พลายเป๋มีโอกาสรอดตายแล้วหลังผู้มีบารมีใจบุญเตรียมให้การช่วยเหลือ

ฉะเชิงเทรา - ฝันที่เป็นจริงของพลายเป๋ ช้างป่าผู้น่าสงสาร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน เริ่มปรากฏมีหนทางรอดตายแล้ว หลังผู้มีบารมีใจบุญนำหมอช้างผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลสัตว์ลำปางเข้ามาดูอาการ พร้อมประสานเจ้าของพื้นที่ผู้รับผิดชอบ เตรียมให้การช่วยเหลือเคลื่อนย้ายไปทำการรักษาเร่งด่วนแล้ว

นายบุญชู สุวรรณโชติ ชาวบ้านหมู่บ้านคลองตะเคียน จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ขณะนี้ช้างพลายป่าขาเป๋ หรือตามที่เจ้าหน้าที่เรียก คือ พลายสามพราน ที่ถูกบ่วงดักสัตว์ป่าของนายพราน รัดข้อเท้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บาดแผลเกิดอาการบวมอักเสบมีเนื้องอกที่ข้อเท้า จนข้อเท้ามีขนาดใหญ่ผิดรูป ตั้งแต่ พ.ศ.2549 จนถึงปัจจุบันในแนวเขตป่ากันชน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่าพื้นราบต่ำรอยต่อ 5 จังหวัดผืนสุดท้ายของประเทศ ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง

ได้เริ่มมีความหวังอย่างเป็นรูปธรรมขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อคุณหญิงวรรณี วิทยะสิรินันท์ อดีตประธานบริษัทธานินทร์ อุตสาหกรรม จำกัด และเจ้าของบริษัทร่วมทุนไทยญี่ปุ่น ธานินทร์ เอลน่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ได้เดินทางเข้ามาดูอาการช้างป่าพลายสามพรานด้วยตนเองเมื่อวานนี้ (9 ก.พ.)

พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิเพื่อนช้าง จ.ลำปาง ได้เข้าประสานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เตรียมขอทำการเคลื่อนย้ายช้างป่าพลายขาเป๋ นำไปรักษาอย่างถูกวิธี ยังสถานพยาบาลสัตว์ใน จ.ลำปาง

โดยทีมงานของคุณหญิงวรรณี เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมประชุมที่กรมอุนทยานฯ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.50 โดยมีคณะสัตว์แพทย์ นำโดย น.สพ.อลงกรณ์ มหาอรรณพ พร้อมด้วยอธิบดีกรมอุทยาน และผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย มติที่ประชุมเห็นควรให้ทำการเคลื่อนย้ายช้างป่าพลายสามพรานไปทำการรักษา ตามความเห็นของคณะสัตว์แพทย์ ที่เข้าร่วมประชุม

ขณะนี้ ทางทีมงานได้มีการเตรียมแผนการขนย้ายช้างป่าพลายขาเป๋ ออกจากพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน ไปทำการรักษายังสถานพยาบาลสัตว์ที่จังหวัดลำปาง โดยมีกำหนดประมาณช่วงปลายเดือน ก.พ.51 นี้ ซึ่งทางคุณหญิงวรรณี จะเป็นผู้รับภาระออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตั้งงบประมาณ และรอการฟื้นฟูสุขภาพของช้างพลายที่บาดเจ็บให้แข็งแรงก่อนทำการเคลื่อนย้าย

ด้าน น.สพ.ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลช้าง จ.ลำปาง มูลนิธิเพื่อนช้าง อดีต ผอ.สถาบัน คชบาลแห่งชาติ หนึ่งในคณะทำงาน ที่เดินทางเข้ามาดูอาการช้างพลายป่าขาเป๋ด้วยตนเอง กล่าวถึงอาการของช้างพลายสามพรานว่า อาการช้างตัวนี้สุขภาพไม่สมบูรณ์ ทรุดไปค่อนข้างจะผอมมาก มีเนื้องอกขนาดใหญ่ที่ข้อเท้าประมาณ 5-6 กก.

แต่ยังสามารถที่จะนำไปทำการผ่าตัดรักษาให้หายได้ แต่ปัญหายังอยู่ที่ว่า หลังการผ่าตัดแล้วขาจะเป๋หรือไม่ เพราะลักษณะบาดแผลกระดูกผิดรูปไปแล้ว ประกอบกับระยะทางการขนย้ายค่อนข้างไกลเกรงว่าช้างจะไปไม่รอด ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และระหว่างการผ่าตัดจะต้องเสียเลือดมาก จึงต้องใช้ความพยายามอย่างสูงสุดเพราะบาดแผลมีขนาดใหญ่ และอันตราย

จากประสบการณ์ที่เคยทำการผ่าตัดเนื้องอกในสัตว์ที่ผ่านมาจะต้องเสียเลือดมาก และอาจมากถึง 20 ลิตร แต่เชื่อว่าจะทำการถ่ายเลือดให้ได้เหมือนสัตว์ทั่วไป และในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่าจะรักษาบาดแผลให้หายได้อย่างแน่นอน

สำหรับปัญหาของการรักษาที่ผ่านมาจนทำให้อาการลุกลามบาดแผลบวมใหญ่ไปมากนั้น เป็นเพราะช้างไม่อยู่กับที่ และเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดในครั้งแรก ที่ไม่เอาช้างไปโรงพยาบาล ให้ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน

“การเคลื่อนย้ายช้างในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของกรมอุทยานฯ เองว่าจะส่งไปรักษายังสถานพยาบาลแห่งใด เพราะที่จังหวัดลำปางมีสถานพยาบาลช้างรวม 2 แห่ง คือ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย และโรงพยาบาลช้างจังหวัดลำปาง ที่มีศักยภาพในการรักษาอาการบาดเจ็บที่ค่อนข้างรุนแรงในลักษณะนี้ได้” น.สพ.ปรีชา กล่าว