ฉะเชิงเทรา - ตำรวจแปดริ้วโชว์ผลงาน ตามดมกลิ่นรวบขบวนการค้ายาบ้า แอบขนเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ได้ของกลางกว่า 6,750 เม็ด แต่ส่อแววพิลึก หลังผู้ต้องหาโวยของกลางหายอื้อหลายรายการ ขณะเดียวกันยังได้นำตัวหนุ่มใหญ่อ้างตัวเป็นหน้าม้าตุ๋นชาวบ้าน สนิทกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สามารถรับเคลียร์คดีได้ เข้ามาร่วมแถลงข่าวด้วย
เมื่อค่ำวานนี้ (1 พ.ค.) พ.ต.อ.มณฑล มีอนันต์ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปส.ภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายเกษียณ ศรีวิชัย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.2 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา นายดำเนิน ฮวยเจริญ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 ม.6 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา นายสมคิด รุ่งจ๋า อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.6 ต.เสม็ดใต้ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 6,750 เม็ด อาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 4 นัด ปืนพกสั้นขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 24 นัด เสื้อเกาะกันกระสุน 1 ตัว เงินสด 100,000 บาท บัญชีเงินฝาก 800,000 บาท หลังจากทำการจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 71 ม.6 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า มาเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ห้องโถงชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา
โดยระบุว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยอมรับสารภาพว่าได้รับซื้อยาบ้ามาจากพ่อค้านอกพื้นที่อีกทอดหนึ่งในราคามัดละ 210,000 บาท ครั้งละ 2-5 มัด (มัดละ 2,000 เม็ด) และนำมาจำหน่ายส่งต่อในราคามัดละ 250,000 บาท จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน เสพยาบ้า และร่วมกันมีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะเดียวกัน นายเกษียณ หนึ่งในผู้ต้องหาได้กล่าวต่อหน้า พ.ต.อ.มณฑล มีอนันต์ และสื่อมวลชนว่า อาวุธปืนของกลางซึ่งทั้งหมดที่ถูกจับกุมมาได้ มีทะเบียนถูกต้องทุกกระบอกนั้น ได้มีอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ยี่ห้อเรมิงตัน หายไปจำนวน 1 กระบอก เสื้อเกราะที่นำมาเป็นของกลางแถลงข่าวก็เป็นคนละตัวกันกับของตน ซึ่งมีลายพรางทหาร ไม่ใช่สีเขียวพื้นขี้ม้าสภาพเก่าขาดวิ่นอย่างที่เห็น นายเกษียณ กล่าว
แต่หลังจากผู้ต้องหาพยายามทวงถามในกรณีดังกล่าวแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกลับนิ่งเงียบเฉย รวมทั้งยาบ้าที่นำมาวางแถลงข่าวยังมีมาแสดงเพียง 6,600 เม็ด ซึ่งไม่ครบตรงตามจำนวนยอดของเนื้อข่าว ตามที่แจกจ่ายในการแถลงข่าวอีกด้วย
พร้อมกันนี้ยังได้นำตัว นายประวิทย์ ชนศุข อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/5 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า ที่อ้างตัวว่ามีความสนิทสนมกับนายตำรวจ จนสามารถวิ่งเต้นเพื่อช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากคดียาเสพติดได้ พร้อมของกลางเงินสด 100,000 บาท อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 9 นัด มาแถลงข่าวด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากผู้ต้องหารายดังกล่าวได้หลอกลวงญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ว่าสามารถวิ่งเต้นกับนายตำรวจจนสามารถทำให้หลุดพ้นจากคดีได้ โดยได้เรียกร้องเงินสดจำนวน 100,000 บาท เป็นค่าดำเนินการ ต่อมาในเวลา 12.00 น.วันที่ 30 เม.ย.51 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนจับกุมตัวได้ พร้อมเงินสดของกลาง 1 แสนบาท ที่บริเวณร้านหนังสือตรงข้าม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
หลังถูกจับกุมผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริง จึงได้นำตัวมาดำเนินคดีตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 143 ในข้อหาเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริต ผิดกฎหมายฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.มณฑล กล่าวหลังผู้ต้องหาโวยของกลางหายหลายรายการว่า ระหว่างนี้ต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยชุดที่เข้าทำการจับกุมนั้นมีด้วยกันสองหน่วยงาน คือ ชุดสืบสวนของ สภ.บางคล้า และชุด ปส.ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา หรืออาจอยู่กับพนักงานสอบสวนของ สภ.บางคล้า ซึ่งหากมีการสูญหาย หรือถูกเปลี่ยนไปจริงก็จะนำของกลางกลับคืนมาให้จงได้ ระหว่างนี้ต้องขอทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน