ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนร้ายอำมหิตย่องกลางดึกใช้มีดสับคอสาวใหญ่หวิดขาดวิ่น หมกศพคลุมผ้าห่มนวมตายคาห้องนอน ขณะตำรวจมุ่งปม เชื่อเป็นการฆาตกรรมชิงทรัพย์ หลังตรวจสอบพบกระเป๋าเงินหายไปพร้อมแหวนทองคำ 3 วง
วันนี้ (29 ม.ค.) ร.ต.ท.สมาน ศรีพูล ร้อยเวรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุฆาตกรรม มีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 128 ม.5 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิฑูลย์ ขุนบุญจันทร์ (สวญ.)
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวไม่ทาสี หลังคามุงสังกะสี ตั้งอยู่ริมคลองแขวงกลั่น ล้อมรอบด้วยบ่อเลี้ยงปลา ภายในห้องนอน พบร่างของ นางวัชรี รอดนิล อายุ 42 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพถูกผ้านวมเปื้อนเลือดผืนใหญ่คลุมอยู่ค่อนตัว และพบคราบเลือดกระจายเกลื่อนนองพื้น ที่บริเวณหน้าต่างบ้านติดกับเตียงนอน พบรอยเท้าคนร้ายเปื้อนคราบเลือดติดขอบหน้าต่าง และที่พื้นปูนรอบชายคาบ้านมีรอยเท้าเดินเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร ไปยังด้านหลังบ้านลงสู่ชายคลอง ในที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานอื่นใดของคนร้ายตกอยู่
จากการชันสูตรพลิกศพของ นพ.กสิวัฒน์ ศรีประดิษฐ์ แพทย์เวร รพ.บ้านโพธิ์ พบว่า ผู้เสียชีวิตนอนในลักษณะคว่ำหน้าขาด้านซ้ายก่ายหมอนข้างติดหน้าต่างสวมชุดนอนสีม่วงถลกขึ้นสูงถึงเอว ท่อนล่างสวมกางเกงในเพียงตัวเดียว สภาพถูกของมีคมฟันที่บริเวณข้างลำคอด้านซ้าย บาดแผลยาวประมาณ 10 ซม.ลึกถึงกระดูกต้นคอ ตัดหลอดลมขาด พร้อมระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชม.
หลังการสอบสวน นายมารุต ยิ้มละมัย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.2 ต.แสนภูดาษ บุตรเขยผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ปกติผู้ตายมีอาชีพค้าขายส่งไข่ไก่ จากฟาร์มไปยังร้านค้าปลีกและร้านค้าในโรงงานอุตสาหกรรมย่าน อ.บ้านโพธิ์ และบางปะกง โดยจะออกทำงานนำไข่ไปส่งให้กับลูกค้าทุกวันในเวลาประมาณ 05.00 น.แต่วันนี้เห็นผิดปกติไม่ยอมลุกออกมาจากที่นอน และไม่ไปทำงานตามปกติ จึงได้เข้ามาตาม
โดยร้องเรียกหลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ และยังเห็นบ้านยังถูกปิดล็อกประตูอย่างหนาแน่น จึงได้เดินอ้อมมาหลังบ้านจนพบรอยคราบเลือด และหน้าต่างเปิดออกอยู่ เมื่อเข้าไปดูที่หน้าต่างจึงพบว่าแม่ยายเสียชีวิตแล้ว จึงได้ไปตามภรรยาตน และญาติๆ ที่อยู่ริมคลองฝั่งตรงข้ามให้เข้ามาดูพร้อมกลับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน น.ส.ชุติมา รอดนิล อายุ 21 ปี บุตรสาวผู้ตาย กล่าวว่า ปกติมารดาตนจะอยู่เพียงลำพังคนเดียวที่บ้านหลังดังกล่าว โดยตนและน้องๆ รวมสามคน และน้องเขย จะไปอยู่อาศัยที่บ้านญาติที่ฝั่งคลองตรงข้าม โดยน้องเขยจะช่วยขับรถไปขายไข่ให้ ที่ผ่านมา มารดาตนไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครรุนแรงมาก่อน มีเพียงเรื่องลูกค้าในโรงงานที่เคยรับไข่ไก่จากพ่อค้าอีกเจ้าหนึ่งพร้อมกัน หันมาซื้อไข่ไก่จากแม่ตนเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรรุนแรงและสามารถพูดคุยกันได้ เนื่องจากเป็นเครือญาติห่างๆ กัน จึงไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้
สำหรับทรัพย์สินติดตัวนั้น ปกติมารดาตนจะสวมแหวนทองจำนวน 4 วง น้ำหนักวงละ 1 สลึง และสร้อยคอสามกษัตริย์ หนัก 1 บาท 1 เส้น นอกจากนี้ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ทราบว่าได้ไปเก็บเงินจากลูกค้ามาได้ประมาณ 1 หมื่นบาท ใส่กระเป๋าคาดเอวไว้ ซึ่งได้หายไปพร้อมกับสร้อยคอ และแหวนทองคำ 3 วง โทรศัพท์มือถือโนเกียอีก 1 เครื่อง
ขณะที่ น.ส.ลาวรรณ แสงอรุณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 ม.4 ต.คลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันคนละฝั่งคลอง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ ได้พบรถจักยานยนต์ต้องสงสัย 1 คัน มีผู้ขับขี่ 1 คน มาจอดหลบอยู่ที่บริเวณปากทางเข้าบ้านของผู้ตาย แต่จำลักษณะไม่ได้ เพราะเป็นช่วงเวลาค่ำ และไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้ที่ใช้ถนนทั่วไปและเลี้ยวรถเข้ามาหลบรถใหญ่ที่วิ่งผ่านหวาดเสียวบนถนน
ร.ต.ท.สมาน กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากมีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ และผู้ตายไม่เคยทะเลาะกับใครมาก่อน ในที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานของคนร้ายตกอยู่ มีเพียงลอยเท้าเปื้อนคราบเลือดเดินบนพื้นคอนกรีตเท่านั้น แต่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักหรืออยู่ในละแวกใกล้เคียง จึงรู้ช่องทางเข้าออกหลบหนี และทราบว่าผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว ซึ่งจะได้ส่งศพไปชันสูตรยังสถาบันนิติเวชต่อไป
วันนี้ (29 ม.ค.) ร.ต.ท.สมาน ศรีพูล ร้อยเวรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุฆาตกรรม มีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 128 ม.5 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิฑูลย์ ขุนบุญจันทร์ (สวญ.)
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวไม่ทาสี หลังคามุงสังกะสี ตั้งอยู่ริมคลองแขวงกลั่น ล้อมรอบด้วยบ่อเลี้ยงปลา ภายในห้องนอน พบร่างของ นางวัชรี รอดนิล อายุ 42 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพถูกผ้านวมเปื้อนเลือดผืนใหญ่คลุมอยู่ค่อนตัว และพบคราบเลือดกระจายเกลื่อนนองพื้น ที่บริเวณหน้าต่างบ้านติดกับเตียงนอน พบรอยเท้าคนร้ายเปื้อนคราบเลือดติดขอบหน้าต่าง และที่พื้นปูนรอบชายคาบ้านมีรอยเท้าเดินเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร ไปยังด้านหลังบ้านลงสู่ชายคลอง ในที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานอื่นใดของคนร้ายตกอยู่
จากการชันสูตรพลิกศพของ นพ.กสิวัฒน์ ศรีประดิษฐ์ แพทย์เวร รพ.บ้านโพธิ์ พบว่า ผู้เสียชีวิตนอนในลักษณะคว่ำหน้าขาด้านซ้ายก่ายหมอนข้างติดหน้าต่างสวมชุดนอนสีม่วงถลกขึ้นสูงถึงเอว ท่อนล่างสวมกางเกงในเพียงตัวเดียว สภาพถูกของมีคมฟันที่บริเวณข้างลำคอด้านซ้าย บาดแผลยาวประมาณ 10 ซม.ลึกถึงกระดูกต้นคอ ตัดหลอดลมขาด พร้อมระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8-12 ชม.
หลังการสอบสวน นายมารุต ยิ้มละมัย อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม.2 ต.แสนภูดาษ บุตรเขยผู้พบศพคนแรก ให้การว่า ปกติผู้ตายมีอาชีพค้าขายส่งไข่ไก่ จากฟาร์มไปยังร้านค้าปลีกและร้านค้าในโรงงานอุตสาหกรรมย่าน อ.บ้านโพธิ์ และบางปะกง โดยจะออกทำงานนำไข่ไปส่งให้กับลูกค้าทุกวันในเวลาประมาณ 05.00 น.แต่วันนี้เห็นผิดปกติไม่ยอมลุกออกมาจากที่นอน และไม่ไปทำงานตามปกติ จึงได้เข้ามาตาม
โดยร้องเรียกหลายครั้ง แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ และยังเห็นบ้านยังถูกปิดล็อกประตูอย่างหนาแน่น จึงได้เดินอ้อมมาหลังบ้านจนพบรอยคราบเลือด และหน้าต่างเปิดออกอยู่ เมื่อเข้าไปดูที่หน้าต่างจึงพบว่าแม่ยายเสียชีวิตแล้ว จึงได้ไปตามภรรยาตน และญาติๆ ที่อยู่ริมคลองฝั่งตรงข้ามให้เข้ามาดูพร้อมกลับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน น.ส.ชุติมา รอดนิล อายุ 21 ปี บุตรสาวผู้ตาย กล่าวว่า ปกติมารดาตนจะอยู่เพียงลำพังคนเดียวที่บ้านหลังดังกล่าว โดยตนและน้องๆ รวมสามคน และน้องเขย จะไปอยู่อาศัยที่บ้านญาติที่ฝั่งคลองตรงข้าม โดยน้องเขยจะช่วยขับรถไปขายไข่ให้ ที่ผ่านมา มารดาตนไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครรุนแรงมาก่อน มีเพียงเรื่องลูกค้าในโรงงานที่เคยรับไข่ไก่จากพ่อค้าอีกเจ้าหนึ่งพร้อมกัน หันมาซื้อไข่ไก่จากแม่ตนเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรรุนแรงและสามารถพูดคุยกันได้ เนื่องจากเป็นเครือญาติห่างๆ กัน จึงไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้
สำหรับทรัพย์สินติดตัวนั้น ปกติมารดาตนจะสวมแหวนทองจำนวน 4 วง น้ำหนักวงละ 1 สลึง และสร้อยคอสามกษัตริย์ หนัก 1 บาท 1 เส้น นอกจากนี้ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ทราบว่าได้ไปเก็บเงินจากลูกค้ามาได้ประมาณ 1 หมื่นบาท ใส่กระเป๋าคาดเอวไว้ ซึ่งได้หายไปพร้อมกับสร้อยคอ และแหวนทองคำ 3 วง โทรศัพท์มือถือโนเกียอีก 1 เครื่อง
ขณะที่ น.ส.ลาวรรณ แสงอรุณ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/1 ม.4 ต.คลองนิยมยาตรา อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันคนละฝั่งคลอง ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ ได้พบรถจักยานยนต์ต้องสงสัย 1 คัน มีผู้ขับขี่ 1 คน มาจอดหลบอยู่ที่บริเวณปากทางเข้าบ้านของผู้ตาย แต่จำลักษณะไม่ได้ เพราะเป็นช่วงเวลาค่ำ และไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเข้าใจว่าเป็นผู้ที่ใช้ถนนทั่วไปและเลี้ยวรถเข้ามาหลบรถใหญ่ที่วิ่งผ่านหวาดเสียวบนถนน
ร.ต.ท.สมาน กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากมีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ และผู้ตายไม่เคยทะเลาะกับใครมาก่อน ในที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานของคนร้ายตกอยู่ มีเพียงลอยเท้าเปื้อนคราบเลือดเดินบนพื้นคอนกรีตเท่านั้น แต่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนรู้จักหรืออยู่ในละแวกใกล้เคียง จึงรู้ช่องทางเข้าออกหลบหนี และทราบว่าผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว ซึ่งจะได้ส่งศพไปชันสูตรยังสถาบันนิติเวชต่อไป