xs
xsm
sm
md
lg

“ชาญยุทธ” แนะตั้ง กก.แก้ไขน้ำขาดแคลนในเมืองท่องเที่ยวระยะยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา- อดีต ส.ส.ชลบุรี ผลักดันการจัดตั้งคณะกรรมการติดตามแก้ไขปัญหาน้ำขาดแคลนในระยะยาว โดยใช้เป็นวาระแห่งเมืองพัทยา ชี้ หากไม่ติดตามดำเนินการต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และการท่องเที่ยวในอนาคต

วันนี้ (12 มี.ค.) นายชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีต ส.ส.ชลบุรี กล่าวในที่ประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ว่า สำหรับเมืองพัทยาถือเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จนสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศปีละกว่า 6 หมื่นล้านบาท แต่พบว่าจนถึงปัจจุบันยังประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาที่ใช้ในการอุปโภค บริโภค อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าสร้างผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง หากไม่มีการติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ก็อาจมีการขยายในวงกว้างมากขึ้น

สำหรับสาเหตุของการขาดแคลน สิ่งสำคัญคงเป็นเรื่องของการวางแผนรองรับในระยะยาว ที่ไม่ชัดเจน มีเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อีกทั้งปริมาณผู้ใช้น้ำก็ไม่สอดคล้องกับข้อมูลที่การประปามีอยู่ โดยจะเห็นได้จากจำนวนประชากรตามสำนักทะเบียนราษฎร์ ที่มีอยู่เพียง 9 หมื่นคน แต่สภาพความเป็นจริงแล้วมีอยู่มากถึง 3 แสนกว่าคน หรือสูงกว่าความเป็นจริงกว่า 300%

เรื่องนี้คงต้องหาแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจน และหาแผนรองรับในอนาคต โดยการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด โดยมีสมาคม หรือเมืองพัทยา ซึ่งจะมีผู้บริหารชุดใหม่ เข้ามารับเป็นแม่งาน เพื่อติดตามและตรวจสอบปัญหาอย่างจริงจัง

โดยเฉพาะการวางแผนการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการจัดสรรงบประมาณสนับสนุน ซึ่งส่วนตัวแล้วที่ผ่านมาในขณะดำรงตำแหน่ง ส.ส.ชลบุรี ก็เคยเสนอให้มีการปรับปรุงระบบการผลิตให้เพิ่มขึ้นจากเดิม พร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมในการผลักดันงบประมาณการแก้ไขให้ จนได้รับข่าวดีว่าในปี 2551 การประปาฯก็ได้รับงบประมาณจำนวนกว่า 50 ล้านบาท ในการเพิ่มกำลังผลิตที่โรงกรองน้ำหนองกลางดง จากอัตรา1,500 ลบ./ชม.เป็น 2,000 ลบ.ม./ชม.ในงบประมาณ 20 ล้านบาท และโรงกรองน้ำบางละมุง จากอัตรา 1,000 ลบ.ม./ชม.เป็น 1,500 ลบ.ม./ชม. คาดคงจะทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมได้จำนวนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้นก็ควรมีการวางแผนผลักดันหาแหล่งน้ำดิบเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน เพราะถึงแม้จะเพิ่มอัตรากำลังผลิตไปได้อีกเป็นจำนวนมาก แต่หากแหล่งน้ำดิบไม่เพียงพอก็ย่อมได้รับผลกระทบ เนื่องจากจะมาหวังแต่เพียงน้ำดิบจาก East Water หรือ กรมชลประทานเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้น คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นจึงต้องร่วมทำงานหาแนวคิดใหม่ๆ อาทิ การผันน้ำจากลุ่มน้ำบางปะกง การผันน้ำจากอ่างบางพระมาเพิ่มเติม

ด้าน นายไพฑูรย์ อรชร รองผู้จัดการสำนักงานการประปาเมืองพัทยา กล่าวว่า สำหรับปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่เมืองพัทยาที่ผ่านมา เกิดขึ้นจากสาเหตุของท่อประปาแตกเป็นหลักซึ่งก็ได้ดำเนินการซ่อมแซมไปแล้ว ส่วนโครงการอื่นๆ นอกจากการเพิ่มอัตรากำลังผลิตที่โรงกรองน้ำทั้ง 2 แห่งแล้ว ยังได้รับการจัดสรรงบประมาณอีก 50 ล้านบาทในปี 2551 เพื่อปรับปรุงเส้นท่อในเขตเมืองพัทยาทั้งหมดอีก 39 โครงการ เนื่องจากเส้นท่อเหล่านี้ผ่านการใช้งานมานานกว่า 30 ปี จึงทำให้เกิดการชำรุดและแตกรั่วบ่อยครั้ง

ขณะที่ในระยะยาวนั้นปัจจุบันสำนักงานประปาส่วนภูมิภาค ได้ทำเรื่องขอกู้เงินจากภาคเอกชนในงบประมาณในปี 2552-2553 รวมจำนวนถึง 803 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินการเพิ่มกำลังผลิตจาก 3,500 ลบ.ม./ชม.เป็น 9,500 ลบ.ม./ชม.ซึ่งจะทำให้ปริมาณการจ่ายน้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2.2 แสน ลบ.ม./วัน ขณะที่ปัจจุบันมีการจ่ายน้ำใช้อยู่ในที่อัตรา 1.2 แสน ลบ.ม./วัน ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับได้อีกกว่า 2-5 ปี

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วในที่ประชุมก็มีมติเห็นชอบในการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาและดูแลการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง 1 ชุด โดยมีสมาคมและเมืองพัทยาจะเป็นแม่งาน เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น