ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.ไพรบึง ศรีสะเกษ รวบหนุ่ม-สาว ชาว ส.ป.ป.ลาว 15 คน หนีภัยแล้งลักลอบหนีเข้าเมืองเพื่อเดินทางไปหางานทำที่กรุงเทพฯ เผย มีขบวนนายหน้าดำเนินการนำพาเข้าประเทศด้านด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี มาพักระหว่างทางที่ จ.ศรีสะเกษ ก่อนเดินทางสู่ปลายทาง โดยเสียค่าหัวรายละ 3,000 บาท แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า พ.ต.อ.ภาสกร สุบรรณ ณ อยุธยา ผกก.สภ.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ สืบทราบว่า ที่บริเวณปั๊มน้ำมันคาสตอล ถ.โชคชัย-เดชอุดม (สาย 24) หมู่ที่ 4 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ มักมีการขนชาว ส.ป.ป.ลาว ลักลอบหนีเข้าเมือง จากช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี มาส่งขึ้นรถยนต์เพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ เป็นประจำ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.รณกร วงศ์ภู่มณี สว.สป.สภ.ไพรบึง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการดักซุ่มเข้าตรวจสอบและจับกุม
ต่อมาได้มีรถปิกอัพ จำนวน 3 คัน บรรทุกชายหญิง ส่วนมากเป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 14-20 ปี เข้ามาจอดบริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว และพากันเดินเข้าไปในบริเวณห้องน้ำของปั๊มน้ำมัน ส่วนรถปิกอัพทั้ง 3 คัน หลังจากส่งผู้โดยสารแล้วได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นวัยรุ่นชาย-หญิงทั้งหมด ซึ่งมีท่าทางพิรุธคล้ายกับคนต่างด้าว และจากการขอตรวจค้นบัตรประจำตัวประชาชน ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยแต่อย่างใด จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.ไพรบึง
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.แก้ว สมมะรด อายุ 31 ปี สัญชาติลาว อยู่บ้านห้วยเม็ก เมืองชนะสมบูรณ์ แขวงจำปาสัก ส.ป.ป.ลาว ให้การรับสารภาพ ว่า ตนกับพวกทั้งหมดเป็นชาวลาวอยู่ที่แขวงจำปาสักและแขวงสาละวัน ซึ่งประสบปัญหาภัยแล้งมานานหลายเดือนแล้ว จึงได้พากันหลบหนีเข้าประเทศไทย ทางด้านด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี โดยผ่านนายหน้าที่มาติดต่อจะพาไปทำงานที่กรุงเทพฯ และเสียค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บาท
จากนั้นได้พากันขึ้นรถปิกอัพ จำนวน 3 คัน เดินทางออกจากช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี มาที่ส่งไว้ที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว และคนขับรถแจ้งว่าจะมีรถมารับช่วงต่อนำพวกตนไปที่กรุงเทพฯ จากนั้นรถปิกอัพทั้ง 3 คัน ก็ได้ขับหลบหนีไปและพวกตนได้ถูกตำรวจ สภ.ไพรบึงจับกุม ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าว (สัญชาติลาว) เข้ามาในราชอาณาจักรไทย และอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า พ.ต.อ.ภาสกร สุบรรณ ณ อยุธยา ผกก.สภ.ไพรบึง อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ สืบทราบว่า ที่บริเวณปั๊มน้ำมันคาสตอล ถ.โชคชัย-เดชอุดม (สาย 24) หมู่ที่ 4 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ มักมีการขนชาว ส.ป.ป.ลาว ลักลอบหนีเข้าเมือง จากช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี มาส่งขึ้นรถยนต์เพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ เป็นประจำ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.รณกร วงศ์ภู่มณี สว.สป.สภ.ไพรบึง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการดักซุ่มเข้าตรวจสอบและจับกุม
ต่อมาได้มีรถปิกอัพ จำนวน 3 คัน บรรทุกชายหญิง ส่วนมากเป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 14-20 ปี เข้ามาจอดบริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว และพากันเดินเข้าไปในบริเวณห้องน้ำของปั๊มน้ำมัน ส่วนรถปิกอัพทั้ง 3 คัน หลังจากส่งผู้โดยสารแล้วได้ขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นวัยรุ่นชาย-หญิงทั้งหมด ซึ่งมีท่าทางพิรุธคล้ายกับคนต่างด้าว และจากการขอตรวจค้นบัตรประจำตัวประชาชน ปรากฏว่า ไม่มีผู้ใดมีบัตรประจำตัวประชาชนคนไทยแต่อย่างใด จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.ไพรบึง
จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.แก้ว สมมะรด อายุ 31 ปี สัญชาติลาว อยู่บ้านห้วยเม็ก เมืองชนะสมบูรณ์ แขวงจำปาสัก ส.ป.ป.ลาว ให้การรับสารภาพ ว่า ตนกับพวกทั้งหมดเป็นชาวลาวอยู่ที่แขวงจำปาสักและแขวงสาละวัน ซึ่งประสบปัญหาภัยแล้งมานานหลายเดือนแล้ว จึงได้พากันหลบหนีเข้าประเทศไทย ทางด้านด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี โดยผ่านนายหน้าที่มาติดต่อจะพาไปทำงานที่กรุงเทพฯ และเสียค่าใช้จ่ายคนละ 3,000 บาท
จากนั้นได้พากันขึ้นรถปิกอัพ จำนวน 3 คัน เดินทางออกจากช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี มาที่ส่งไว้ที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว และคนขับรถแจ้งว่าจะมีรถมารับช่วงต่อนำพวกตนไปที่กรุงเทพฯ จากนั้นรถปิกอัพทั้ง 3 คัน ก็ได้ขับหลบหนีไปและพวกตนได้ถูกตำรวจ สภ.ไพรบึงจับกุม ดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าว (สัญชาติลาว) เข้ามาในราชอาณาจักรไทย และอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป