xs
xsm
sm
md
lg

ผับ-เธคพัทยาขานรับ กม.ห้ามสูบบุหรี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการ-เจ้าของสถานบันเทิงในเมืองพัทยา ขานรับกฎหมายห้ามสูบบุรี่ในเธค-ผับ เตรียมมาตรการ-กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อห้ามปรามและทำความเข้าใจกับลูกค้า เชื่ออนาคตลูกค้ารับได้ เพราะเป็นกฎหมายทำเหมือนกันหมดทั้งประเทศ แม้ช่วงแรกจะได้รับผลกระทบบ้างก็ตาม ชี้เป็นภาพรวมที่ดีด้านการท่องเที่ยวของชาติ

“ผู้จัดการออนไลน์” ลงพื้นที่เพื่อสำรวจข้อมูลผลกระทบหลังจากที่พระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 ได้กำหนดให้สถานบันเทิงประเภทผับ บาร์ ร้านอาหาร ตลาดทุกประเภท ทั้งตลาดสด ตลาดขายเสื้อผ้า รวมถึงตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดเปิดท้ายขายของต่างๆ บังคับทั้งที่ติดแอร์ และไม่ติดแอร์ ห้ามสูบบุหรี่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2551 นั้น

นายนคร ผลลูกอินทร์ เจ้าของสถานบันเทิง “นอทตี้ ผับ” สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา เผยความคิดเห็นต่อกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานบันเทิง ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ก.พ.) ว่า เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายควรให้ความสำคัญ เพราะปัจจุบันมีผู้ที่ไม่สูบบุหรี่อีกมาก การออกกฎหมายดังกล่าวก็เป็นการดีในการคุ้มครองผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ที่ต้องการมาใช้บริการในสถานบันเทิง

ในเรื่องของผลประกอบการที่อาจะขลุกขลักบ้าง แต่คิดว่าคงเป็นแค่ช่วงแรก ซึ่งเป็นช่วงระหว่างการปรับสภาพ แต่ในที่สุดก็จะกลายเป็นเรื่องที่พึงปฏิบัติชัดเจน ลูกค้าที่มาใช้บริการก็จะมีความเข้าใจในเรื่องการห้ามสูบบุหรี่ในสถานบันเทิงมากขึ้น และให้ความร่วมมือในที่สุดอย่างเป็นภาพรวม คือถ้าทำแล้วทำกันหมด ระเบียบในการใช้บริการสถานบันเทิงก็จะเป็นในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งจะฝ่าฝืนไม่ได้

นายนคร กล่าวอีกว่า ในส่วนของสถานประกอบการเอง ก็จะมีการปรับพื้นที่จัดมุมส่วนตัวไว้ให้สำหรับ ผู้ที่สูบบุหรี่ โดยแยกพื้นที่อย่างชัดเจน ซึ่งในขณะนี้มีการประชาสัมพันธ์บอกลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเกี่ยวกับกฎหมายห้ามสูบบุหรี่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาทางสถานประกอบการก็ดำเนินการตามนโยบายของทางกระทรวงมหาดไทยอย่างเคร่งครัดโดยตลอด เรื่องดังกล่าวก็จะเป็นภาพที่ดีด้านการท่องเที่ยวในที่สุด ถ้าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือกันทั้งเจ้าของสถานบันเทิง และลูกค้าที่ไปใช้บริการ

“ตอนนี้เราให้ความสำคัญเรื่องกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ ซึ่งเราหนักไปทางการประชาสัมพันธ์ ทั้งขึ้นตัวหนังสือผ่านจอโปรเจคเตอร์ และการบอกปากต่อปากกับลูกค้า ส่วนเรื่องกฎหมายควบคุมการเปิดและปิดบริการนั้น ต้องรองนโยบายจากทางมหาดไทย คาดว่าเร็วๆ นี้คงมีผลบังคับเป็นรูปธรรม ซึ่งเราก็พร้อมดำเนินการตามแนวนโยบายการจัดระเบียบสังคมของรัฐบาล” นายนคร กล่าว

ขณะที่ นายเกษมสันต์ สายทอง ผู้บริหารสถานบันเทิง “เดอะคอทเทจ พัทยา” อีกหนึ่งสถานบันเทิงในเมืองพัทยาที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงความพร้อมในเรื่องการรองรับกฎหมายดังกล่าวว่า ขณะนี้ร้านได้แจ้งเตือนถึงโทษของการฝ่าฝืนกฎหมายการห้ามสูบบุหรี่ โดยผู้ฝ่าฝืนที่เป็นคนสูบจะโดนปรับจำนวน 2,000 บาท ส่วนสถานบันเทิงที่ปล่อยให้มีการสูบบุหรี่จะโดนปรับ 20,000 บาท โดยขณะนี้ได้ดำเนินการจัดทำสติ๊กเกอร์แจ้งเตือนเพื่อนำมาปิดในร้าน เพื่อสานต่อนโยบายของภาครัฐในเรื่องของการให้ความสำคัญในเรื่องการสูบบุหรี่

ทั้งนี้ ช่วงแรกคิดว่าคงมีผลกระทบมากแต่ไม่มากนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่ทางรัฐบาลออกกฎหมายตัวนี้มา เพราะเป็นส่วนหนึ่งในการลดอัตราการเจ็บป่วย และเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ ซึ่งทางผู้ประกอบการเองก็พร้อมจะดำเนินการตามความถูกต้อง ถึงแม้จะติดขัดบ้างในช่วงแรก แต่ต่อไปคงเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกที่ทำเหมือนกันหมด

“ตอนนี้เราจะติดสติกเกอร์แจ้งเตือนก่อน เพราะความชัดเจนต่อกฎหมายดังกล่าวทราบมาว่ารัฐบาลให้ผ่อนผันได้ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งระหว่างนี้เราก็ค่อยปรับเปลี่ยน และแนะนำลูกค้าไปเรื่อยๆ คิดว่าในอนาคตกฎหมายตัวดังกล่าวก็จะมีความชัดเจน ต่อไปลูกค้าคงเข้าใจและทำตาม ซึ่งแต่ละสถานประกอบการเอง ต้องหากลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าของตนเอง” นายเกษมสันต์ ระบุ

ด้าน นายพงศ์พันธ์ พันธุวร ผู้จัดการร้าน Green Bottle Pub ถนนพัทยาสายสอง ย่านพัทยากลาง ซึ่งรองรับการใช้บริการของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ เปิดเผยว่า ในส่วนของการประกอบธุรกิจร้านอาหารที่ส่วนใหญ่มีแต่ลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการ ก็คงจะอึดอัดพอสมควร แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงต้องยอมรับและปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในตอนนี้ก็ได้จัดโซนให้ลูกค้าได้สูบบุหรี่ไว้บริเวณด้านหน้าของร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และลูกค้าส่วนใหญ่ก็ปฏิบัติตาม แต่ในส่วนเรื่องของผลกระทบต่อจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการนั้นก็คิดว่าคงไม่มีผลกระทบอะไรมาก เพราะถ้าทุกที่ยอมรับ และปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ต่อไปก็ถือเป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ เรื่องกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานบันเทิงจะเป็นอีกหนึ่งประเด็นหลักที่ทางผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ และเจ้าของสถานประกอบการแต่ละแห่งต้องดำเนินมาตรการต่างๆ ในแบบฉบับของตัวเอง ที่จะสามารถความคุมกฎหมายตัวดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับภาพรวมด้านการเอาใจใส่สุขภาพประชาชนทั้งประเทศ ในส่วนของการใช้บริการในสถานบันเทิง

กำลังโหลดความคิดเห็น