นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดการรณรงค์ป้องกันโรคมะเร็งเนื่องในวันมะเร็งโลก 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เป็นวันมะเร็งโลก โดยปีนี้กำหนดแนวทางรณรงค์เพื่อต่อต้านและป้องกันโรคมะเร็งว่า "หนูรักชีวิตสดใส ไร้ควันบุหรี่ ในวัยเด็ก" (Smoke-free for childhood) เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ทุกสถานที่ เป็นเขตปลอดบุหรี่ ป้องกันภัยจากบุหรี่มือสองโดยเน้นที่กลุ่มเด็ก เนื่องจากพบว่าเด็กประมาณ 700 ล้านคนหรือครึ่งหนึ่งของเด็กทั่วโลก ได้รับพิษจากควันบุหรี่โดยผู้สูบบุหรี่รอบข้างหรือบุหรี่มือสอง ทำให้มีปัญหาสุขภาพหลายด้านคือ ปอดมีการเจริญเติบโตช้า ติดเชื้อทางเดินหายใจ ติดเชื้อที่หูส่วนกลาง และเป็นโรคภูมิแพ้ง่ายกว่าเด็กที่ไม่ได้รับควันบุหรี่มือสอง
นายแพทย์มงคล กล่าวว่า ขณะนี้โรคมะเร็งกำลังเป็นปัญหาทั่วโลก ล่าสุดในปี 2550 ทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคนี้เกือบ 8 ล้านคน หรือร้อยละ 13 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดกว่า 2 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตอยู่ในประเทศที่มีฐานะยากจนและมีรายได้ระดับปานกลาง มะเร็ง 5 ชนิดที่พบมากที่สุด ได้แก่ มะเร็งปอด เสียชีวิตปีละ 1.3 ล้านคน มะเร็งกระเพาะอาหาร ปีละเกือบ 1 ล้านคน มะเร็งตับปีละ 662,000 คน มะเร็งลำไส้ใหญ่ปีละ 655,000 คน และมะเร็งเต้านมปีละ 502,000 คน องค์การอนามัยโลกคาดการณ์โรคมะเร็งจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2558 จะมีคนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 9 ล้านคน และในอีก 23 ปีหรือ พ.ศ. 2574 จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มเป็น 11.4 ล้านคน สำหรับประเทศไทยในปี 2549 มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 66,000 ราย ในผู้ชายพบมะเร็งปอดมากที่สุด 5,535 ราย รองลงมาคือโรคมะเร็งตับ ส่วนผู้หญิงพบมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด 1,484 ราย รองลงมาคือ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม
นายแพทย์มงคล กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งระดับชาติ โดยวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้ จะเพิ่มพื้นที่คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 กำหนดให้สถานบันเทิงประเภทผับ บาร์ ร้านอาหาร ตลาดทุกประเภท ทั้งตลาดสด ตลาดขายเสื้อผ้า รวมถึงตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดเปิดท้ายขายของต่างๆ ด้วย บังคับทั้งที่ติดแอร์และไม่ติดแอร์ ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้จะมีโทษปรับตามกฎหมาย โดยเจ้าของผู้ดูแลสถานที่ มีโทษปรับ 20,000 บาท ส่วนประชาชนที่สูบในเขตห้ามจะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ถือว่าเป็นการคุ้มครองสุขภาพของคนกลุ่มใหญ่ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ 53 ล้านคน ให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่มือสอง
นายแพทย์มงคล กล่าวว่า ขณะนี้โรคมะเร็งกำลังเป็นปัญหาทั่วโลก ล่าสุดในปี 2550 ทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคนี้เกือบ 8 ล้านคน หรือร้อยละ 13 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดกว่า 2 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตอยู่ในประเทศที่มีฐานะยากจนและมีรายได้ระดับปานกลาง มะเร็ง 5 ชนิดที่พบมากที่สุด ได้แก่ มะเร็งปอด เสียชีวิตปีละ 1.3 ล้านคน มะเร็งกระเพาะอาหาร ปีละเกือบ 1 ล้านคน มะเร็งตับปีละ 662,000 คน มะเร็งลำไส้ใหญ่ปีละ 655,000 คน และมะเร็งเต้านมปีละ 502,000 คน องค์การอนามัยโลกคาดการณ์โรคมะเร็งจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2558 จะมีคนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 9 ล้านคน และในอีก 23 ปีหรือ พ.ศ. 2574 จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มเป็น 11.4 ล้านคน สำหรับประเทศไทยในปี 2549 มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง 66,000 ราย ในผู้ชายพบมะเร็งปอดมากที่สุด 5,535 ราย รองลงมาคือโรคมะเร็งตับ ส่วนผู้หญิงพบมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด 1,484 ราย รองลงมาคือ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม
นายแพทย์มงคล กล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งระดับชาติ โดยวันที่ 11 กุมภาพันธ์ นี้ จะเพิ่มพื้นที่คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 กำหนดให้สถานบันเทิงประเภทผับ บาร์ ร้านอาหาร ตลาดทุกประเภท ทั้งตลาดสด ตลาดขายเสื้อผ้า รวมถึงตลาดนัดสวนจตุจักร ตลาดนัดเปิดท้ายขายของต่างๆ ด้วย บังคับทั้งที่ติดแอร์และไม่ติดแอร์ ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้จะมีโทษปรับตามกฎหมาย โดยเจ้าของผู้ดูแลสถานที่ มีโทษปรับ 20,000 บาท ส่วนประชาชนที่สูบในเขตห้ามจะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ถือว่าเป็นการคุ้มครองสุขภาพของคนกลุ่มใหญ่ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ 53 ล้านคน ให้ปลอดภัยจากควันบุหรี่มือสอง