xs
xsm
sm
md
lg

กปร.-พิษณุโลกหนุนตั้งกลุ่มสหกรณ์แปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการออนไลน์ – เขื่อนแควน้อยได้น้ำเพิ่มอีกเกือบ 400 ล้าน ลบ.ม.ขณะที่กปร.เตรียมเดินหน้าพัฒนาอาชีพเสริมรายได้ให้แก่ชาวบ้าน โดยร่วมกับ จ.พิษณุโลก หนุนตั้งกลุ่มสหกรณ์การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้

นางสาวศรีนิตย์ บุญทอง รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยว่า จากการติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้างเขื่อนแควน้อย มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% งานส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนงานคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2551 นี้ และจะเก็บน้ำได้จริงหลังจากเขื่อนสร้างเสร็จ

ที่น่ายินดีคือ มีการสำรวจพื้นที่ และตรวจสอบการกักเก็บน้ำ พบว่า จะสามารถเก็บกักน้ำไดถึง 1,077 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 400 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากเดิมนั้นมีการคิดคำนวณจากแผนที่ฉบับเก่าอาจมีความคลาดเคลื่อนได้ โดยปัจจุบันได้สำรวจพื้นที่อีกครั้งเพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งกรมชลประทานได้ยืนยันว่า จะสามารถเก็บกักน้ำได้ถึง 1,077 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อไปราษฎรจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งการบรรเทาปัญหาน้ำท่วม แก้ไขปัญหาน้ำแล้งของราษฎรในพื้นที่โครงการและใกล้เคียง ที่มักประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากเป็นประจำทุกปี และเมื่อถึงหน้าแล้งก็ขาดแคลนน้ำ ดังนั้น ปัญหาต่างๆ คงจะได้บรรเทาเบาบางลง อันจะส่งผลประโยชน์ต่อราษฎรโดยตรง

นอกจากนี้ ในเรื่องของการส่งเสริมอาชีพให้แก่ราษฎร สำนักงาน กปร.ได้ร่วมกับจังหวัดพิษณุโลก และกรมชลประทาน เตรียมความพร้อมในการส่งเสริมอาชีพให้แก่ราษฎร ทั้งด้านการเกษตร การแปรรูปผลผลิต และการทำผลิตภัณฑ์ ใช้ในครัวเรือน เพื่อเป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ให้แก่ราษฎรได้มีความมั่นคงยิ่งขึ้นด้วย

นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยถึงยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับประชาชน ว่า ภายหลังจากที่มีการก่อสร้างเขื่อนแควน้อย จังหวัดได้ลงพื้นที่ เพื่อสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเร่งดำเนินการจัดหาบุคลากรในการฝึกอาชีพเพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชน

จากการสำรวจความต้องการของประชาชน พบว่า ส่วนหนึ่งมีความสนใจในเรื่องของการทำอาชีพแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ โดยจังหวัดได้ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ ภายหลังจากที่มีการสร้างเขื่อนแควน้อย จำนวน 5,000,000 บาท ให้ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มสหกรณ์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และให้การสนับสนุนในเรื่องการจัดสร้างสถานที่ รวมถึงการจัดซื้ออุปกรณ์ให้กับสมาชิกสหกรณ์ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก

นายรังสรรค์ แก้ววิเศษ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลคันโช้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาอาชีพราษฎรกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ในขณะนี้สหกรณ์ได้มีการขอใช้พื้นที่จาก ส.ป.ก.4-01 ได้เรียบร้อยแล้ว และกำลังดำเนินการในส่วนของการขออนุญาตใช้แรงงานและเครื่องจักรเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายจากอุตสาหกรรมจังหวัด ปัจจุบันได้มีประชาชนสนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกทั้งสิ้น 163 ครัวเรือน โดยประชาชนทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีทักษะพื้นฐานการทำอาชีพหัตถกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากไม้ เช่น ทำเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างการรอคำสั่งอนุมัติจากอุตสาหกรรมจังหวัด สมาชิกบางรายได้หันไปประกอบอาชีพอื่นๆ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว เช่น รับทำงานแปรรูปไม้ที่บ้าน ทำไร่มันสำปะหลังหรือรับจ้างทำงานภายในเขื่อนแควน้อยฯ คาดว่า หลังจากที่ได้รับการอนุมัติก็จะมีการดำเนินงานส่งเสริมอาชีพในด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้อย่างจริงจัง เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนรอบเขื่อน ให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเพิ่มมากขึ้น

นายรังสรรค์ กล่าวต่อไปว่าเรามั่นใจว่าผลผลิตที่ได้จากอุตสาหกรรมไม้ที่ผลิตออกมาจะมีคุณภาพและสวยงามเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งที่ผ่านมาสหกรณ์ได้นำผลงานไปจัดแสดงและจำหน่ายในมหกรรมสินค้าระดับจังหวัดหลายครั้ง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักท่องเที่ยว คาดว่าภายหลังจากที่มีการส่งเสริมอาชีพแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ จะทำให้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้น และในอนาคตข้างหน้าเรามีแผนที่จะปรับเปลี่ยนไปใช้วัตถุดิบจากไม้ไผ่กิ่งไม้หรือซากไม้ต่างๆ ที่ตาย เพื่อมาประยุกต์ใช้ให้เป็นงานที่มีความแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น