรัพย์กระดานเอของจีนในปีหมูที่ผ่านมาเติบโตด้วยตัวเลข 268.68% มาเป็นอันดับหนึ่งของโลกและส่งผลให้มูลค่าตลาดกระดานเอขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของโลกหลังหุ้นเรดชิปและบลูชิปต่างแห่กันมาจดทะเบียนในตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา
ศูนย์วิจัยการบริหารมูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์จีนได้เปิดเผยรายงานในช่วงปลายสัปดาห์โดยระบุว่า หลังปิดตลาดในวันที่ 28 ธ.ค. 2007 ตลาดกระดานเอมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 32.44 ล้านล้านหยวน ซึ่งจัดอยู่ในระดับมาตรฐานตลาดหลักทรัพย์และกลายเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกตามหลังสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอังกฤษ โดยเฉพาะตลาดกระดานเอที่ในรอบปีที่ผ่านมาเติบโตถึง 268.68% ซึ่งเป็นสถิติการเติบโตสูงที่สุดในโลก
ศูนย์วิจัยฯยังได้คาดการอีกว่า การที่หุ้นเรดชิปเริ่มเดินทางกลับมาตุภูมิ บวกกับผู้บุกเบิกธุรกิจทั้งหลายที่กำลังนิยมการจดทะเบียนในตลาดมากขึ้น ทำให้ในปีนี้มูลค่าหลักทรัพย์ในตลาดจีนอาจจะทะลุ 50 ล้านล้านหยวน และในกระดานเออาจจะมีกลุ่มสมาชิกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 แสนล้านหยวนมากกว่า 50 ราย มูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านหยวนมากกว่า 300 บริษัท
โดยในปีที่ผ่านมา มีจำนวนบริษัทที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้น 126 บริษัท จำนวนหุ้นที่มีคิดเป็น 8.7% ทว่ากลับสามารถสร้างกำไรสุทธิในตลาดที่จดทะเบียนคิดเป็นสัดส่วน 24.49% โดยในกลุ่มนี้มี 16 ที่เป็นหุ้นบลูชิปที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 80,000 ล้านหยวน และสร้างมูลค่าในตลาดกระดานเอได้มากถึง 10.49 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 92.29% ของหุ้นหน้าใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทหลักทรัพย์คุณภาพดีเป็นกำลังหลักของตลาดกระดานเอในช่วงปีที่ผ่านมา
ในขณะที่กระแสการบูมของตลาดจีนให้ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์ของจีนเองก็สามารถทำกำไรไปได้ไม่น้อย โดยในรอบปีที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์ที่ผลประกอบการมากว่า 100,000 หยวนเพิ่มขึ้นจาก 48 บริษัทในปี 2006 เป็น 105 บริษัทในปีนี้ โดยมีบริษัทไชน่า กาแลคซี ซิเคียวริตีส์ มาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยบริษัทกั๋วไท่ จวินอัน ซิเคียวริตีส์ และเซินอิ๋น วั่นกั๋ว ซิเคียวริตีส์
ศูนย์วิจัยฯได้ระบุว่า มูลค่าตลาดหลักทรัพย์นอกจากจะเป็นบทพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีประสิทธิภาพในการวัดศักยภาพของบริษัทที่จดทะเบียนเท่านั้น ยังเป็นดัชนีชี้วัดความมั่งคั่งและการพัฒนาของเศรษฐกิจจีนอีกด้วย และเวลาที่การบริหารตลาดหลักทรัพย์กำลังจะกลายเป็นเป้าหมายหลักทางเศรษฐกิจของจีนรองจากผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในเร็วๆนี้
