xs
xsm
sm
md
lg

ค่านิยม “เมียฝรั่ง” ทำเศรษฐกิจอีสานเฟื่อง-เงินสะพัดเฉียด 9 พันล./ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ขอนแก่น – ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มข.เผยค่านิยม “เมียฝรั่ง”ในภาคอีสานส่งผลทำให้เศรษฐกิจภาคอีสานขยายตัวมากขึ้น เงินสะพัดเกือบ 9 พันล้านบาท/ปี เฉพาะปี 46 หญิงอีสานมีผัวฝรั่งเฉียด 2 หมื่นคู่ สาวโคราชรั้งแชมป์ครองใจชายตาน้ำข้าว รองลงมาเป็นขอนแก่น-อุดรฯ

“ผลกระทบของคู่สมรสชาวต่างชาติที่มีต่อเศรษฐกิจอีสาน”เป็นอีกหนึ่งในงานวิจัยของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ที่คณะวิจัยได้ศึกษาแล้วเสร็จ ปัจจุบันการสมรสข้ามวัฒนธรรมระหว่างผู้หญิงไทยและชายชาวต่างชาติถือได้ว่าเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอีสาน ค่านิยมดังกล่าว ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านมิติทางวัฒนธรรม สังคมและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการจัดการ มข.มองว่า เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปอย่างมีทิศทางที่ยั่งยืน คณะวิจัยจึงได้ทำการวิจัยถึงผลกระทบของคู่สมรสชาวต่างชาติที่มีต่อเศรษฐกิจภาคอีสาน โดยคาดหวังให้ภาครัฐนำผลการวิจัยดังกล่าวมาวางพื้นฐานทางเศรษฐกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนสาขาเศรษฐกิจด้านนั้นๆอย่างจริงจังในอนาคต

อาจารย์วิไลวรรณ มหาวีรวัฒน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มข. หนึ่งในผู้ร่วมวิจัยเปิดเผยว่าจากการที่ผู้หญิงอีสานมีการสมรสกับชาวต่างชาตินั้น ส่งผลทำให้การขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของภาคอีสานเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งสิ้นกว่า 8,666 ล้านบาท โดยเฉพาะในส่วนของการเพิ่มด้านการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ จักรยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือนที่มีมูลค่าถึง 4,569 ล้านบาท สร้างรายได้และการจ้างงานให้กับประชาชนในท้องถิ่นเพิ่มมากขึ้นรวมทั้งสิ้น 747,094 ล้านบาท

“จากข้อมูลเมื่อปี 2546 พบว่ามีคู่สมรสชาวต่างชาติในภาคอีสานสูงมากถึง 19,000 กว่าคู่ จังหวัดที่มีคู่สมรสชาวต่างชาติสูงสุดคือ นครราชสีมา รองลงมาคือขอนแก่นและอุดรธานี จะสังเกตเห็นว่าทั้ง 3 จังหวัดนี้ล้วนแต่เป็นจังหวัดที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆของภาค”อาจารย์วิไลวรรณกล่าวและว่า

สำหรับฐานข้อมูลค่าใช้จ่ายของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้น ทางทีมงานผู้วิจัยได้มาจากการสำรวจของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานภาคอีสานในปี 2546 ซึ่งพบว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่างประเทศ ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าพาหนะเดินทางไปที่ต่างๆ ค่าของใช้ส่วนตัวและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ระบุ

ทั้งนี้พบว่าลักษณะการใช้จ่ายของคู่สมรสชาวต่างชาตินั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมก่อนที่จะแต่งงานกับชาวต่างชาติ ประกอบด้วย
1.หลังจากแต่งงานกับชาวต่างชาติแล้ว ผู้หญิงอีสานเหล่านี้จะโอนเงินกลับมาให้ครอบครัวเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง โดยการโอนเงินจะตกอยู่ประมาณเดือนละ 9,600 บาท

2.ในทุกๆรอบ 1 ปี สมาชิกทุกคนของคู่สมรสมักจะเดินทางกลับมาเยี่ยมพ่อแม่และญาติพี่น้องในประเทศไทยเป็นประจำ โดยจะเดินทางกลับมาในช่วงเวลาที่ตรงกับฤดูหนาวในต่างประเทศ หรือเป็นช่วงเวลาที่สามีชาวต่างชาติได้หยุดพักประจำปี การเดินทางเข้ามาลักษณะดังกล่าวนี้ จะมีระยะเวลาพักอยู่ในประเทศไทยโดยเฉลี่ยประมาณ 1 เดือน

ในช่วงเวลาที่คู่สมรสได้พักอาศัยในประเทศไทยนั้น ได้มีการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค บริโภคสินค้าและบริการต่างๆ ทั้งค่าอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า ของใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆเช่นรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โทรทัศน์ ตู้เย็นฯลฯจะถูกซื้อหามาใช้มาขึ้น

3.การใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆโดยพบว่า คู่สมรสทุกคู่จะมีการเดินทางไปท่องเที่ยวพร้อมกับพ่อแม่และญาติฝ่ายหญิงแทนที่จะเลือกเที่ยวตามลำพัง

4.เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นโดยประมาณ เฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่เดือนละประมาณ 126,000 บาท/ครอบครัว ซึ่งจากการสำรวจพบว่าครอบครัวที่มีการใช้จ่ายสูงสุดถึงเดือนละ 1,000,000 บาทนั้น เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อที่ดินและสร้างบ้านเพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับมาตั้งถิ่นฐานยังท้องถิ่นเดิมในอนาคต ทั้งนี้ลักษณะบ้านที่สร้างใหม่นั้นจะมีความแข็งแรงคงทนและทันสมัยมากขึ้น

เช่น ครอบครัวของนางสำเนียง ชาวบ้านหนองใหญ่ หมู่ 10 ต.เขาสวนกวาง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น หลังจากแต่งงานกับสามีชาวสวิสเซอร์แลนด์ได้ 2 ปี สามารถกลับมาสร้างบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวให้กับครอบครัวได้ หลังจากซื้อบ้านจัดสรรในตัวเมืองขอนแก่นให้กับตนเองแล้ว และหลังจากนั้นอีก 1 ปีให้หลังเธอได้ส่งเงินมาให้พ่อสร้างบ้านใหม่ 2 ชั้นเพิ่ม ส่วนบ้านชั้นเดียวหลังเดิมยกให้น้องชายไป

อย่างไรก็ตาม อาจารย์วิไลวรรณระบุว่า จากการศึกษาและผลการวิเคราะห์ที่ได้ ชี้ให้เห็นว่านักธุรกิจและภาคเอกชนควรจะมีการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อสามารถสร้างธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่จะรองรับและตอบสนองความต้องการของประชากรกลุ่มนี้ได้เพิ่มขึ้นในอนาคตและในส่วนภาครัฐเองสามารถให้การสนับสนุนและส่งเสริมในสาขาเศรษฐกิจได้ถูกต้อง

ในท้ายที่สุดเมื่อเกิดการขยายตัวของทุกสาขาเศรษฐกิจร่วมกัน จะเป็นผลช่วยทำให้ระบบเศรษฐกิจสามารถพัฒนาไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชากรในภูมิภาคอีสานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น